- Home
- Investigative
- บัญชีทรัพย์สิน
- ศาลฎีกาฯฟัน 6 นักการเมือง ซุกบัญชีฯ - นายก จ.พัทลุง ติดคุกจริง 2 เดือน
ศาลฎีกาฯฟัน 6 นักการเมือง ซุกบัญชีฯ - นายก จ.พัทลุง ติดคุกจริง 2 เดือน
ศาลฎีกาฯฟัน 6 นักการเมือง จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ป.ป.ช. ส.อบจ.ระนอง – 4 รองนายก อบต. นายกเทศมนตรี จ.พัทลุง ติดคุกจริง 2 เดือน เหตุมีคดีเก่า พ้นตำแหน่งทันที 2 คน
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 เม.ย.2560 สำนักงานศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้เผยแพร่คำพิพากษาคดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้อง ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด เพิ่มเติมจากเมื่อวันที่ 31 มี.ค.2560 และก่อนหน้านี้ รวมอีก 6 คดี เป็นนักการเมืองท้องถิ่นทั้งหมด ในจำนวนนี้พิพากษาให้ผู้ดำรงตำแหน่งต้องพ้นตำแหน่ทันทีนับจากวันพิพากษา 2 คน และจำคุกไม่รองการลงโทษ 1 คน ดังนี้
1.นายมณเฑียร พัฒเสมา รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) คลองพลู อ.เขาคิชฌกูช จ.จันทบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีกรณีเข้ารับตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่ง ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต. คลองพลู ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 30 ก.ย.2554 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง และ ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.คลองพลู นับแต่วันที่ 8 ก.พ.2560 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกามีคำวินิจฉัย คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 173/2559 -8 ก.พ.2560)
2.นายเจริญ จันทอิสสระ รองนายก อบต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีเข้ารับตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่ง และ เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 ลงโทษจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม.39 /2560 -10 มี.ค.2560)
3.นางอรุณรัตน์ ใสสุข สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ระนอง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว 1 ปี ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 15 ก.พ.2555 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม.42 /2560 -10 มี.ค.2560)
4.นายพศิน นวลเปียน นายกเทศมนตรีตำบลกงหรา อ.กงหรา จ.พัทลุง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่ง และ กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว 1 ปี ในการดำรงตำแหน่งนายกเทมนตรีตำบลกงหรา ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 17 ม.ค.2557 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง
กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมาย มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 2 เดือน เนื่องจากผู้คัดค้านอยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่คดีหมายเลขแดงที่ 4116/2557 ของศาลจังหวัดพัทลุง จึงมิอาจรอการลงโทษได้ (คดีหมายเลขแดงที่ อม 45/2560-20 มี.ค.2560 ) (http://www.supremecourt.or.th/webportal/maincode/content.php?content=component/library/libview.php&id=634&base=24)
5.นางรัตติยา อนุชาติ รองนายก อบต.ท่าช้าง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว 1 ปี ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 29 ส.ค.2555 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม.49 /2560 -20 มี.ค.2560)
6.นายโสภณ ศรีนวล รองนายก อบต.วังหามแห อ.ขาณุวรลักษณบุรี จ.กำแพงเพชร จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งและ กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว 1 ปี ในการดำรงตำแหน่งครั้งที่ 1 และ กรณีเข้ารับตำแหน่งครั้งที่สอง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.วังหามแห ครั้งที่ 2 นับแต่วันที่ 27 มี.ค.2560 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาฯ มีคำวินิจฉัย และห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 27 มี.ค.2560 อันเป็นวันที่ศาลฎีกาฯ วินิจฉัย
การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมาย มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 3 กระทง เป็นจำคุก 6 เดือน และปรับ 24,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน ปรับ 12,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม.56 /2560 -27 มี.ค.2560)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากนับตั้งแต่ 5 ม.ค. - 7 เม.ย. 2560 ล่าสุด ศาลฎีกาฯ เผยแพร่คำพิพากษาคดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้ร้อง ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด และยื่นบัญชีฯเท็จ รวม 8 ครั้ง 65 คดี (ราย ) จำแนกเป็น
1.จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ 1 ราย คือ นายหนูแดง วรรณกางซ้าย ส.ส.บุรีรัมย์
2.จงใจยื่นบัญชีฯเท็จและร่ำรวยผิดปกติ 1 รายคือ นายเกษม นิมมลรัตน์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ และที่ปรึกษานายก อบจ.เชียงใหม่
3.จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ 63 ราย เป็นนักการเมืองระดับชาติ 1 ราย คือ นายเอกศักดิ์ แดงเดช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เหลือเป็นนักการเมืองระดับท้องถิ่นทั้งหมด
อ่านประกอบ :
INFO : นักการเมือง 326 คน 57 จังหวัด ซุกบัญชีทรัพย์สิน-ยื่นเท็จ
ศาลฎีกาฯ ฟัน 2 นักการเมือง จ.สิงห์บุรี-อุบลฯ ซุกบัญชีทรัพย์สิน
324 นักการเมือง 57 จ.‘ซุกบัญชีฯ-ยื่นเท็จ’ พัทลุง เชียงใหม่ กาญจน์ แชมป์