ป.ป.ช.พบช่องโหว่ กม.ออกเอกสารสิทธิมิชอบ-2ตระกูลดังมีที่ดิน8.3แสนไร่ใหญ่เท่า2จว.
ป.ป.ช. สรุปผลปัญหาการออกเอกสารสิทธิมิชอบ ฮือฮา! เจอ 2 ตระกูลดังถือครองที่ดินรวม 8.3 แสนไร่ ใหญ่เทียบเท่าขนาด จ.สมุทรสงคราม-สมุทรปราการ พบช่องโหว่ให้ถือครองที่ดินได้ไม่จำกัด ยันชัด ส.ค.1 คือต้นตอปัญหาหลัก ให้กรมที่ดินตรวจสอบโดยสุจริต อย่าล้อเล่นกับศาล
จากกรณีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกมาตรการป้องกันการทุจริตเพื่อแก้ไขปัญหาการออกเอกสารสิทธิในที่ดินโดยมิชอบ โดยอยู่ระหว่างเตรียมสรุปเนื้อหานำเสนอแก่คณะรัฐมนตรี เพื่อบังคับใช้แก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยด่วน ขณะเดียวกันในที่ประชุมระหว่างตัวแทนสำนักงาน ป.ป.ช. และตัวแทนหลายหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ได้หารือถึงประเด็นกลุ่มนายทุนที่ครอบครองที่ดินปริมาณมากด้วยนั้น (อ่านประกอบ : ป.ป.ช.ชง รบ.แก้ทุจริตออกเอกสารสิทธิ์ สอบภาษีผู้ครองที่ดินจำนวนมาก-ใช้ ปย.จริงไหม, อย่าดูแค่เจ้าของ-ถ้าทิ้งร้างบี้เก็บภาษี!กรมที่ดินเสนอ ป.ป.ช.แก้ปมออกเอกสารสิทธิมิชอบ)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ภายหลังการหารือดังกล่าวตัวแทนสำนักงาน ป.ป.ช. ได้สรุปประเด็นปัญหาเกี่ยวกับการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบในทางปฏิบัติ ระบุว่า ในด้านกฎหมาย ปัจจุบันพบว่า มี 2 ตระกูลที่ถือครองที่ดินรวมกว่า 8.3 แสนไร่ ตระกูลหนึ่งถือครอง 6.3 แสนไร่ หรือขนาดเทียบเท่า จ.สมุทรปราการ อีกตระกูลหนึ่งถือครอง 2 แสนไร่ หรือเทียบเท่า จ.สมุทรสงคราม โดยต้นตอของสาเหตุนี้เกิดขึ้นจากที่กฎหมายเปิดช่องให้ถือครองที่ดินได้โดยไม่จำกัด
ตัวแทนสำนักงาน ป.ป.ช. ระบุว่า ระบบความคิดปัจจุบันพยายามพูดถึงระบบเศรษฐกิจแบบ 4.0 ระบบ Digital ต้องแยกให้ชัดเจนระหว่างประโยชน์ส่วนรวมกับประโยชน์ส่วนตัว ถ้าประเทศมีระบบคิดเหมือนเดิมคือแบบ Analog ปัญหาก็ยังคงเหมือนเดิม ได้แก่ ปัญหาการติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐ ปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ล้วนแล้วเกิดจากระบบความคิดของคน จึงควรปลูกฝังให้ประชาชนแยกแยะเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนให้ถูกต้องและชัดเจน ขณะเดียวกันประเทศไทยเป็นสังคมไม่รังเกียจการคอร์รัปชั่น เช่น ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ รู้ทั้งรู้ว่ามีการบุกรุกสร้างรีสอร์ท บ้านพัก เพื่อให้ประชาชนขึ้นไปท่องเที่ยว ควรจะต่อต้านโดยไม่ขึ้นไปท่องเที่ยวหรือพักอาศัย
ตัวแทนสำนักงาน ป.ป.ช. ระบุอีกว่า นอกจากนี้หน่วยงานรัฐได้มีการสนับสนุนโดยการออกทะเบียนบ้าน ต่อน้ำต่อไฟ สร้างถนนให้แก่ผู้บุกรุกพื้นที่ของรัฐ และยังมีการรับซื้อสินค้าจากผู้บุกรุก ได้แก่ การรับซื้อยางพารา ข้าวโพด พอระยะเวลานาน ๆ ไปก็นำพื้นที่ที่เกิดจากการบุกรุกไปขอออกเอกสารสิทธิ และนำมาขายต่อแก่นายทุน และยังกรณีที่กลุ่มนายทุนได้จ้างวานให้ประชาชนเข้าไปบุกรุกแล้วนำไปออกโฉนดที่ดินเพื่อง่ายต่อการซื้อ และไม่ต้องรับโทษทางอาญา
ส่วนตัวแทนคณะอนุกรรมการที่จัดทำมาตรการป้องกันการทุจริตเพื่อแก้ไขปัญหาการออกเอกสารสิทธิในที่ดินโดยมิชอบ สำนักงาน ป.ป.ช. ระบุว่า ผลจากการเริ่มบังคับใช้ประมวลกฎหมายที่ดินในวันที่ 1 ธ.ค. 2497 นั้น มองในด้านเทคโนโลยีและรูปแบบการปฏิบัติงานมีความแตกต่างกับปัจจุบันอย่างมาก รวมถึงด้านองค์ความรู้ต่าง ๆ วิสัยทัศน์การถือครองที่ดิน มู,ค่าของที่ดิน และประชากรของประเทศ ประเด็นหลักที่เกิดจากประมวลกฎหมายที่ดินคือ หลักฐานการแจ้งการครองที่ดิน (ส.ค.1) ที่เกิดขึ้นตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน ที่ให้ผู้ครอบครองและใช้ประโยชน์ในที่ดินก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับโดยไม่หนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ ต้องมาแจ้งการครอบครองต่อนายอำเภอภายใน 180 วัน นับตั้งแต่วันที่บังคับใช้ นั่นคือวันที่ 1 ธ.ค. 2497 ดังนั้นสภาพปัญหาการออกเอกสารสิทธิในที่ดินโดยมิชอบเกิดจาก ส.ค.1 อย่างแท้จริง เพราะถ้าไม่มี ส.ค.1 แล้วการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบด้วยกฎหมายคงจะมีความลดน้อยลง
ตัวแทนคณะอนุกรรมการฯ ระบุด้วยว่า ปัจจุบันพบว่ามี ส.ค.1 ที่ยังตกค้างอยู่ประมาณ 10,000 ราย โดยกรมที่ดินได้ดำเนินการแล้วเสร็จประมาณ 2,000 กว่าราย และอยู่ระหว่างการดำเนินการ 300 กว่าราย และในส่วนของการดำเนินการตามมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดินนั้น ศาลได้สั่งให้กรมที่ดินไปตรวจพิสูจน์แล้วรายงานกลับมายังศาลว่าเป็น ส.ค.1 ที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ สำหรับกรณีนี้นายช่างรังวัด และเจ้าพนักงานที่ดินคงไม่กล้าเบี่ยงเบนข้อเท็จจริง หรือล้อเล่นกับศาล เพราะมันอันตรายทุกกรณี เชื่อได้ว่าเจ้าหน้าที่กรมที่ดินได้ดำเนินการโดยสุจริต เว้นแต่จะมีความประมาทเลินเล่อ ไม่ร้ายแรงจากการตรวจสอบหลักฐาน น่าจะให้เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นเข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย
อ่านประกอบ :
กม.ซ้ำ-ทำงานซ้อน!กรมที่ดินชงให้อำนาจเต็ม ป.ป.ช.เพิกถอนที่ดินออกเอกสารสิทธิมิชอบ
พลิกคดี จนท.รัฐร่วมนายทุนออกสารสิทธิมิชอบ ป.ป.ช.เชือดกราวรูดก่อนชง รบ.แก้ด่วน
หมายเหตุ : ภาพประกอบโฉนดที่ดินจาก http://www.rininspired.com