เหตุการณ์ฆ่าหมู่ใน 2 อำเภอ คือ สุคิริน จ.นราธิวาส กับ บันนังสตา จ.ยะลา ในห้วงเวลาห่างกันเพียง 5 วัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 9 ศพ และยังมีเหตุยิงรายวันอื่นๆ อีกหลายเหตุการณ์ รวมแล้ว 5 วัน (7-11 มิ.ย.61) สังเวยไปทั้งสิ้น 12 ศพ ทำให้สังคมหันกลับมาตั้งคำถามว่า นี่ไฟใต้ไม่ได้ใกล้มอดเหมือนที่ฝ่ายความมั่นคงตอกย้ำอยู่บ่อยๆ ใช่หรือไม่?
"มั่นใจไม่ว่าจะเป็นพรรคใดเข้ามาบริหารประเทศ ก็จะไม่กระทบต่อการพูดคุยสันติสุขฯ ไม่กระทบโรดแมพ เพราะถือเป็นนโยบายระหว่างประเทศซึ่งทุกพรรครัฐบาลที่เข้ามาดำรงตำแหน่งต้องให้การสนับสนุนตามหลักสากลในแนวทางสันติวิธี เพราะปัจจุบันทั่วโลกได้เข้าสู่โหมดสันติภาพ"
ต้องไม่ลืมว่า "โครงการติดตั้งตู้กรองน้ำพลังงานแสงอาทิตย์" ของ ศอ.บต. ยังอยู่ในกระบวนการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่ ศอ.บต.ตั้งขึ้นเอง
ช่วงนี้ฝ่ายทหารลุยแจ้งความดำเนินคดีสื่อมวลชนและภาคประชาสังคมที่นำเสนอข่าวและออกมาพูดเรื่องซ้อมทรมานผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างหนัก เหมือนถือเป็นภารกิจหลักนอกเหนือจาก 2,600 ภารกิจที่เคยอ้างว่าต้องปฏิบัติในแต่ละวัน เพราะผ่านมาแค่ไม่ถึง 1 สัปดาห์ แจ้งไปแล้ว 2 คดี
สถานการณ์รวมๆ ที่ชายแดนใต้ ช่วงนี้ข่าวความรุนแรงก็ยังมีเป็นระยะๆ เฉลี่ยสัปดาห์ละครั้ง ก็ถือว่าน้อยมากถ้าเทียบกับช่วง 12-13 ปีที่ผ่านมา สาเหตุสำคัญมาจาก 2 อย่าง
"ก็จะเดินหน้าต่อไปเหมือนเดิม สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนหนู เหมือนแมลงสาบเข้าบ้าน เราก็ไล่ออกไป" (สัมภาษณ์หลังเหตุคาร์บอมบ์บิ๊กซี ปัตตานี)
เหตุการณ์ปล้นรถปิคอัพรวมทั้งหมด 7 คันเพื่อทำคาร์บอมบ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นภาพสะท้อนความจริงที่ว่า ไฟใต้คงไม่มอดดับลงง่ายๆ สัญญาณที่ดูดีหลายประการ ผู้เกี่ยวข้องต้องนำมาทบทวนใหม่ว่าเป็นแค่ "มายาคติ" หรือไม่
ใกล้สิ้นเดือน มิ.ย.ซึ่งเป็นกรอบเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ทำรายงานชี้แจงปัญหาการใช้จ่ายงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท ในโครงการติดตั้งเสาไฟและโคมไฟส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์ หรือที่เรียกว่า "เสาไฟโซลาร์เซลล์" จำนวน 14,318 ต้นทั่วทั้งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากมีพี่น้องประชาชนในพื้นที่ร้องเรียนเข้ามาอย่างหนาหู
การลอบวางระเบิดที่เกิดขึ้นถึงในโรงพยาบาล และห้างสรรพสินค้า ดังเช่นกรณีระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ (22 พ.ค.60) หน้าห้างบิ๊กซี ปัตตานี (9 พ.ค.60) หรือแม้แต่ห้างเซ็นทรัล เฟสติวัล ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี (10 เม.ย.58) ล้วนเป็นการใช้ยุทธวิธี "ก่อการร้าย" ในการก่อเหตุเพื่อหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่งทั้งสิ้น
ฝ่ายความมั่นคงสรุปเบื้องต้นเป็นการภายในตั้งแต่หลังเกิดเหตุแล้วว่า คาร์บอมบ์บิ๊กซี ปัตตานี เป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงกลุ่มเดิมๆ