ข่าวฮือฮาว่าด้วย "เสี่ยโจ้" นักธุรกิจชื่อก้องแห่งภาคใต้ตอนล่าง หลบหนีคำพิพากษาจำคุกของศาลจังหวัดปัตตานี โดยอาจมีตำรวจบางนายรู้เห็นเป็นใจด้วยนั้น

สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีอาญา 2 สำนักงานอัยการภาค 9 และสำนักงานอัยการสูงสุด จัดงานแถลงเปิดผลงานวิจัยเรื่อง "การประเมินประสิทธิภาพของรัฐในการดำเนินคดีความมั่นคง และวิเคราะห์คำพิพากษาคดีความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้" ที่ราชมังคลา พาวิลเลียน บีช รีสอร์ท จ.สงขลา เมื่อบ่ายวานนี้ (16 ส.ค.) โดยมี นายมนัส สุขสวัสดิ์ รองอัยการสูงสุด เป็นประธาน

ตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ายึดอำนาจการปกครองเมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 ด้วยการใช้อำนาจเต็มทางทหาร ทั้งประกาศกฎอัยการศึกและเคอร์ฟิว (มาตรการห้ามออกนอกเคหะสถาน) ทั่วประเทศ เพื่อควบคุมสถานการณ์ด้านต่างๆ ให้สงบเรียบร้อยภายใต้เหตุผล "คืนความสุขให้คนในชาติ" นั้น

ในขณะที่หน่วยงานด้านความมั่นคงบางหน่วยมองว่า กระบวนการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของภาครัฐยังไม่เป็นเอกภาพ โดยเฉพาะบทบาทของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่ค่อนข้างสวนทางและไม่ค่อยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)

"เหตุการณ์กรือเซะ" ที่คนสนใจปัญหาภาคใต้เรียกกันจนติดปาก แท้ที่จริงแล้วไม่ได้เกิดขึ้นที่มัสยิดกรือเซะเพียงแห่งเดียวเท่านั้น เพียงแต่ที่มัสยิดกรือเซะมีความสูญเสียมากที่สุด คือมีผู้เสียชีวิตมากถึง 32 ราย ทว่ายังมีความสูญเสียในจุดอื่นๆ อีก 10 จุด ตามการบุกโจมตีป้อมจุดตรวจของกลุ่มวัยรุ่นและชายฉกรรจ์มุสลิมนับร้อยคน ไล่เรียงได้ดังนี้