สรุปคำให้การ"3 บิ๊กอคส."คดีข้าวถุง! คอนเนกชั่นลับ "วีระวุฒิ-ศราวุฒิ-ไพโรจน์"
สรุปคำให้การ "3 รองผอ.อคส." คดีข้าวถุง เผยสัมพันธ์ลึกฝ่ายบริหาร "วีระวุฒิ -ศราวุฒิ-ไพโรจน์" เรียนเตรียมทหารรุ่นเดียวกัน ยันไม่รู้จักฝ่ายการเมือง-สยามอินดิก้า -โยนความผิดจนท.ทำเอกสารผิดพลาด ปมลงนามสัญญาแทนผู้อำนวยการ
พนักงานองค์การคลังสินค้า (อคส.) เข้าให้ปากคำต่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ชี้แจงข้อมูลการปฏิบัติงานโครงการระบายข้าวถุง ในส่วนขั้นตอนการปฏิบัติงานไปแล้ว ปรากฎข้อมูลสำคัญหลายประการ โดยเฉพาะบทบาทของคนในบริษัทสยามอินดิก้า จำกัด และนายตำรวจผู้ใกล้ชิดฝ่ายการเมืองรายหนึ่ง ที่ส่อให้เห็นถึงความผิดปกติในการดำเนินงานโครงการนี้ไว้อย่างชัดเจน
(อ่านประกอบ : เปิดตัว "สารวัตรต้น" คนใกล้ชิด "เลขาฯบุญทรง" ตัวละครใหม่พันคดีข้าวถุง)
การเข้าให้ปากคำของผู้บริหาร อคส. ที่ดูแลงานในระดับนโยบายเกี่ยวกับการดำเนินงานโครงการระบายข้าวถุงเป็นอย่างไรบ้าง?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลในรายงานการตรวจสอบโครงการข้าวระบายข้าวถุงของ สตง. พบว่า ในช่วงเดือนธ.ค.2557 มีรองผู้อำนวยการ อคส. อย่างน้อย 3 ราย ถูกเรียกตัวเข้าให้ปากคำ
สรุปรายละเอียดสำคัญ ได้ดังนี้
@ รองผู้อำนวยการ อคส. รายที่ 1
ให้ปากคำว่า การดำเนินงานโครงการระบายข้าวถุง ของ อคส. มี 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนการปรับปรุงการผลิตและส่วนการจำหน่าย
โครงการเริ่มในช่วงน้ำท่วมใหญ่เดือนต.ค.2554 เริ่มจากคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) และคณะอนุกรรมการพิจารณาการระบายข้าว
ทั้งนี้ ในปี 2554 นายภูมิ สาระผล ดำรงตำแหน่งเป็น รมช.พาณิชย์ ดูแลเรื่องการระบายข้าวและโครงการรับจำนำข้าว และดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว
วัตถุประสงค์โครงการระบายข้าวถุง คือ เพื่อระบายข้าวที่มีจำนวนมากต่อประชาชน โดยมีการแปรรูปจากข้าวเปลือกมาเป็นข้าวสารและเก็บเข้าโกดัง เพื่อจัดทำเป็นข้าวสารบรรจุถุง
การดำเนินการโครงการจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงมีการปรับปรุงทั้งหมด 4 ครั้ง
ครั้งแรกเริ่มจากในช่วงน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 มีการเบิกข้าวเพื่อจัดทำข้าวสารบรรจุถุงจำนวน 1 เแสนตัน โดยค่าจ้างและวัตถุดิบในการจัดทำได้รวมอยู่ในการจัดทำข้าว 1 แสนตันดังกล่าว
ครั้งสองในช่วงเดือนก.ค.2554 มีมติให้จัดทำข้าวสารบรรจุถุงอีก 1 แสนตัน
ครั้งสาม ในช่วงเดือต.ค.2555 จัดทำข้าวสารบรรจุถุง 5 แสนตัน โดยให้แยกส่วนวัตถุดิบ และค่าจ้างออกต่างหัก
และในครั้งสุดท้าย ก็ดำเนินการเช่นเดียวกัน เมื่อเดือน ธ.ค.2555 จัดทำข้าวสารบรรจุถุงจำนวน 1.8 ล้านตัน โดยแบ่งจำนวนจัดทำเป็น 6 ครั้งๆ ละ 3 แสนตัน
ส่วนสาเหตุที่มีการเบิกข้าวในปริมาณมาก เนื่องจากปรากฏปัญหาว่าข้าวสารบรรจุถุงผลิตออกสู่ตลาดไม่ทัน โดยปลัดกระทรวงพาณิชย์ในขณะนั้น ได้ตำหนิว่าจำนวนข้าวที่ผลิตบรรจุถุงแล้วจ่ายให้เบิกไม่เพียงพอ และสัญญาจ้างก็ไม่ได้ระบุกำหนดจำนวนเงื่อนไขในการเบิกข้าว
"ในเรื่องการปรับปรุงข้าวสารบรรจุถุงในช่วงปี 2445 ยังไม่มีระเบียบ อคส.ว่าด้วยการจัดจ้างผู้ปรับปรุงข้าวถุง จึงได้ใช้ระเบียบสำนักนายกว่าด้วยการพัสดุ เป็นแนวทางการดำเนินการแทน ซึ่งต่อมาในปี 2555 ผู้อำนวยการ อคส. ได้มีการจัดทำระเบียบ อคส.ในเรื่องดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ตาม หน้าที่ในการตรวจรับข้าวยังเป็นของหัวหน้าคลังโดยมิได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจรับสินค้าแต่อย่างใด"
สำหรับการดำเนินการตามโครงการข้าวสารบรรจุถุงมีผู้เกี่ยวข้อง 2 กลุ่ม ได้แก่ ส่วนของรมว.พาณิชย์ และอคส. ซึ่งในปี 2554 นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นรมว.พาณิชย์ นายภูมิ เป็นรมช.พาณิชย์ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ เป็นผู้ช่วยเลขานุการรมว.พาณิชย์ (เลขานุการนายภูมิ)
ต่อมาในปี 2555 บุญทรง เตริยาภิรมย์ เป็นรมว.พาณิชย์ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ ได้รับการแต่งตั้งเป็น เลขาฯ รมว.พาณิชย์
ในส่วนคณะกรรมการ อคส. นายสุรศักดิ์ ศรีประภา เป็นประธาน อคส. และดำรงตำแหน่งเป็นรักษาการ ผอ.อคส. และเมื่อการเมืองเปลี่ยน พ.ต.ต.ศราวุฒิ สกุลมีฤทธิ์ เข้ามาเป็นผอ.อคส. และพ.ต.ท.ไพโรจน์ ปัญจประทีป ได้เข้ามาดำรงตำแหน่ง ป็นประธานบอร์ดอคส.
ขณะที่ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ , พ.ต.ต. ศราวุฒิ และ พ.ต.ท.ไพโรจน์ เคยเรียนเตรียมทหารรุ่นเดียวกันมาก่อน
@ รองผู้อำนวยการ อคส. รายที่ 2
ให้ปากคำว่า ยืนยันว่าโดยปกติแล้ว อคส. ไม่สามารถสร้างรายได้จากธุรกิจในเชิงพาณิชย์ ให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้
แต่เนื่องจาก อคส.ต้องการหารายได้ คณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวจึงได้มีมติให้ อคส.นำข้าวสารไปกระจายให้แก่ประชาชน เพื่อเป็นการสร้างรายได้แก่ อคส. และยังเป็นการระบายข้าวในสต็อกรัฐบาลอีกด้วย
ขณะที่การดำเนินการตามโครงการจำหนายข้าวสารบรรจุถุง ก็เพื่อระบายข้าวสารให้แก่ประชาชนในราคาที่ต่ำกว่าราคาในท้องตลาด
“ส่วนกรณีที่การจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงตามโครงการไม่ได้กระจายถึงมือประชาชนโดยตรงนั้น ขอชี้แจงว่า ในช่วงแรก อคส.ไม่ทราบถึงเรื่องดังกล่าว จนกระทั่งได้ทราบจากอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในขณะนั้น โดยมีการระบุว่า ข้าวสารบรรจุถุงมีการจำหน่ายไปไม่ถึงมือของประชาชน และทางคณะกรรมการตรวจสอบของวุฒิสภา ได้เรียกตัวแทน อคส.ไปชี้แจง เมื่อ อคส.ทราบเรื่อง จึงมีหนังสือแจ้งไปที่ตัวแทนจำหน่ายให้แจ้งรายชื่อร้านค้าที่นำข้าวถุงตรา อคส.ไปวางจำหน่ายเพื่อที่อคส.จะได้สามามติดตามผลการจำหน่ายได้
"นอกจากนี้ ยังมีการทำหนังสือแจ้งไปยังกรมการค้าภายในเพื่อแจ้งการค้าภายในจังหวัดให้ควบคุมตรวจสอบราคาจำหน่ายข้าวสารตรา อคส.ไม่ให้มีราคาสูงกว่าท้องตลาด จากนั้น ในเวลาต่อมาคณะอนุกรรมการระบายข้าวมีมติให้ยุติการดำเนินการตามโครงการ อคส.จึงได้ยุติโครงการโดยมีหนังสือแจ้งให้ผู้ปรับปรุงคุณภาพข้าวดำเนินการคืนข้าวให้ อคส."
@ รองผู้อำนวยการ อคส. รายที่ 3
ถูก สตง. ระบุว่า เข้ามาเกี่ยวข้องในฐานะเป็นผู้รับผิดชอบและลงนามในประกาศอคส.เรื่องรับสมัครตัวแทนข้าวถุง และเป็นผู้อนุมัติแบบสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายสินค้า อคส. และไปลงนามอนุมัติการดำเนินงานบางส่วน ในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า ทั้งที่ มีตำแหน่งที่ต่ำกว่าและมิใช่ผู้รักษาการแทนผู้อำนวยการฯ อคส.แต่อย่างใด
จึงถือว่าเป็นการลงนามโดยมิชอบ
โดยในการเข้าให้ปากค ต่อ สตง. กรณีถูกตรวจสอบพบว่า ไปลงนามในบันทึก อคส. จำนวน 3 ฉบับ ในตำแหน่งผอ.อคส. ว่า เคยได้รับหนังสือมอบอำนาจจากผอ.อคส. คือ พ.ต.ต.ศราวุฒิ ให้เป็นผู้มีอำนาจลงนามในสัญญาตัวแทนจำหน่ายได้ และประกอบกับในขณะนั้นมีการเปลี่ยนแปลงรักษาการ ผอ.อคส. 2-3 ครั้ง ในช่วงปี 56 ซึ่งในขณะนั้นตนเองดำรงตำแหน่งเป็น รองผอ.อคส ไม่ได้รักษาราชการแทน ผอ.อคส.
การที่ปรากฏว่า ตนลงชื่อในฐานะ ผอ.อคส.น่าจะเกิดจากความผิดพลาดทางเอกสารในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
และกรณีที่ปรากฏว่าสัญญาลงวันที่ 10 พ.ค.2556 แต่บันทึกเสนอขออนุมัติลงในสัญญาทั้ง 3 ฉบับ ลงวันที่ 22 พ.ค.2556 ตนเข้าใจว่ามีการกลั่นกรองมาจากเจ้าหน้าที่ ตามลำดับขั้นตอนอยู่แล้วว่าเป็นไปตามหนังสือมอบอำนาจนั้น ซึ่งตนเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานมานาน น่าจะมีความรู้ความเข้าใจมากกว่า
ประกอบกับตนไม่ได้ดูเรื่องของเวลา และเคยทำงานในหน่วยงานเอกชนมาก่อน การเข้ามาปฏิบัติงาน จึงมุ่งเน้นที่ด้านการบริหารและด้านการตลาดเป็นหลัก จึงไม่มีความรู้ความเข้าใจในรายละเอียดการลงนามในสัญญาดังกลาวมากนัก
“ตนไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับนักการเมืองแต่อย่างใด ก่อนมาเริ่มงานที่ อคส.มาจากหน่วยงานเอกชน ได้สมัครเข้ามาดำรงตำแหน่ง ผอ.อคส. ด้วยตนเอง และมุ่งเน้นการบริหารงานด้านความเสี่ยง และการตลาด เพื่อไม่ให้เกิดความกระจุกตัว เท่านั้น และได้ไปให้ข้อมูลกับคณะกรรมการตรวจสอบของวุฒิสภาหลายครั้ง
"และไม่ทราบว่า บริษัทสยามอินดิก้าเป็นบริษัที่รับข้าวสารบรรจุถุงในขณะนั้น เพิ่งได้รับทราบข่าวและการบอกเล่าในภายหลังเท่านั้น"
อ่านประกอบ :
เปิดตัว "สารวัตรต้น" คนใกล้ชิด "เลขาฯบุญทรง" ตัวละครใหม่พันคดีข้าวถุง
เปิดหมดเปลือก!เบื้องหลังสัญญาลับซื้อข้าวถุง524 ล. "เจียเม้ง-สยามอินดิก้า"
"สยามอินดิก้า" พ่วง "เจียเม้ง" เปิดตัว 4เอกชน รับช่วงซื้อข้าวถุงอคส. 6.6 พันล.
เผยโฉมครั้งแรก!"เสี่ยโจ"นายหน้าค้าข้าวรัฐ "จีทูจี-ข้าวถุง"มือขวา "เสี่ยเปี๋ยง"
เปิดพฤติการณ์ "3 บิ๊ก อคส." พันคดีข้าวถุง! ทำสัญญาเอื้อเอกชน-เรียกเงินใต้โต๊ะ
คำให้การพี่ชาย "สมคิด เอื้อนสุภา" น้องผมแค่แมสเซ็นเจอร์-แพะ คดีข้าวถุง
เปิดเส้นทาง "หัวคิว" ระบายข้าวถุง "บิ๊กอคส." รับค่านายหน้า66 สต.2 บริษัทรวด!
รู้จักที่งานศพ! เบื้องหลัง "บิ๊กอคส." เรียกส่วนแบ่ง 66 สต. ค่าแนะนำขายข้าวถุง
เจ้าของเงิน 5.4 พันล.ซื้อเช็คข้าวถุง ถ้าไม่ใช่"สมคิด"เป็น"สยามอินดิก้า"ได้ไหม?
เผยเช็ค"จีทูจี-ข้าวถุง-มันฯ"แหล่งเดียวกัน! อคส.สั่งสอบ"ผู้บริหาร-จนท."ชดใช้พันล.
แฉยิบทุกขั้นตอน "นอมินีข้าวถุง" ฟันหัวคิว 3 แสน/ด. เพื่อนโต๊ะแชร์ "เสี่ยเปี๋ยง"
เผยโฉม! 'สมคิด เอื้อนสุภา' นอมินี ขนเงินสดซื้อเช็ค ข้าวถุง 5.4 พันล. ?
แกะรอยเส้นทาง"เงินสด"ซื้อเช็คข้าวถุง 5.4พันล.หาตัว "ผู้บงการ"เหนือ "สมคิด"
ให้ปปง.คุ้ยต่อ!สตง.เชื่อแหล่งเงิน "สมคิด"ซื้อเช็คข้าวถุง5.4พันล.โยงสยามอินดิก้า
แกะรอย "บ.รชาพันธ์" รับจ้างฝึกอบรม รายได้หลักแสน ชื่อโผล่ซื้อข้าวถุง 787 ล.
ที่แท้ "กรุงไทย" สาขาออกเช็ค 4.2 พันล.ซื้อข้าวถุง อยู่ปากซอย "สยามอินดิก้า"
เปิดตัว "เอแอนด์ดีฯ" ทำธุรกิจไฟฟ้า โผล่ลงนามสัญญาข้าวถุง อคส. 787 ล.
ชำแหละเช็คข้าวถุง38 ใบ "คนสยามอินดิก้า"ขนเงินสดซื้อกรุงไทยมากสุด 4.2 พันล.
เช็ค 38 ใบ 5.4 พันล.! "คนสยามอินดิก้า" ขนเงินสดซื้อ หลักฐานมัดคดีข้าวถุง
เปิดหมดเปลือก "บ.เก่าเลขาฯบุญทรง" โผล่ซื้อข้าวถุง 2.9 พันล. โยงบิ๊ก "อคส."
ตามไปดู! บ้าน 2 ชั้น ที่ตั้งบ.ซื้อข้าวถุง116 ล."ผจก." ขอให้ข้อมูลจนท.รัฐเท่านั้น
ปริศนาเงินร้อยล.!"บ.ประกรวรรณฯ" โผล่สั่งซื้อข้าวอคส. จ่ายค่าตอบแทน 2 บ./ถุง)
ครบชุด! ข้อมูล 7 บริษัท โยงคดีข้าวถุง บิ๊ก อคส.รับส่วนต่าง 66 สต./ถุง
"สมคิด"โผล่ซื้อแคชเชียร์เช็ค5 พันล. เส้นทางเงินมัดแน่นคดีข้าวถุง โยง "สยามอินดิก้า"
'จัดเอกสาร-ซื้อเช็ค' ลูกน้องเสี่ยเปี๋ยงทำเองหมด! มัด 'สยามอินดิก้า' โยงคดีข้าวถุง
เสียหาย 3.8 พันล.!สตง.ชี้มูลคดีระบายข้าวถุงอคส.-เอกชนเครือญาติฮั้วเสนอราคารัฐ