- Home
- Investigative
- บัญชีทรัพย์สิน
- ศาลฎีกาฯ ฟัน 2 นักการเมือง จ.สิงห์บุรี-อุบลฯ ซุกบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯ ฟัน 2 นักการเมือง จ.สิงห์บุรี-อุบลฯ ซุกบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯ ฟันอีก 2 นักการเมืองท้องถิ่น รองนายก อบต. จ.สิงห์บุรี-อุบลฯ จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน สั่งเว้นวรรค 5 ปี ปรับเงิน จำคุก 2 เดือน รอลงโทษ 1 ปี พบนับจาก ม.ค.-มี.ค. 60 ยอดรวมพุ่ง 59 ราย
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2560 สำนักงานศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้เผยแพร่คำพิพากษาคดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งสิ้น 2 คดี เป็นนักการเมืองท้องถิ่นทั้ง 2 ราย พิพากษาให้ผู้คัดค้านมีความผิดทั้งหมด
1. นายอรุณ ชมคำ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ( อบต.) โนนกลาง อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว 1 ปี ในการดำรงตำแหน่ง รองนายก อบต.โนนกลาง อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 ก.ย. 2556 ซึ่งเป็นที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมาย มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม 177/2559 – 17 พ.ย. 2559 ) http://www.supremecourt.or.th/file/red177-59.pdf
2. นายกิติทรัพย์ สังข์ทอง รองนายก อบต.บางระจัน อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว 1 ปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.บางระจัน อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 ก.ย. 2556 ซึ่งเป็นที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมาย มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท รวม 2 กระทงเป็นจำคุก 4 เดือน ปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม 5/2560- 12 ม.ค. 2560) http://www.supremecourt.or.th/file/red5-60.pdf
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากนับรวมครั้งนี้ นับตั้งแต่ 5 ม.ค. -31 มี.ค. 2560ศาลฎีกาฯ เผยแพร่คำพิพากษาคดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด และจงยื่นบัญชีฯ เท็จ รวม 7 ครั้ง 59 คดี (ราย ) จำแนกเป็น
1.จงใจยื่นบัญชีเท็จ 1 ราย คือ นายหนูแดง วรรณกางซ้าย ส.ส.บุรีรัมย์
2.จงใจยื่นบัญชีเท็จและร่ำรวยผิดปกติ 1 รายคือ นายเกษม นิมมลรัตน์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ และที่ปรึกษานายก อบจ.เชียงใหม่
3.จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ 57 ราย เป็นนักการเมืองระดับชาติ 1 ราย คือ นายเอกศักดิ์ แดงเดช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เหลือเป็นนักการเมืองระดับท้องถิ่นทั้งหมด
อ่านประกอบ:
324 นักการเมือง 57 จ.‘ซุกบัญชีฯ-ยื่นเท็จ’ พัทลุง เชียงใหม่ กาญจน์ แชมป์
INFO : นักการเมือง 326 คน 57 จังหวัด ซุกบัญชีทรัพย์สิน-ยื่นเท็จ