เปิดพฤติการณ์ "3 บิ๊ก อคส." พันคดีข้าวถุง! ทำสัญญาเอื้อเอกชน-เรียกเงินใต้โต๊ะ

เปิดชื่อย่อ 3 "บิ๊กอคส." ถูกกล่าวหาพันคดีข้าวถุง! สตง.สอบพบหลักฐาน พฤติการณ์ชัดอนุมัติ-ทำสัญญาหลวมเอื้อประโยชน์ เรียกรับเงินใต้โต๊ะผู้ประกอบการ  

ในสำนวนการตรวจสอบโครงการจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) นำส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเชิงลึกต่อ

(อ่านประกอบ :ให้ปปง.คุ้ยต่อ!สตง.เชื่อแหล่งเงิน "สมคิด"ซื้อเช็คข้าวถุง5.4พันล.โยงสยามอินดิก้า)

นอกเหนือจากรายชื่อของบริษัทเอกชน 6 ราย เข้ามาทำหน้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายข้าวถุงให้กับ อคส.แล้ว ยังมีการระบุชื่อผู้บริหารระดับสูงของ อคส. ที่ถูกระบุว่ามีส่วนเข้ามีเกี่ยวข้องและทำให้รัฐเสียหาย ไว้ด้วยจำนวน 3 ราย

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ขอนำข้อมูลพฤติการณ์ และตัวอักษรย่อภาษาอังกฤษ ของผู้บริหารระดับสูงของ อคส.ทั้ง 3 ราย ที่ระบุไว้ในสำนวนการตรวจสอบของสตง. มานำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบแบบชัดๆ ดังนี้  

@ นาย "S"  

เข้ามาเกี่ยวข้องในฐานะเป็นผู้รับผิดชอบและลงนามในประกาศอคส.เรื่องรับสมัครตัวแทนข้าวถุง และเป็นผู้อนุมัติแบบสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายสินค้า อคส. 

สตง.ระบุว่า จากการตรวจสอบพบข้อเท็จจริงว่า นาย "S" ได้ใช้อำนาจของตนเองอนุมัติและลงนามในสัญญา โดยที่สัญญาไม่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการบังคับ ควบคุมและการตรวจสอบติดตามผล ให้ตัวแทนจำหน่ายดำเนินการจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงให้แก่ประชาชนในราคาปลายทางไม่เกินถุงละ 70 บาท เพื่อช่วยลดค่าครองชีพแก่ประชาชน (เอกชนนำข้าวไปขายต่อในราคาถุงละ 72-75 บาท) 

ประกอบกับในกระบวนการทำงาน ยังไม่มีข้อกำหนดในสัญญาที่ระบุให้นำข้อเสนอของบริษัทตัวแทนจำหน่ายมาเป็นเอกสารส่วนหนึ่งของสัญญา อันเป็นการอนุมัติและลงนามในสัญญาอย่างไม่รัดกุม ทำให้คู่สัญญาฝ่ายเอกชนสามารถนำข้าวสารบรรจุถุงไปจำหน่ายให้กับผู้ประกอบการซึ่งเป็นบริษัทค้าข้าวรายใหญ่ได้โดยไม่ต้องคำนึงว่าประชาชนจะได้รับประโยชน์หรือไม่

เนื่องจากสัญญาเป็นการซื้อขายเบ็ดเสร็จเด็ดขาดและไม่มีข้อ กำหนดใดๆ มาบังคับคู่สัญญาให้ต้องจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุง ให้แก่ประชาชน จึงเป็นสัญญาเอื้อประโยชน์ให้แก่ฝ่ายเอกชนคู่สัญญา และความเสียหาย/ความเสียเปรียบได้เกิดแก่ทางราชการเนื่องจากนิติสัมพันธ์ทางสัญญาได้เกิดขึ้นแล้ว

และยังได้ลงนามประกาศรับสมัครตัวแทนจำหน่ายข้าว โดยมิได้มีการกำหนดว่าผู้เข้ารับการคัดเลือกเป็นตัวแทนจำหน่ายต้องได้รับใบอนุญาตประกอบการค้าข้าวด้วย

นอกจากนี้ นาย "S" ยังมิได้กำหนดหลักเกณฑ์ใดๆ ให้เจ้าหน้าที่ อคส.ดำเนินการตรวจสอบ ควบคุมติดตามผลโครงการแต่อย่างใด 

มิหน่ำซ้ำ แบบสัญญาที่อคส.ลงนามกับเอกชน ยังไม่ได้ผ่านการพิจารณาจากสำนักงานอัยการอีกด้วย

ดังนั้น จากพฤติการณ์ของนาย "S" ที่กล่าวมา จึงน่าเชื่อว่าเป็นการทุจริตหรือมีการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เงินหรือทรัพย์สินของทางราชการ โดยการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ และหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

@ นาย "C" 

เข้ามาเกี่ยวข้องในฐานะเป็นผู้รับผิดชอบและลงนามในประกาศอคส.เรื่องรับสมัครตัวแทนข้าวถุง และเป็นผู้อนุมัติแบบสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายสินค้า อคส. เช่นกัน และมีพฤติการณ์เหมือนกับ นาย "S"

แต่มีข้อเท็จจริงที่แตกต่างกัน คือ ไปลงนามอนุมัติการดำเนินงานบางส่วน ในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า ทั้งที่ มีตำแหน่งที่ต่ำกว่าและมิใช่ผู้รักษาการแทนผู้อำนวยการฯ อคส.แต่อย่างใด

จึงถือว่าเป็นการลงนามโดยมิชอบ

สตง. เชื่อว่าพฤติการณ์ของ นาย "C" เป็นการทุจริตหรือมีการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เงินหรือทรัพย์สินของทางราชการ โดยการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ และหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เช่นกัน 

@ นาย "P"

ถูกกล่าวอ้างจากผู้ประกอบการเอกชน ว่า เป็นผู้เรียกรับเงินค่าตอบแทนจำนวน 66 สตางค์/ถุงจากการแนะนำให้รู้จักกับ คุณโจ (นิมล รักดี ถูกระบุข้อมูลในวงการข้าวว่าเป็นมือขวาของ “เสี่ยเปี๋ยง” นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทสยามอินดิก้า จำกัด) เพื่อติดต่อเจรจาเรื่องการซื้อขายข้าว 

สตง.เห็นว่า จากข้อมูลข้อเท็จจริงดังกล่าว เป็นการกล่าวอ้างในเรื่องที่เกี่ยวกับการ กล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐเรียก รับหรือจะย่อมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง อันเป็นการกล่าวหาในเรื่องเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ 

จึงเห็นควรแจ้งข้อมูลให้กับ สำนักงาน ป.ป.ช.เพื่อประกอบสำนวน และหากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

(อ่านประกอบ : เปิดเส้นทาง "หัวคิว" ระบายข้าวถุง "บิ๊กอคส." รับค่านายหน้า66 สต.2 บริษัทรวด!)

เบื้องต้น สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า  นาย "S" ที่สตง.ระบุถึง คือ พ.ต.ต.ศราวุฒิ สกุลมีฤทธิ์ อดีตผู้อำนวยการอคส. ถูกเลิกจ้างไปเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2556 และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่บ้านพักใน อ.ศรีราชา

อ่านประกอบ :

คำให้การพี่ชาย "สมคิด เอื้อนสุภา" น้องผมแค่แมสเซ็นเจอร์-แพะ คดีข้าวถุง

เปิดเส้นทาง "หัวคิว" ระบายข้าวถุง "บิ๊กอคส." รับค่านายหน้า66 สต.2 บริษัทรวด!

รู้จักที่งานศพ! เบื้องหลัง "บิ๊กอคส." เรียกส่วนแบ่ง 66 สต. ค่าแนะนำขายข้าวถุง

เจ้าของเงิน 5.4 พันล.ซื้อเช็คข้าวถุง ถ้าไม่ใช่"สมคิด"เป็น"สยามอินดิก้า"ได้ไหม?

เผยเช็ค"จีทูจี-ข้าวถุง-มันฯ"แหล่งเดียวกัน! อคส.สั่งสอบ"ผู้บริหาร-จนท."ชดใช้พันล.

แฉยิบทุกขั้นตอน "นอมินีข้าวถุง" ฟันหัวคิว 3 แสน/ด. เพื่อนโต๊ะแชร์ "เสี่ยเปี๋ยง"

เผยโฉม! 'สมคิด เอื้อนสุภา' นอมินี ขนเงินสดซื้อเช็ค ข้าวถุง 5.4 พันล. ?

แกะรอยเส้นทาง"เงินสด"ซื้อเช็คข้าวถุง 5.4พันล.หาตัว "ผู้บงการ"เหนือ "สมคิด"

ให้ปปง.คุ้ยต่อ!สตง.เชื่อแหล่งเงิน "สมคิด"ซื้อเช็คข้าวถุง5.4พันล.โยงสยามอินดิก้า

แกะรอย "บ.รชาพันธ์" รับจ้างฝึกอบรม รายได้หลักแสน ชื่อโผล่ซื้อข้าวถุง 787 ล.

ที่แท้ "กรุงไทย" สาขาออกเช็ค 4.2 พันล.ซื้อข้าวถุง อยู่ปากซอย "สยามอินดิก้า"

เปิดตัว "เอแอนด์ดีฯ" ทำธุรกิจไฟฟ้า โผล่ลงนามสัญญาข้าวถุง อคส. 787 ล.

ชำแหละเช็คข้าวถุง38 ใบ "คนสยามอินดิก้า"ขนเงินสดซื้อกรุงไทยมากสุด 4.2 พันล.

เช็ค 38 ใบ 5.4 พันล.! "คนสยามอินดิก้า" ขนเงินสดซื้อ หลักฐานมัดคดีข้าวถุง

เปิดหมดเปลือก "บ.เก่าเลขาฯบุญทรง" โผล่ซื้อข้าวถุง 2.9 พันล. โยงบิ๊ก "อคส."

ตามไปดู! บ้าน 2 ชั้น ที่ตั้งบ.ซื้อข้าวถุง116 ล."ผจก." ขอให้ข้อมูลจนท.รัฐเท่านั้น

ปริศนาเงินร้อยล.!"บ.ประกรวรรณฯ" โผล่สั่งซื้อข้าวอคส. จ่ายค่าตอบแทน 2 บ./ถุง)

ครบชุด! ข้อมูล 7 บริษัท โยงคดีข้าวถุง บิ๊ก อคส.รับส่วนต่าง 66 สต./ถุง

"สมคิด"โผล่ซื้อแคชเชียร์เช็ค5 พันล. เส้นทางเงินมัดแน่นคดีข้าวถุง โยง "สยามอินดิก้า" 

'จัดเอกสาร-ซื้อเช็ค' ลูกน้องเสี่ยเปี๋ยงทำเองหมด! มัด 'สยามอินดิก้า' โยงคดีข้าวถุง

เสียหาย 3.8 พันล.!สตง.ชี้มูลคดีระบายข้าวถุงอคส.-เอกชนเครือญาติฮั้วเสนอราคารัฐ