- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- ปลัดก.อุตฯ ยันพบข้อบ่งชี้การรั่วไหลน้ำจากบ่อเก็บกากแร่ที่ 1 เหมืองทองอัคราฯ
ปลัดก.อุตฯ ยันพบข้อบ่งชี้การรั่วไหลน้ำจากบ่อเก็บกากแร่ที่ 1 เหมืองทองอัคราฯ
ปลัดก.อุตฯ ระบุ พบข้อบ่งชี้การรั่วไหลของน้ำจากบ่อเก็บกากแร่ที่ 1 ของบริษัท อัคราฯ สำหรับการตรวจสอบน้ำผุดหรือน้ำซับบริเวณนาข้าวที่ชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียน จากการตรวจสอบ 2 ครั้ง ไม่พบสารไซยาไนด์ปนเปื้อน
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยผลการตรวจสอบบ่อเก็บกากแร่ที่ 1 (TSF1) ของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) พบข้อบ่งชี้การรั่วไหลของน้ำจาก TSF1 ถึงบ่อสังเกตการณ์ด้านใต้และตะวันตกเฉียงใต้ พร้อมเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลง เพื่อความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน
นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ จากการทำเหมืองแร่ทองคำของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) แถลงว่า ขณะนี้ผลการศึกษาโครงการสำรวจตรวจสอบโอกาสการรั่วไหลของสารพิษจากบ่อเก็บกากแร่ที่ 1 (TSF1) ด้วยเทคนิคด้านธรณีฟิสิกส์และไอโซโทป โดย ผศ.ดร.ธนพล เพ็ญรัตน์ จากมหาวิทยาลัยนเรศวร ดร.สิรินาฏ เลาหะโรจนพันธ์ และ Dr.Yuji Mitsuhata จาก National Institute of Advanced Industrial Science and Technology (AIST) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากคณะทำงานย่อยผู้เชี่ยวชาญการตรวจสอบข้อเท็จจริงการรั่วซึมของบ่อเก็บกากแร่ที่ 1 และคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงการรั่วซึมของบ่อเก็บกากแร่แล้ว สามารถสรุปผลการศึกษา พบความผิดปกติทางความต้านทานไฟฟ้าที่แสดงถึงการรั่วไหลของน้ำจากบ่อเก็บกากแร่ที่ 1 สอดคล้องกับข้อมูลธรณีเคมีกับไอโซโทป ซึ่งชี้ให้เห็นว่า น้ำจากบ่อเก็บกากแร่ที่ 1 ไหลมาถึงบ่อสังเกตการณ์ด้านทิศใต้และตะวันตกเฉียงใต้ (บ่อเฝ้าระวัง 6468 6473 5339 6691 และ 5338) รวมทั้งพบน้ำซับทางด้านทิศใต้ของบ่อเก็บกากแร่ที่ 1 ด้วย
สำหรับการตรวจสอบน้ำผุดหรือน้ำซับบริเวณนาข้าวที่ชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียน จากการตรวจสอบ 2 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2559 และ 2560๐ ไม่พบสารไซยาไนด์ปนเปื้อนในน้ำอย่างมีนัยสำคัญ แต่พบการปนเปื้อนของซัลเฟตและโลหะหนักอื่น และผลการวิเคราะห์ทางเคมีของน้ำจากบ่อเฝ้าระวังชี้ว่า น่าจะเป็นน้ำรั่วไหลจากบ่อเก็บกากแร่ที่ 1
ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) จะได้ติดตามเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงด้านคุณภาพน้ำโดยรอบสถานประกอบการเหมืองแร่ทองคำของบริษัท อัคราฯ ต่อไป เพื่อความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 10 พฤษภาคม 2559 สั่งปิดเหมืองทองคำชาตรี จ.พิจิตร อนุญาตให้ประกอบกิจการถึงสิ้นปี 2559 พร้อมให้ ก.เเรงงานเยียวยาพนักงาน บ. อัคราฯ ที่ได้รับผลกระทบ
บ่อกักเก็บกากแร่ ที่ 2 ถ่ายเมื่อปี 2558 ก่อนคำสั่งปิดเหมืองทอง
ที่ประชุมกพร.ยังไม่เปิดผลสอบบ่อเก็บแร่เหมืองทองรั่ว ขอเวลา 10 วัน-อัครา เล็งออกหนังสือแจง
เหมืองทองอัครฯ แจงสื่อเห็นแย้งในผลตรวจสอบการรั่วซึมบ่อกักเก็บกากแร่ที่ 1
ครม.สั่งปิดเหมืองทองคำชาตรี จ.พิจิตร อนุญาตให้ บ.อัคราฯ ขนเเร่ถึงสิ้นปี 59
หมายเหตุ :ภาพถ่ายบ่อกักเก็บแร่ที่ 1 เมื่อปี 2558 เลิกใช้งานแล้ว