พลิกคดี จนท.รัฐร่วมนายทุนออกสารสิทธิมิชอบ ป.ป.ช.เชือดกราวรูดก่อนชง รบ.แก้ด่วน
“…นี่คือตัวอย่างพฤติการณ์โดยสรุปของบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง จับมือกับกลุ่มเอกชน นายทุน ร่วมกันออกเอกสารสิทธิที่ดินโดยมิชอบ โดยทั้งหมดถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดไปแล้ว โดยจะเห็นได้ชัดว่า ที่ดินที่มีปัญหามากคือบรรดาเอกสารสิทธิจำพวก ส.ค.1 และ น.ส. 3 ก. …”
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานแล้วว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกมาตรการป้องกันการทุจริตเพื่อแก้ไขปัญหาการออกเอกสารสิทธิในที่ดินโดยมิชอบ โดยเตรียมสรุปเนื้อหา และนำเสนอแก่คณะรัฐมนตรี เพื่อบังคับใช้แก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยด่วน (อ่านประกอบ : ป.ป.ช.ชง รบ.แก้ทุจริตออกเอกสารสิทธิ์ สอบภาษีผู้ครองที่ดินจำนวนมาก-ใช้ ปย.จริงไหม)
มาตรการเบื้องต้นที่ ป.ป.ช. เล็งเห็นว่า รัฐบาลควรแก้ไขคือ การยกเลิกแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) โดยให้ผู้ที่ยังถือครอง ส.ค.1 ในปัจจุบันไปยื่นคำร้องต่อกรมที่ดินภายใน 180 วัน เพื่อถูกตรวจสอบว่า ที่ดินดังกล่าวครอบครองมาอย่างไร และทำประโยชน์ในที่ดินหรือไม่ หากผู้ถือครอง ส.ค.1 ไม่มายื่นคำร้องตามกำหนด ให้ยกเลิกทันที นอกจากนี้ยังเสนอให้กำหนดเป็นนโยบายระดับชาติ และใช้มาตรการทางภาษี และการตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดิน แก่บุคคลที่ครอบครองที่ดินจำนวนมากในประเทศไทยด้วย พร้อมเน้นย้ำว่า หากเจ้าหน้าที่รัฐรายใดไม่ปฏิบัติตามมาตรการนี้อย่างเคร่งครัดให้ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มีความผิดตามกฎหมาย
ขณะเดียวกัน ปัญหาเหล่านี้มีการร้องเรียนกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือมีพฤติการณ์ทุจริตให้ ป.ป.ช. เข้าไปดำเนินการตรวจสอบแล้ว นับตั้งแต่ปี 2542-ธ.ค. 2559 มีจำนวน 113 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ 80 เรื่อง ไต่สวนข้อเท็จจริง 7 เรื่อง และอยู่ระหว่างการแสวงหาข้อเท็จจริง 44 เรื่อง มีพฤติการณ์กล่าวหาโดยสรุปคือ 1.เรียกรับเงินเพื่อออกเอกสารสิทธิ์ 2.ออกเอกสารสิทธิ์โดยการสวมสิทธิ์แทนบุคคลอื่น 3.ออกเอกสารสิทธิ์ทับพื้นที่ป่าสงวน/ที่สาธารณะ/ที่ของบุคคลอื่น 4.ออกเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่ที่ไม่สามารถออกได้ (พื้นที่ภูเขา/ลาดชัน) ปรากฏในพื้นที่ 5 ภาค รวม 55 จังหวัด โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือถูกร้องเรียนมากที่สุดถึง 19 จังหวัด
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำข้อมูลโดยสรุปของคดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่รัฐไปแล้ว กรณีการทุจริตออกเอกสารสิทธิในที่ดิน ระหว่างเดือน พ.ย. 2542-ก.ย. 2558 จำนวน 63 เรื่อง ยกตัวอย่างข้อเท็จจริงได้ ดังนี้
พื้นที่ภาคกลาง ยกตัวอย่างเช่น 1.ขูด ลบ แก้ไขข้อความในเอกสารใบรับรองเขตติดต่อของเจ้าของที่ดิน และเจ้าของที่ดินข้างเคียง (แบบ ท.ด.34) และเอกสารบันทึกถ้อยคำ (แบบ ท.ด.16) 2.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำและกรอกข้อความในเอกสารรายงานการรังวัดเท็จ และไม่นำบันทึกคำคัดค้านการระวังแนวเขตของผู้ถูกกล่าวหา รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ 3.รังวัดแบ่งแยกที่ดิน น.ส. 3 ก. ในนามเดิม จำนวน 31 แปลง โดยมิชอบ ต.อ่างหิน อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี 4.ทุจริตในการรังวัดที่ดิน ต.สามกระทาย อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
5.รังวัดรวมแปลงโฉนดที่ดิน และ น.ส. 3 ก. ให้บริษัท ย. รุกล้ำทับที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ ที่หาดทรายชายทะเล ต.ธงชัย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 6.ทุจริตออก น.ส. 3 ก. บางส่วนที่ออกรุกล้ำคลองบางปู และ น.ส. 3 ก. ทั้งแปลงให้นายทุน โดยการแก้ไขเนื้อที่ทำให้รุกล้ำเข้าไปในคลองสาธารณะ ต.สามร้อยยอด อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ 7.ทุจริตในการรังวัดที่ดินเพื่อออก น.ส. 3 ก. อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี จำนวน 80 แปลง 8.ออก น.ส. 3 ก. ต.เขาแดง อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยทุจริต 9.ทุจริตในการออก น.ส. 3 ก. และโฉนดที่ดินจำนวน 35 แปลง ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ให้แก่ บริษัท ช.
10.ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีจดทะเบียนโอนมรดก และโอนขายที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามวรวิหาร และไม่เพิกถอนการจดทะเบียนโอนที่ดินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย 11.เพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน ที่ให้ยกเลิกโฉนดที่ดินที่แบ่งแยกจากโฉนดที่ดินจำนวน 2 ฉบับ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รวมทั้งนิติกรรมใด ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับโฉนดที่ดินทั้ง 2 แปลง ซึ่งเป็นการโอนที่ธรณีสงฆ์โดยมิชอบ (หรือคดีสนามกอล์ฟอัลไพน์ ปัจจุบันศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทยไปแล้ว อ่านประกอบ : 'ยงยุทธ' ไม่รอด! ศาลอาญาแผนกคดีทุจริตพิพากษาจำคุก2ปี สนามกอล์ฟอัลไพน์)
พื้นที่ภาคใต้ ยกตัวอย่างเช่น 1.ทุจริตในการออก น.ส. 3 ก. จำนวน 7 ฉบับ พื้นที่ ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี 2.ร่วมกันออก น.ส. 3 ก. ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ตามโครงการ ‘เดอะ พีค (The Peak)’ โดยมิชอบ 3.ออก น.ส. 3 ก. ในที่ที่ไม่ได้ครอบครองทำประโยชน์ โดยนำ ส.ค.1 ของที่ดินแปลงอื่นมาสวมออก และออกในที่เขา หรือภูเขา 4.ออก น.ส. 3 ก. ต.กระทู้ อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต โดยนำ ส.ค.1 ของที่ดินแปลงอื่นมาอ้างออกโดยมิชอบ 5.ออก น.ส. 3 ก. ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ให้แก่บริษัท ภ. โดยมิชอบด้วยกฎหมาย 6.ออกโฉนดที่ดินจำนวน 7 ฉบับ พื้นที่ ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร ในเขตประทานบัตรเหมืองแร่โดยมิชอบ
พื้นที่ภาคเหนือ ยกตัวอย่างเช่น 1.รับรองการทำประโยชน์ในการรังวัดพิสูจน์สอบสวนสิทธิเพื่อออกโฉนดที่ดินให้แก่บริษัท พ. ตามโครงการจัดสรรที่ดินผืนใหญ่ ‘ป่าจอมทอง’ เป็นเท็จ และออกโฉนดที่ดินให้แก่ พ. ทับที่ดินของราษฎรที่มีหลักฐานใบจองตามโครงการจัดสรรที่ดินผืนใหญ่ ‘ป่าจอมทอง’ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย 2.ร่วมกันออกโฉนดที่ดินในท้องที่ ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน จ.เชียงราย โดยมิชอบ ทั้งที่ที่ดินดังกล่าว ไม่มีการครอบครองทำประโยชน์มาแต่เดิม มีสภาพเป็นหนองน้ำสาธารณประโยชน์ ‘เวียงหนอง’
พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยกตัวอย่างเช่น 1.นำ ส.ค.1 ของผู้กล่าวหาไปสวมสิทธิในที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ของบุคคลอื่นแล้วนำไปออกเป็น น.ส.3 ก. โดยมิชอบ 2.ออก น.ส. 3 และ น.ส. 3 ก. ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ทับที่สาธารณประโยชน์ ‘ทำเลเลี้ยงสัตว์โคกเขากระโดง’ 3.ออก น.ส.3 ก. ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ‘ป่าดงอีจานใหญ่’ และในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมโดยมิชอบ 4.เรียกรับเงินในการออก น.ส. 3 ก. ให้แก่ราษฎรโดยมิชอบ 5.ออก น.ส.3 ก. บริเวณรอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และบริเวณสองข้างทาง ถ.ธนะรัชต์ ตามโครงการการ์เด้นโฮมรีสอร์ท โครงการ 1 โดยมิชอบ
พื้นที่ภาคตะวันออก ยกตัวอย่างเช่น 1.ออก น.ส. 3 ก. โดยมิชอบ พื้นที่ ม.3 ต.เกาะช้าง จ.ตราด อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี และ ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่ดิน ทุจริตในการออกเอกสารสิทธิที่ดินในท้องที่ จ.ชลบุรี
นี่คือตัวอย่างพฤติการณ์โดยสรุปของบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง จับมือกับกลุ่มเอกชน นายทุน ร่วมกันออกเอกสารสิทธิที่ดินโดยมิชอบ โดยทั้งหมดถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดไปแล้ว โดยจะเห็นได้ชัดว่า ที่ดินที่มีปัญหามากคือบรรดาเอกสารสิทธิจำพวก ส.ค.1 และ น.ส. 3 ก.
ปัจจุบันคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังดำเนินการไต่สวนอยู่ถึง 113 คดี ต้องรอดูว่าอนาคตจะมีเจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง และกลุ่มทุนรายใด ถูกชี้มูลความผิดอีกบ้าง
รัฐบาลจำเป็นต้องนำมาตรการของ ป.ป.ช. เรื่องนี้ไปพิจารณาโดยพลัน ก่อนที่ในอนาคตจะเกิดเหตุการณ์กลุ่มทุน จับมือกับนักการเมือง และเจ้าหน้าที่รัฐ ‘ทุจริต’ กันอีก ?
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก http://www.agentpropertythai.com