- Home
- Isranews
- เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา
- ศาลฎีกาฯ ฟัน 2 บอร์ดรัฐฯ - 3 นักการเมืองท้องถิ่น ซุกบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯ ฟัน 2 บอร์ดรัฐฯ - 3 นักการเมืองท้องถิ่น ซุกบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯฟันอีกลอต บอรด์องค์การสวนพฤกษศาสตร์ บ.ไม้อัดไทย สังกัด ก.ทรัพย์ฯ - 3 นักการเมืองท้องถิ่น จ.ปทุมฯ กระบี่ สุพรรณฯ จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ปรับคนละ 4,000-8,000 บาท จำคุก 1-2 เดือน รอลงโทษทั้งหมด
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 18 เม.ย.2560 สำนักงานศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้เผยแพร่คำพิพากษาคดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้อง ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด เพิ่มเติมจากครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2560 ก่อนหน้านี้ อีก 5 คดี (ราย) มีความผิดทุกราย เป็น กรรมการรัฐวิสาหกิจ 2 รายคือ นายบุญนำ นิกรเทศ กรรมการ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ และ นายวีระพงษ์ บริสุทธิ์สุขกมล กรรมการ บริษัท ไม้อัดไทย จำกัด อีก 3 คดี เป็นนักการเมืองระดับท้องถิ่น
1.นายโปรย เกาะอ้อม รองนายกเทศมนตรีตำบลบางเตย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว 1 ปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลบางเตย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 16 ธ.ค.2554 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 34/2560 -28 ก.พ.2560)
2.นายบุญนำ นิกรเทศ กรรมการ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว 1 ปี ในการดำรงตำแหน่งวาระที่ 1 และ วาระที่สอง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 39 ( 15) ประกอบมาตรา 32 และ 33 และห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐ เฉพาะตำแหน่งตามมาตรา 39 และ มาตรา 40 เป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ 16 ก.ย.2554 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งกรรมการองค์การสวนพฤกษศาสตร์ วาระที่ 2 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 41
กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมาย มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 41/2560 10 มี.ค.2560)
3.นายวีระพงษ์ บริสุทธิ์สุขกมล กรรมการ บริษัท ไม้อัดไทย จำกัด จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว 1 ปี ในการดำรงตำแหน่งวาระที่ 1 และ วาระที่สอง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 39 ( 15) ประกอบมาตรา 32 และ 33 และห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐ เฉพาะตำแหน่งตามมาตรา 39 และ มาตรา 40 เป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ 9 พ.ย. 2554 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งกรรมการ บริษัท ไม้อัดไทย จำกัด วาระที่ 2 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 41
กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมาย มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 52/2560- 20 มี.ค.2560)
4.นายนรเทพ ปานมาตย์ เลขานุการนายกองค์การสวนตำบล (อบต.) ห้วยยูง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว 1 ปีในการดำรงตำแหน่งเลขานุการนายกฯ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 30 ส.ค. 2555 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 58/2560- 30 มี.ค.2560)
5.นายวิกร ศุภัทราธนกุล รองนายกเทศมนตรีตำบลโคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่ง และ กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว 1 ปีในการดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลบางปลาม้า ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 9 มี.ค. 2555 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมาย มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 59/2560- 30 มี.ค.2560)
ทั้งนี้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ และ บริษัท ไม้อัดไทย จำกัด เป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากนับตั้งแต่ 5 ม.ค. 18 เม.ย. 2560 ล่าสุด ศาลฎีกาฯ เผยแพร่คำพิพากษาคดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้ร้อง ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด และยื่นบัญชีฯเท็จ รวม 9 ครั้ง 70 คดี (ราย ) จำแนกเป็น
1.จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ 1 ราย คือ นายหนูแดง วรรณกางซ้าย ส.ส.บุรีรัมย์
2.จงใจยื่นบัญชีฯเท็จและร่ำรวยผิดปกติ 1 รายคือ นายเกษม นิมมลรัตน์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ และที่ปรึกษานายก อบจ.เชียงใหม่
3.จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ 68 ราย เป็นนักการเมืองระดับชาติ 1 ราย คือ นายเอกศักดิ์ แดงเดช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการรัฐวิสาหกิจ 2 รายคือ นายบุญนำ นิกรเทศ กรรมการ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ และ นายวีระพงษ์ บริสุทธิ์สุขกมล กรรมการ บริษัท ไม้อัดไทย จำกัด ที่เหลือเป็นนักการเมืองระดับท้องถิ่นทั้งหมด
อ่านประกอบ:
ศาลฎีกาฯฟัน 6 นักการเมือง ซุกบัญชีฯ - นายก จ.พัทลุง ติดคุกจริง 2 เดือน
INFO : นักการเมือง 326 คน 57 จังหวัด ซุกบัญชีทรัพย์สิน-ยื่นเท็จ
ศาลฎีกาฯ ฟัน 2 นักการเมือง จ.สิงห์บุรี-อุบลฯ ซุกบัญชีทรัพย์สิน
324 นักการเมือง 57 จ.‘ซุกบัญชีฯ-ยื่นเท็จ’ พัทลุง เชียงใหม่ กาญจน์ แชมป์