เพื่อชาติและราชนาวีไทย... อย่าซื้อเรือดํานํ้าตอนนี้เลย
นักเรียนนายเรือทุกคนจะต้องถูกฝึกให้ร้องเพลงทหารเรือ และ เดินแถวร้องเพลงทหารเรือไปรับประทานอาหารเย็นทุกวัน เพลงหนึ่งที่ร้องประจํา คือเพลง ในทะเล ซึ่งมีตอนหนึ่งร้องว่า “เพื่อชาติและราชนาวีไทย ยังจะมีใคร คิดถึงความสําราญ” ที่เตือนใจนักเรียนนายเรือว่าทหารเรือต้องอดทน อย่าคิดถึง แต่สิ่งรื่นรมย์ กุศโลบายนี้มุ่งหวังให้ทหารเรือรักชาติ เสียสละ ทําทุกอย่างเพื่อชาติ และราชนาวี และยังมีเพลง เดินหน้า ที่ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวง ชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทรงประพันธ์เนื้อรอ้งตอนหนึ่งว่า “จะคิดถึงตัวเราใย จะต้อง ตายทุกคนไปส่วนตัวเราตาย ไว้ยืน ไว้ยืนแต่ชื่อให้โลกทั้งหลายเขาลือ ว่าตัวเราคือ ทหารเรือไทย” ที่เตือนสติว่าจะทําอะไรให้คิดถึงชาติและราชนาวี อย่าคิดถึงแต่ ตนเอง ตายไปไม่มีใครจําเราได้ ทําดี หรือชั่ว คนรู้แค่ทหารเรือเป็นคนทําเท่านั้น จึงต้องรักษาชื่อเสียงของทหารเรือ
จากเด็กไปเป็นผู้ใหญ่ งานในหน้าที่ต่างออกไปแต่สํานึกของทหารเรือต้องเหมือนเดิม “เพื่อชาติและราชนาวีไทย” ยิ่งตําแหน่งสูงขึ้น สํานึกยิ่ง ต้องมากขึ้นเพราะความ “สําราญ” ไม่ว่าจะสําราญจากลาภ ยศ สรรเสริญจะสร้างความเสียหายได้มากขึ้นทั้งกับชาติและราชนาวีรวมทั้งตัวเองด้วย
ทหารเรือมีหน้าที่หลักคือ ป้องกันประเทศทางทะเล มีความหมายที่ชัดเจน หน้าที่นี้หน่วยงานอื่น ๆ ทําไม่ได้ แต่การทําหน้าที่ ๆ สมบูรณ์ จะต้องมีกระบวนการคิดที่มีเหตุผลและถูกหลักการ การป้องกันประเทศเป็นเรื่องซับซ้อน จากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนคาดการณ์ได้ยาก ไม่รู้ว่าข้าศึกในอนาคตคือใคร จะต้องเตรียมรบกับอะไร รวมถึงข้อจํากัดของงบประมาณที่รัฐบาลต้องเจียดจ่ายให้กองทัพเรือในแต่ละปีแทนที่จะนําไปพัฒนาประเทศด้านอื่น ดังนั้นการใช้จ่ายเงินงบประมาณในการจัดหาอาวุธเพื่อการป้องกันประเทศทางทะเลจึงต้องมีเหตุผลถูกต้องกับสถานการณ์ และทุกฝ่ายในองค์ประกอบของอํานาจ (Trinity of power) คือ รัฐบาล ทหาร และประชาชน เห็นด้วย
เรื่องของเรือดํานํ้าที่กองทัพเรือพยายามจัดหามานานนับสิบปี แต่ประสบกับความล้มเหลวมาโดยตลอด เนื่องจากที่ผ่านมามีเพียงกองทัพเรือ เท่านั้นที่พยายามผลักดัน แต่ในปัจจุบันกองทัพเรือมีแนวร่วมอันทรงอํานาจที่ผลักดันอย่างจริงจังจนอาจเรียกได้ว่านําหน้ากองทัพเรือที่กําลังเดินหน้าไปสู่ความสําเร็จในการจัดหาเรือดํานํ้าในเวลาอันใกล้นี้ แนวร่วมของกองทัพเรือ คือ รัฐบาล (ที่เป็นทหาร) จึงเหลืออีกองค์ประกอบเดียวคือประชาชนซึ่งน่าจะมีพลังน้อยในยุคสมัยนี้ไม่ว่าจะสนับสนุนหรือคัดค้าน แต่ต้องไม่ลืมว่าประชาชนจะคงอยู่เสมอไม่ว่ารัฐบาลและทหารจะสับเปลี่ยนไปอย่างไร ความเห็นของประชาชน จึงเป็นพลังที่ยั่งยืนกว่า ซึ่งคนที่อยากซื้อเรือดํานํ้าควรต้องรับฟังเพื่อป้องกันตนเองในเวลาที่ไม่มีอํานาจในมือ
ในฐานะประชาชนผมไม่คัดค้านแต่ขอเสนอว่า “เพื่อชาติและราชนาวีไทย...... อย่าซื้อเรือดำนํ้าตอนนี้เลย” ผมมีเหตุผลอย่างนี้ครับ
1. ถ้าจะซื้อเรือดํานํ้าต้องตอบปัญหาคาใจ ทั้งใจตนเอง(คนที่อยากซื้อ) และใจประชาชนให้เคลียร์ก่อนว่าจะใช้เรือดํานํ้าทําอะไร เช่น
- เรือดํานํ้าจะคุ้มครองเส้นทางคมนาคมในทะเลได้อย่างไร เพราะขีดความสามารถของเรือดํานํ้าที่จะซื้อเป็นเรือดํานํ้าโจมตีที่ทําได้แค่โจมตี เรือสินค้าข้าศึกเท่านั้น ไม่ใช่อาวุธป้องปรามเพราะเรือรบไม่กลัวเรือดํานํ้า และ เรือดํานํ้าที่จะซื้อ ไม่มีขีดความสามารถในการปราบเรือดํานํ้า ยิ่งกว่านั้น ยังมีอาวุธ คือ ตอร์ปิโดเพียง 4 ลูกเท่านั้น ใช้โจมตีเป้าหมายเดียวก็อาจจะหมดแล้ว
- การซื้อเรือดํานํ้าเป็นการใช้จ่ายงบประมาณเกินตัวหรือไม่ ลองคิดตัวเลขคร่าว ๆ ปี งป. 2560 ทร. ได้ งบประมาณ 42,000 ล้านบาท ซึ่ง นับว่ามากกว่าปีก่อน ๆ ในวงเงินนี้จะใช้จ่ายเป็นงบประจําประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ เช่น เงินเดือน เบี้ยเลี้ยง ฯลฯ และเหลือประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์เป็นงบพัฒนาประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งในแต่ละปีหลังจากใช้หนี้เก่าแล้ว จะมีเงินเหลือใช้ จัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งที่มีการผูกพันข้ามปีและการซื้อในปีเดียวคิดเป็นตัวเงิน 4,000 ล้านบาท ซึ่งในแต่ละปี ทร. จะซื้ออาวุธที่ไม่ต้องผูกพันงบประมาณ ประมาณ 500 ล้านบาท และ เหลืออีกประมาณ 3,500 ล้านบาท สําหรับก่อหนี้ผูกพันในการซื้ออาวุธใหม่ ดังนั้นถ้าซื้อเรือดํานํ้า 36,000 ล้านบาท ต้องผ่อนส่งปีละประมาณ 3,600 ล้านบาท 10 ปี หมายความว่า กองทัพเรือจะไม่มีเงินไปทําอย่างอื่นเลย นาวิกโยธินจะไม่มีโอกาสซื้อปืนใหม่ เรืออื่น ๆ ทั้งหมดจะไม่มีโอกาสได้สร้างไปอีกนับสิบปี และอาจไม่มีเงินซื้อลูกตอร์ปิโดเพิ่มเติมให้เรือดํานํ้าด้วย
- จะได้มีโอกาสใช้จริงหรือไม่ จะใช้โจมตีเรือลําเลียงของใคร ยุคนี้การโจมตีเรือสินค้าทําได้หรือในเมื่อเจ้าของสายการเดินเรือเป็นมหาอํานาจทั้งนั้น ยุคของการโจมตีเรือสินค้าด้วยเรือดํานํ้าหมดไปแล้ว ยุคนี้เป็นยุคของการก่อการร้าย เรือดํานํ้าทําอะไรไม่ได้ ยิ่งในยามสงบเรือดํานํ้าใช้ทําอะไรไม่ได้จะเป็นการสูญเปล่าหรือไม่
- จะสร้างดุลอํานาจ (Balance of Power) อย่างไร กับใคร ต้องพิจารณาความแตกต่างของเรากับประเทศเป้าหมายด้วย เขามีเพราะความจําเป็นที่ต่างจากเรา การอ้างว่าประเทศอื่นมีเรือดํานํ้าแล้วเราจะต้องมีบ้างอาจเป็นตรรกะวิบัติ (Fallacy) ตรรกะที่ถูกต้องเมื่อข้าศึกมีเรือดํานํ้าเราควรจะมีเรือปราบเรือดํานํ้า ซึ่งการซื้อเรือดํานํ้า 1 ลํา ราคาอาจเท่ากับการสร้างเรือปราบเรือดํานํ้าถึง 10 ลํา และ ต้องไม่ลืมว่าประเทศไทยอยู่รอดในโลกยุคใหม่นี้เพราะการสร้างดุลอํานาจด้วยการทูต เราจะเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของจีนโดยไม่สนใจสหรัฐฯ หรือ
- คิดรอบคอบแล้วหรือที่ซื้อเรือดํานํ้าจีน ข้อสงสัยเรื่องสมรรถนะ ความปลอดภัย ความคุ้มค่า แน่ใจหรือ ทหารเรือที่ต้องปฏิบัติการกับเรือ นี้ในอีก 5-10 ปีข้างหน้าคือรุ่นลูกหรือหลานของคนซื้อในตอนนี้ บทเรียนจากเรือจีนชุดก่อน ๆ น่าจะนํามาศึกษา
- การจัดซื้อทําถูกต้องตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างแล้วหรือ ข้อสงสัยเริ่มจากการคัดเลือกในขั้นตอนแรกที่มีเงื่อนไขต้องการซื้อแค่ 2 ลํา แต่ตัดสินเลือกผู้เสนอ 3 ลําจึงเป็นการเลือกจากพื้นฐานที่ไม่เหมือนกัน แม้ราชการจะได้ประโยชน์แต่ก็เป็นการไม่เป็นธรรมกับผู้แข่งขันรายอื่น ๆ ที่ไม่ได้เสนอ 3 ลํา และในเวลาต่อมากลับเสนอซื้อเพียงลําเดียวจากผู้ที่เสนอ 3 ลําในราคาที่ไม่ใช่ 1 ใน 3 ของราคาเดิม นอกจากนั้นประเด็นที่สําคัญมากคือการผูกพันงบประมาณที่จะต้องขออนุมัติพิเศษผูกพัน 9-11 ปี จากที่ระเบียบกําหนดให้เพียง 3 ปี ซึ่งจะเป็นการละเมิดวินัยการใช้งบประมาณของส่วนราชการอย่างร้ายแรง เพราะการขอผูกพันงบประมาณเกินกว่า 3 ปีย่อมหมายความว่าเกิดการใช้จ่ายงบประมาณที่เกินตัว
2. ลืมพระราชดํารัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 แล้วหรือ เรื่องนี้เป็นเหตุผลที่หนักหนาสาหัสที่สุดที่คนที่คิดจะซื้อเรือดํานํ้า จะต้องคิดให้หนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทหาร และยิ่งทหารเรือด้วยแล้ว เราอ้างว่าเรา สํานึกในพระมหากรุณาธิคุณ เราอ้างว่าเราจงรักภักดียิ่งกว่าใคร ๆ แต่เราปฏิบัติ ตามที่พระองค์ท่านพระราชทานข้อชี้แนะหรือไม่
“...เราสร้างเรือให้พอเพียง เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งนั่นนะ มันไม่ พอเพียง มันเล็กเกินไป ยังเล็กเกินไป ก็อาจจะควรจะใหญ่กว่าหน่อย แต่ถ้าใหญ่ เกินไปไม่พอเพียง ถ้าเล็กเกินไปก็ไม่พอเพียง เรือที่เขาจะทําเรือดํานํ้า เรือดํานํ้าดํา ลงไป ไปปักเลนเลย ไอ้นี่เขาโกรธ เดี๋ยวเขาโกรธเอาว่า เรือแล่นๆไป ดํานํ้าไม่พอ ใครมาเครื่องบินเห็นแจ๋วเลยต้องไปจมเลน ถึงจะไม่เห็น แล่นๆไปปักเลน ถ้าอยาก ไปที่ที่ลึก ก็ไปอยู่นอกเส้น ก็รู้สึกว้าเหว่ไกลกัน ไอ้เรือดูแลใกล้ฝั่งนี่ดีกว่า แต่ลําที่เรา ทําเเราสร้างก็ใช้ได้ดีแล้ว แต่ควรจะสร้างต่อไปให้ใหญ่กว่านี้ ใหญ่กว่านี้หน่อย...”
(พระราชดํารัส ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานแก่ คณะรัฐมนตรี และ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 4 ธ.ค. 2550)
เมื่อตีความในความหมายของพระราชดํารัส ต้องยอมรับในพระปรีชาสามารถและสายพระเนตรอันยาวไกลของพระองค์ ที่พระองค์มีพระราชประสงค์ให้กองทัพพึ่งพาตนเอง สร้างเรือเอง แทนที่จะไปซื้อจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากค่ายคอมมิวนิสต์ และพระองค์ทรงทราบดีว่าในอ่าวไทยไม่เหมาะกับการมีเรือดํานํ้า
เวลาแห่งความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ และสุดแสนเศร้าโศกของเราผ่านไปยังไม่ถึง 6 เดือน ทหารทั้งหลายลืมแล้วหรือ
“เพื่อชาติและราชนาวีไทย...... อย่าซื้อเรือดํานํ้าตอนนี้เลย”
หมายเหตุ : ภาพประกอบข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
อ่านประกอบ :
ยังไม่ชงจัดซื้อเรือดำน้ำ 1.3 หมื่นล.เข้า ครม.! ‘บิ๊กป้อม’เผยอยู่ระหว่างประสานจีน
ล้วงเหตุผล ทร.ซื้อเรือดำน้ำ ป้องกันความมั่นคงทางทะเล-ไฉนทำจีทูจีจีน?
ทำจีทูจีจีน! เสธ.ทร.ไฟเขียวซื้อเรือดำน้ำ 1.3 หมื่นล.ชง กห.เสนอ ครม.อนุมัติ
กองทัพเรือตั้งแท่นซื้อแล้ว 'เรือดำน้ำ' จีทูจี!เผยราคากลาง1.3หมื่นล.-จีนตัวเต็ง
เรือดำน้ำจีน "ถูกและดี" แต่มีคำถามเรื่องความจำเป็น?
ไทม์ไลน์ 'เรือดำน้ำจีน' โชคชะตาที่สุดฝืนของทัพเรือ?
มองย้อนเวลาโครงการเรือดำน้ำจีน...สิ่งที่คุณเห็น...กับสิ่งที่เป็นจริง
แฉปม 'ฮั้ว' ?...ทัพเรือเลือกเรือดำน้ำจีน S26T
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความมั่นคง กับ เรือดำน้ำ
เรือดำน้ำเป็นเรือรบที่มีศักยภาพ สูงที่สุดในบรรดำเรือรบด้วยกันจริงหรือ?