- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- เหลือเงิน24ล.!ชนวนกองทุน กสศ.ชง ครม. ของบประเดิม-ก่อนถูกหั่นปี’61 ได้499ล.?
เหลือเงิน24ล.!ชนวนกองทุน กสศ.ชง ครม. ของบประเดิม-ก่อนถูกหั่นปี’61 ได้499ล.?
โชว์หนังสือสำนักงบประมาณ ตัดลดงบกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ชงขอ ครม. 1.2 พันล้าน เหตุมีเงินเหลือใช้แค่เพียง 24 ล้าน แต่ถูกหั่นเหลือ 1.1 พันล. เงินประเดิมงวดแรก 700 ล. เงินงบปี’61 เหลือ 499.187 ล้าน จากเดิมที่ขอไป 532 ล้าน
“แม้จะได้รับงบประมาณน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ก็ยังเพียงพอให้เราเริ่มต้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ กสศ. จะดำเนินการหาช่องทางระดมทรัพยากรอื่นๆ ตามที่กฎหมายเปิดโอกาสไว้มาสนับสนุนภารกิจที่ถูกปรับลดงบประมาณไป เช่น การระดมเงินบริจาคจากประชาชนและนิติบุคคล ซึ่งขณะนี้ยังรอกรมสรรพากรดำเนินการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาแก่รัฐบาลเพื่อให้ กสศ. สามารถให้สิทธิลดหย่อนภาษี 2 เท่าแก่ผู้บริจาคได้อยู่”
เป็นคำยืนยันจาก ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ปัจจุบันเป็นประธานกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กรณีที่ประชุมคณะกรรมการ กสศ. ชงเสนอคณะรัฐมนตรีขอปรับปรุงแผนปฏิบัติการงบประมาณปี 2561 และ 2562 แต่คณะรัฐมนตรีปรับลดงบประมาณในปี 2561 เหลือเพียง 499.187 ล้านบาท โดยทำตามความเห็นของสำนักงบประมาณนั้น (อ่านประกอบ : รับงบฯ น้อยกว่าที่คาด! บอร์ด กสศ. ปรับแผนงาน-เงินช่วยเหลือเด็กไทยกว่า 1.48 ล้านคน)
ทำไมสำนักงบประมาณถึงปรับลดวงเงินดังกล่าวลง ?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบหนังสือของกรมบัญชีกลาง ที่นำเสนอความเห็นต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2561 ที่ผ่านมา สรุปได้ ดังนี้
สาเหตุสำคัญที่ทำให้คณะกรรมการบริหารกองทุน กสศ. จำเป็นต้องเสนอเรื่องดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อขออุดหนุนงบประมาณดังกล่าว เกิดขึ้นจากนายสุภกร บัวสาย ผู้จัดการสำนักงานส่งเสริมสังแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้จัดการกองทุน กสศ. ทำหนังสือถึงเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ระบุสาระสำคัญตอนหนึ่งว่า เนื่องจาก กสศ. เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ยังไม่เคยได้รับการจัดสรรงบประมาณ รวมทั้งเงินและทรัพย์สินที่ได้รับโอนมาจาก สสค. ตามมาตรา 47 และ 48 จำนวนประมาณ 24 ล้านบาท ไม่เพียงพอต่อการดำเนินภารกิจตามวัตถุประสงค์ โดยจะหมดสิ้นลงประมาณเดือน ก.ย. 2561 ในขณะที่ กสศ. จำเป็นต้องดำเนินภารกิจตามแผนงานตามแผนแม่บท และแผนปฏิบัติการของ กสศ. ปีงบประมาณ 2561-2562
โดย กสศ. ขอรับเงินจัดสรรเป็นทุนประเดิมและเงินอุดหนุนให้แก่กองทุน กสศ. ปีงบประมาณ 2561 เพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2561 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 1,222.2 ล้านบาท สำหรับเป็นทุนประเดิมจำนวน 700 ล้านบาท และเป็นเงินอุดหนุนสำหรับงบประมาณตามแผนการใช้เงินปีงบประมาณ 2561 จำนวน 522.2 ล้านบาท พร้อมกับได้ทำหนังสือขออนุมัติงบประมาณเสนอคณะรัฐมนตรี ผ่านเลขาธิการคณะรัฐมนตรี โดยเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ขอให้สำนักงบประมาณเสนอความเห็นในการอนุมัติงบประมาณในส่วนนี้ก่อน
สำนักงบประมาณพิจารณาแล้ว ขอเรียนว่า เพื่อให้กองทุน กสศ. สามารถเตรียมการเพื่อรองรับภารกิจและวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งกองทุนในปีงบประมาณ 2561 และปีต่อ ๆ ไป รวมทั้งเป็นเงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจนเพิ่มเติม สำหรับการช่วยเหลือให้เด็กหลุดออกจากระบบการศึกษาน้อยลง จึงสมควรที่คณะรัฐมนตรีจะพิจารณาอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2560 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่กระทรวงการคลังอนุมัติให้ขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณได้ถึงวันทำการสุดท้ายของเดือน มี.ค. 2562 แล้ว จำนวน 1,199,187,400 บาท (ราว 1.1 พันล้านบาท) ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้ว เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ดังนี้
1.ทุนประเดิมงวดแรกให้กองทุน กสศ. จำนวน 700 ล้านบาท
2.เงินรายปีสำหรับดำเนินภารกิจของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา จำนวน 499,187,400 บาท
ตามนัย พ.ร.บ.กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ.2561 โดยให้เบิกจ่ายในงบรายจ่ายอื่น และขอให้กองทุน กสศ. ใช้จ่ายตามแผนการใช้เงินที่ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารกองทุน กสศ. แล้ว โดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ รวมถึงการใช้จ่ายเงินสำหรับการดำเนินภารกิจดังกล่าวจะต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส คุ้มค่า และประหยัด โดยพิจารณาเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ ให้ถูกต้องครบถ้วน ประโยชน์ที่ภาครัฐและประชาชนจะได้รับ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และเกิดผลสัมฤทธิ์ในการบริหารจัดการกองทุนฯอย่างยั่งยืน ตามนัย พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 ต่อไป (ดูเอกสารประกอบ)
นี่คือเบื้องหลังสาเหตุสำคัญที่ทำให้ กสศ. จำเป็นต้องชงขออนุมัติงบประมาณประจำปี 2561-2562 นับพันล้านบาท เพื่อนำมาช่วยเหลือทางการศึกษาแก่เด็ก และเยาวชน โดยเฉพาะ ‘เด็กยากจนพิเศษ’ จำนวนกว่า 6.2 แสนราย ที่ยังรอการช่วยเหลืออยู่
ส่วนทำไมสำนักงบประมาณถึงต้องลดทอนงบประมาณดังกล่าวลงจากเดิมที่เสนอไปนั้น ไม่มีการระบุไว้ในความเห็น ?
ข่าวที่เกี่ยว
กสศ. เปิด 10 จังหวัด พบนร.ยากจนพิเศษ-ครอบครัวมีรายได้เฉลี่ย 42 บ./วัน
กสศ.โชว์ผลงานข้อมูลรายบุคคลนร.สังกัดสพฐ. 1.6 ล้าน ครอบครัวสถานะยากจน
กสศ.เล็งช่วยเหลือเด็กยากจนพิเศษ 6.2 แสนคน พ.ย.นี้ 'ถูกคน ตรงจุด ไม่ซ้ำซ้อน และโปร่งใส'
ตามดูระบบเยี่ยมบ้าน ถึงแอพพลิเคชั่น ค้นหาเด็กยากจน ร.ร.วัดห้วยแก้ว จ.เชียงใหม่