"สมคิด"โผล่ซื้อแคชเชียร์เช็ค5 พันล. เส้นทางเงินมัดแน่นคดีข้าวถุง โยง "สยามอินดิก้า"
เจาะผลสอบสตง. คดีระบายข้าวถุง "รบ.ยิ่งลักษณ์" พบหลักฐานเส้นทางเงิน "สมคิด เอื้อนสุภา" คนสยามอินดิก้า โผล่ซื้อแคชเชียร์เช็คจ่าย อคส. 5 พันล้าน
กรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2558 ที่ผ่านมา สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เผยแพร่ผลตรวจสอบโครงการจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่าสร้างความเสียหายให้กับรัฐ เป็นจำนวนเงิน 3,830,324,750 บาท ขณะที่บริษัทเอกชนทั้ง 6 ราย ที่เข้ามาทำสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายข้าวถุง เป็นเครือข่ายเดียวกัน มี 5 บริษัท ไม่เคยดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนค้าขายข้าวมาก่อน นอกจากนี้ข้อมูลเส้นทางการเงินการสั่งซื้อแคชเชียร์เช็คเพื่อชำระค่าข้าวสารบรรจุถุงให้กับ อคส. พบว่า ผู้ซื้อแคชเชียร์เช็คของบริษัทตัวแทนจำหน่าย ทั้ง 6 ราย เป็นบุคคลเดียวกัน นั้น
(อ่านประกอบ : เสียหาย 3.8 พันล.!สตง.ชี้มูลคดีระบายข้าวถุงอคส.-เอกชนเครือญาติฮั้วเสนอราคารัฐ)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า บุคคลที่ถูกตรวจสอบพบว่า เป็นผู้ซื้อแคชเชียร์เช็คของตัวบริษัทตัวแทนจำหน่ายข้าวถุง ทั้ง 6 ราย ที่นำมาชำระค่าข้าวสารบรรจุถึงให้กับ อคส. คือ นายสมคิด เอื้อนสุภา ซึ่งถูกระบุว่าเป็นคนของบริษัทสยามอินดิก้า จำกัด และเป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาคดีการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดไปแล้ว และเป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาคดีการซื้อขายมันเส้น แบบจีทูจี ที่อยู่ระหว่างการไต่สวนข้อมูลของป.ป.ช. ในขณะนี้
โดยผลการตรวจสอบของ สตง. พบว่า แคชเชียร์เช็คที่สั่งจ่ายค่าข้าวสารบรรจุถุงในโครงการนี้ให้กับ อคส. จำนวนเงินรวม 6,795 ล้านบาท มีนายสมคิด เอื้องสุภา ซึ่งน่าเชื่อว่าเป็นตัวแทนของบริษัท สยามอินดิก้า ปรากฎชื่อเป็นผู้ซื้อจำนวนถึง 5,475 ล้านบาท
ขณะที่ บริษัทเอกชนที่ปรากฎชื่อเข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่ายข้าวถุง ทั้ง 6 ราย พบว่า มีเพียงบริษัทเดียวที่ดำเนินธุรกิจค้าขายข้าว ส่วนอีก 5 ราย ไม่เคยดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนขายข้าวมาก่อน และมีข้าวบางส่วนถูกขายต่อไปให้กับบริษัท สยามอินดิก้า ด้วย
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา เคยตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก พบว่า มีบทบาทสำคัญในเรื่องข้าวจีทูจีดังนี้
1. ภายหลังจากที่ บริษัท “GSSG IMP AND EXPORT CORP” จากเมืองกวางเจา ประเทศจีน คู่สัญญาการซื้อขายข้าวจีทูจี กับกรมการค้าต่างประเทศ ได้มอบอำนาจให้ "นายรัฐนิธ โสจิระกุล" เข้ามาทำสัญญาซื้อข้าวกับกรมการค้าต่างประเทศ
และ "นายรัฐนิธ โสจิระกุล" ได้มอบอำนาจให้ นายนิมล รักดี (เสี่ยโจ) ชาว อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ดำเนินการรับมอบข้าวออกจากโกดังแทน และมีการตรวจสอบพบข้อมูลว่า ข้าวในสต็อกรัฐบาล ถูกนำไปเร่ขายให้กับบริษัทเอกชนผู้ค้าข้าวในประเทศไทย ในราคาต่ำ
ส่วนเช็คจำนวนหลายใบ ที่มีการสั่งจ่ายให้กับกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อชำระเป็นค่าข้าว ถูกระบุว่า ผู้สั่งซื้อคือ "นายสมคิด เอื้อนสุภา"
2. นายสมคิด เอื้อนสุภา เคยปรากฏชื่อ เป็นผู้ได้รับมอบอำนาจจาก “เสี่ยเปี๋ยง” นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร เจ้าของบริษัทเพรสซิเดนท์อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ที่ผูกขาดการซื้อข้าวจากโครงการรับจำนำข้าว ในสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้เดินทางไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2547
ขณะที่การไต่สวนข้อเท็จจริงของ ป.ป.ช. พบว่า เงินที่ชำระค่าซื้อขายข้าวของกรมการค้าต่างประเทศที่ได้รับ มีความเกี่ยวพันกับบริษัทสยามอินดิก้า รวมทั้งบริษัทนี้เคยเป็นนายจ้างของ นายสมคิด เอื้อนสุภา เช่นกัน
(อ่านประกอบ : ย้อนข้อมูล คนใกล้ชิด"เสี่ยเปี๋ยง” ก่อนโดนรวบสอบคดีมันเส้นจีทูจี"เก๊" ซ้ำรอย "ข้าว"?)