แฉยิบทุกขั้นตอน "นอมินีข้าวถุง" ฟันหัวคิว 3 แสน/ด. เพื่อนโต๊ะแชร์ "เสี่ยเปี๋ยง"
"เอ็กซ์คลูซีฟ" เปิดคำให้การลับ แฉยิบทุกขั้นตอน เส้นทางนอมินีข้าวถุง ฟันหัวคิว 3 แสน/ด. คนขายประกัน-เพื่อนโต๊ะแชร์ "เสี่ยเปี๋ยง" ผู้ก่อตั้ง "สยามอินดิก้า" โผล่ร่วม
หลายคนคงได้รับทราบข้อมูลกันแล้วว่า กรรมการบริษัท รชาพันธ์ หรือชื่อใหม่ บริษัท รชาพันธ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด 1 ใน 6 บริษัทเอกชนที่ปรากฎรายชื่อเข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่ายข้าวถุงให้กับองค์การคลังสินค้า (อคส.) ในโครงการระบายข้าวสารบรรจุถุงราคาถูกให้กับประชาชน ตามสัญญาเลขที่ 385/2556 ลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2556 ซึ่งปรากฎชื่อ นายสมคิด เอื้อนสุภา คนของบริษัทสยามอินดิก้า จำกัด เป็นผู้สั่งซื้อสินค้าแทนจำนวน 12 ล้านถุง เป็นเงิน 787,200,000 บาท
เข้าให้ปากคำต่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดยยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการระบายข้าวถุง เพราะไม่ทราบด้วยว่า ได้งานในโครงการดังกล่าว และไม่ได้เป็นผู้เกี่ยวข้องกับการจ่ายแคชเชียร์เช็คชำระค่าข้าวให้แก่อคส. ส่วนรายมือชื่อของกรรมการบริษัทฯ อีกคน ที่ลงลายมือชื่อในฐานะพยานก็ไม่ใช่ลายมือที่แท้จริงเช่นกัน
(อ่านประกอบ : เปิดคำให้การลับ "บ.รชาพันธ์" อ้างถูกปลอมลายเซ็นซื้อข้าวถุงอคส. 787 ล้าน)
อย่างไรก็ดีคำให้การของกรรมการบริษัท รชาพันธ์ รายนี้ ดูเหมือนจะขัดแย้งกับคำให้การของกรรมการบริษัท เอ แอนด์ ดี อินโนเวชั่น กรุ๊ป จำกัด 1 ใน 6 บริษัทเอกชน ที่ปรากฎชื่อเข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่ายข้าวถุงให้ อคส. และเข้าให้ปากคำต่อสตง.เช่นกัน
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ย.57 กรรมการของ บริษัท เอ แอนด์ ดี อินโนเวชั่น กรุ๊ป จำกัด ได้เดินทางเข้าให้ถ้อยคำกรณีข้าวถุง กับ สตง.
โดยระบุว่า บริษัท เอ แอนด์ ดีฯ ประกอบกิจการเกี่ยวกับการจัดวางระบบเครื่องจักรในกระบวนการผลิตด้านต่างๆ มีลูกค้าเป็นเอกชนโดยส่วนใหญ่
ทั้งนี้ บริษัทดำเนินงานมาแล้วเป็นเวลาประมาณ 11-12 ปี และมีพนักงานประมาณ 10 คน เนื่องจากหาผู้เชี่ยวชาญในด้านระบบโดยเฉพาะค่อนข้างยาก โดยการจัดหาพนักงานจะมาจากการพิจารณาประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน และเป็นไปในลักษณะการทาบทาม ไม่ใช่การประกาศรับสมัครงานตามสื่อสาธารณะต่างๆ
กรรมการบริษัท เอ แอนด์ ดีฯ รายนี้ ยังระบุว่าได้พบกับ คุณ ก.(นามสมมุติ) กรรมการของบริษัท รชาพันธ์ จำกัด ในฐานะแม่ของเพื่อนเป็นครั้งแรก ที่ประเทศอังกฤษ เนื่องจากฝากของไป-กลับระหว่าง 2 ประเทศบ่อยครั้ง ซึ่งรู้จักกันมาเป็นเวลาประมาณ 2-3 ปี และได้พบกันบ่อยครั้ง จึงทราบว่า บริษัทรชาพันธ์ฯ ทำธุรกิจหลักเป็นตัวแทนขายประกัน
สำหรับการเข้ามาดำเนินการเป็นตัวแทนจำหน่ายข้าวถุงกับ อคส. นั้น กรรมการบริษัท เอ แอนด์ ดีฯ รายนี้ ระบุว่า โดยส่วนตัว แทบไม่มีความรู้เกี่ยวกับการดำเนินการเรื่องนี้เลย แต่เข้ามาเกี่ยวข้องโดยการชักชวนของ คุณ ก. กรรมการบริษัท รชาพันธ์ฯ ซึ่งตนเองไว้วางใจเข้าร่วมการดำเนินการด้วย เนื่องจากเห็นว่าเป็นแม่ของเพื่อน
ต่อมาทราบว่า อคส.กำหนดคุณสมบัติผู้เสนอราคาว่า บริษัทต้องมีทุนจดทะเบียนเกินกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งในช่วงเวลานั้นประมาณไม่เกิน 6 เดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่บริษัทตนได้มีการจดทะเบียนเพิ่มทุนบริษัทเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือแก่ลูกค้าพอดี ซึ่งไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับที่ อคส. ต้องการคุณสมบัติของผู้เสนอราคาแต่อย่างใด
"หลังจากมีการจดทะเบียนเพิ่มทุนบริษัท คุณ ก. ได้เข้ามาสอบถามถึงทุนจดทะเบียนของบริษัทตน และทราบว่าตนเพิ่มทุนประมาณ 21 ล้านบาท คุณ ก. จึงได้แนะนำให้เข้ามาร่วมดำเนินธุรกิจส่งออกข้าว"
"โดยแนะนำว่าเป็นการดำเนินกิจการในรูปบริษัท ลักษณะเป็นธุรกิจในรูปแบบนายหน้า มีผู้รับซื้อ ผู้ขาย เป็นเพียงตัวแทน โดยไม่แจ้งว่าเป็นตัวแทนเอกชนหรือภาครัฐ และจะได้ผลตอบแทนเดือนละประมาณ 200,000-300,000 บาท และไม่ได้ทราบข้อมูลอะไรอย่างอื่นอีก"
"จนกระทั่งต่อมา คุณ ก. ได้เดินทางไปต่างประเทศ จึงได้รับการติดต่อจากคุณโจ(นิมล รักดี ถูกระบุข้อมูลในวงการข้าวว่าเป็นมือขวาของ “เสี่ยเปี๋ยง” นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทสยามอินดิก้า จำกัด) โทรมาแจ้งให้จัดเตรียมเอกสารและกรอกเอกสารการเป็นตัวแทน"
ขณะที่ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างคุณโจกับ คุณ ก. นั้น คุณโจแจ้งว่ารู้จัก คุณ ก. ผ่านทางเจ้านาย( “เสี่ยเปี๋ยง”) ซึ่งทราบว่า คุณ ก. มีความสัมพันธ์กับเสี่ยเปี๋ยง และภรรยา เสี่ยเปี๋ยง ในลักษณะเป็นผู้ขายประกันให้ และยังมีการเล่นโต๊ะแชร์ในกลุ่มเดียวกัน
แต่คุณโจไม่รู้จัก คุณ ก. เป็นการส่วนตัว และเข้าใจว่า คุณ ก. พูดคุยกับบริษัทสยามอินดิก้าฯ และได้เงินจำนวนหนึ่ง และพูดคุยกับเสี่ยเปี๋ยงในการจัดหาบริษัทเพิ่มเข้ามาอีกบริษัทหนึ่งเพื่อที่จะได้รับเงินเพิ่ม ซึ่งบริษัทที่ คุณ ก.จัดหามาเพิ่ม คือ บริษัท เอ แอนด์ ดีฯ โดยในการติดต่อสอบถามหรือให้ข้อมูลจะต้องเป็นการติดต่อผ่านทางคุณ ก.โดยเฉพาะเท่านั้น
กรรมการบริษัท เอ แอนด์ ดีฯ รายนี้ ยังระบุด้วยว่า ภายหลัง คุณ ก. ได้ให้ข้อมูลว่า คุณโจเป็นตัวแทนมาจากบริษัทสยามอินดิก้าฯ ซึ่งในวันยื่นเอกสาร ตนได้พบคุณโจที่บริษัทดังกล่าว ซึ่งมีลักษณะเป็นโฮมออฟฟิศ เป็นตึกประมาณ 7 ชั้น ตั้งอยู่ที่ซอยรัชดา ปากซอยเป็นที่ตั้งของธนาคารกรุงไทย สาขารัชดาภิเษก มี คุณ ข. ตัวแทนทางฝั่งของบริษัทรชาพันธ์ฯ ไปด้วย ซึ่งกระบวนการยื่นเอกสารและรับทราบว่าได้เป็นตัวแทนจำหน่ายนั้น มีลักษณะค่อนข้างรวบรัด ใช้เวลาประมาณ 2 วันเท่านั้น
"โดยในการทราบว่า ได้เป็นตัวแทน ตนได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ที่โทรศัพท์ติดต่อมาแจ้งผล และนัดให้เข้ามาลงนามสัญญา ซึ่งในวันลงนามสัญญา คุณ ก. จัดหารถมาให้ตน และคุณ น. ในฐานะตัวแทนของบริษัท รชาพันธ์ จำกัด ไปลงนามสัญญาด้วยกัน และได้จัดให้มีการลงนามสัญญาที่ห้องผู้บริหารระดับสูง อคส.รายหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่เป็นผู้นำสัญญามาให้ลงลายมือชื่อและประทับตราบริษัทเพียงฝ่ายเดียว
"โดยการลงนามสัญญานั้น ตนลงนามสัญญาด้วยตนเองด้วยความบริสุทธิ์ใจ โดยไม่ได้ให้ผู้อื่นลงนามในสัญญาแทนแต่อย่างใด และในสัญญานั้นมีตัวแทน อคส. เป็นผู้ลงนามในสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายสินค้าอีกฝ่ายหนึ่งในภายหลัง และไม่ทราบว่า การประกันสัญญาตามสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายสินค้าต้องใช้เงินจำนวน 1,000,000 บาท ดังนั้น แคชเชียร์เช็คของธนาคาร ทหารไทย จำกัด สาขา ออล ซีซั่นส์ เพลส จำนวน 1,000,000 บาท ของบริษัท เอ แอนด์ ดีฯ จึงไม่ได้มาจากตน แต่มาจากคุณ ก. กรรมการบริษัทรชาพันธ์ฯ เป็นผู้ออกแคชเชียร์เช็คจำนวนเงินดังกล่าวเป็นประกันการทำสัญญาแทน โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยเห็นข้าวมาก่อน แต่ได้รับทราบจากคุณโจว่า ข้าวอยู่ที่โรงสีแห่งหนึ่ง และไม่เคยได้รับข้อมูลว่าข้าวนั้นขายให้แก่ใคร"
ต่อมาวันที่ 17 พ.ค. 56 คุณ ก. ได้ติดต่อนัดไปที่ อคส. และให้มาเจอที่พลาซ่า แอทธินี่ โดยให้ไปกับคุณ น. ในฐานะตัวแทนของบริษัทรชาพันธ์ฯ ซึ่งมีการจัดทำหนังสือเอกสารขอชำระเงินค่าข้าว มีเจ้าหน้าที่ อคส.จัดพิมพ์เอกสารขอชำระเงินค่าข้าวให้ โดยให้ลงลายมือชื่อและประทับตราในฐานะกรรมการบริษัท เอ แอนด์ ดีฯ จึงได้ทราบจำนวนราคาค่าข้าวว่าเป็นจำนวนถึง 262,400,000 บาท ซึ่งในวันนั้น นายสมคิด เอื้อนสุภา เป็นผู้ถือเช็คมายื่นให้แก่เจ้าหน้าที่ อคส. ตามที่ คุณโจได้โทรศัพท์ติดต่อแจ้งให้เจอกับคุณสมคิดที่ชั้น 6 อคส. และให้เบอร์โทรศัพท์คุณสมคิดไว้ก่อนหน้านี้
ต่อมา วันที่ 23 พ.ค. 56 มีการนัดกันอีกครั้งหนึ่ง จึงได้พูดคุยกับนายสมคิดเป็นการส่วนตัว และสอบถามเรื่องภาษีข้าว ซึ่งนายสมคิดแจ้งว่าข้าวเป็นภาษี 0 เปอร์เซ็นต์ แต่ตนมีความเห็นว่าแม้จะเป็นการซื้อขายข้าว ก็ต้องมีการคิดภาษีซื้อและภาษีขาย
ต่อมา วันที่ 31 พ.ค. ได้ไปที่ อคส. และได้สอบถามนายสมคิดเกี่ยวกับข้อสงสัยเรื่องภาษีอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในวันนั้น นายสมคิดได้ฝากให้แจ้งแก่คุณ ก.ด้วยว่า มีการโอนเงินแล้ว จึงได้ทราบในวันนั้นเองว่า มีการจ่ายเงินจากบริษัทสยามอินดิก้าฯ ให้แก่ คุณ ก.
กรรมการบริษัท เอ แอนด์ ดีฯ รายนี้ ยังให้ปากคำว่า ในช่วงเดือน ม.ค. 57 ได้ปรึกษากับผู้ตรวจสอบบัญชี และขอให้ทางเจ้าหน้าที่ อคส. เปลี่ยนชื่อบริษัทที่ทำสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย ซึ่งเจ้าหน้าที่รายนี้เห็นว่า ทำได้ แต่ต่อมาด้วยเหตุที่ภายหลังจากการลงนามสัญญามีการเปลี่ยนรัฐมนตรี จึงทำให้ไม่อาจเปลี่ยนชื่อบริษัทที่ทำสัญญาได้ เนื่องจากขณะลงนามสัญญาและขณะเปลี่ยนชื่อบริษัทที่ทำสัญญา รัฐมนตรีเป็นคนละชุดกัน
เจ้าหน้าที่จึงแนะนำว่า ในเมื่อไม่อาจเปลี่ยนชื่อบริษัทที่ทำสัญญาได้ ก็ให้ตนทำสัญญาขายข้าวให้แก่ บริษัทรชาพันธ์ฯ และให้ คุณ ก. เป็นผู้ลงนามสัญญาซื้อข้าวให้ จึงเดินทางไปหา คุณ ก.ที่คอนโด ซึ่งตั้งอยู่ที่พลาซ่า แอทธินี่ แต่ คุณ ก.ไม่ลงนามสัญญาดังกล่าวให้ ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบแก่ความไว้วางใจแก่กรรมการบริษัท และชื่อเสียงของบริษัท เอ แอนด์ ดีฯ
กรรมการบริษัท เอ แอนด์ ดีฯ รายนี้ ยังระบุด้วยว่า กองนิติการ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ได้จัดส่งประเด็นคำถาม และบริษัทสยามอินดิก้าฯ ได้ร่างคำตอบส่งให้ ซึ่งเอกสารดังกล่าว ได้ขอส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และขอชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวเป็นความบกพร่องโดยสุจริต โดยไม่ได้มีเจตนากระทำมิชอบและไม่ทราบว่ามีกระบวนการกระทำมิชอบในการระบายข้าว อีกทั้งบริษัท เอ แอนด์ ดี ฯ ก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำนี้ด้วย
"การกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากความไว้วางใจคุณ ก.แม่ของเพื่อน ซึ่งเป็นกรรมการของบริษัท รชาพันธ์ฯ และความรู้เท่าไม่ถึงการณ์"
อ่านประกอบ :
เผยโฉม! 'สมคิด เอื้อนสุภา' นอมินี ขนเงินสดซื้อเช็ค ข้าวถุง 5.4 พันล. ?
แกะรอยเส้นทาง"เงินสด"ซื้อเช็คข้าวถุง 5.4พันล.หาตัว "ผู้บงการ"เหนือ "สมคิด"
ให้ปปง.คุ้ยต่อ!สตง.เชื่อแหล่งเงิน "สมคิด"ซื้อเช็คข้าวถุง5.4พันล.โยงสยามอินดิก้า
แกะรอย "บ.รชาพันธ์" รับจ้างฝึกอบรม รายได้หลักแสน ชื่อโผล่ซื้อข้าวถุง 787 ล.
ที่แท้ "กรุงไทย" สาขาออกเช็ค 4.2 พันล.ซื้อข้าวถุง อยู่ปากซอย "สยามอินดิก้า"
เปิดตัว "เอแอนด์ดีฯ" ทำธุรกิจไฟฟ้า โผล่ลงนามสัญญาข้าวถุง อคส. 787 ล.
ชำแหละเช็คข้าวถุง38 ใบ "คนสยามอินดิก้า"ขนเงินสดซื้อกรุงไทยมากสุด 4.2 พันล.
เช็ค 38 ใบ 5.4 พันล.! "คนสยามอินดิก้า" ขนเงินสดซื้อ หลักฐานมัดคดีข้าวถุง
เปิดหมดเปลือก "บ.เก่าเลขาฯบุญทรง" โผล่ซื้อข้าวถุง 2.9 พันล. โยงบิ๊ก "อคส."
ตามไปดู! บ้าน 2 ชั้น ที่ตั้งบ.ซื้อข้าวถุง116 ล."ผจก." ขอให้ข้อมูลจนท.รัฐเท่านั้น
ปริศนาเงินร้อยล.!"บ.ประกรวรรณฯ" โผล่สั่งซื้อข้าวอคส. จ่ายค่าตอบแทน 2 บ./ถุง)
ครบชุด! ข้อมูล 7 บริษัท โยงคดีข้าวถุง บิ๊ก อคส.รับส่วนต่าง 66 สต./ถุง
"สมคิด"โผล่ซื้อแคชเชียร์เช็ค5 พันล. เส้นทางเงินมัดแน่นคดีข้าวถุง โยง "สยามอินดิก้า"
'จัดเอกสาร-ซื้อเช็ค' ลูกน้องเสี่ยเปี๋ยงทำเองหมด! มัด 'สยามอินดิก้า' โยงคดีข้าวถุง
เสียหาย 3.8 พันล.!สตง.ชี้มูลคดีระบายข้าวถุงอคส.-เอกชนเครือญาติฮั้วเสนอราคารัฐ