เบสท์ริน ร้อง ประธาน สนช. ตรวจสอบกรมศุลฯทำเกินหน้าที่-ยันนำเข้ารถเมล์ NGVถูกต้อง
เบสท์ริน ยื่นหนังสือ ถึง สนช. แจงปมรถเมล์ NGV หลังกรมศุลกากรตั้งข้อกล่าวหา แจ้งถิ่นกำเนิดรถเป็นเท็จ ประธานบริษัทย้ำทำถูกต้อง ยึดใบรับรองจากมาเลเซียเป็นหลักถามกลับกรมศุลฯทำเกินหน้าที่หรือไม่
6 กุมภาพันธ์ 2560 ที่อาคาร 2 รัฐสภา นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด พร้อมด้วยทีมทนายความ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียน ต่อประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับรถเมล์NGV
นายคณิสสร์ กล่าวว่า กรณีกรมศุลกากรตั้งข้อกล่าวหากับบริษัทซุปเปอร์ซาร่า จำกัดซึ่งเป็นบริษัทในเครือเบสท์รินฯ เรื่องสำแดงประเทศกกำเนิดเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.ห้ามนำของที่มีการแสดงกำเนิดเป็นเท็จเข้ามา พ.ศ.2481 เมื่อไปเปิดข้อกฎหมาย ของพ.ร.บ.นี้ มีสามมาตรา 3,5,และ5 พบว่า ครอบคลุมเฉพาะสินค้าหัตถกรรม ในการกล่าวหาไม่ได้บรรยายถึงรถยนต์เกี่ยวข้องกับสินค้าหัตถกรรมอย่างไร ที่สำคัญคือมีการสอบถามความถูกต้อง แหล่งกำเนิดสินค้าไปยังประเทศที่ออกหนังสือหรือยัง ถ้ายังไม่มีการสอบถาม เกรงว่าอาจจะเป็นการกล่าวโทษ โดยไม่มีกฎหมายรองรับไว้
นายคณิสสร์ ยังกล่าวด้วยว่า เมื่อกรมศุลากรมีข้อสงสัยเกี่ยวกับถิ่นกำเนิดสินค้า ในภาคผนวก1 ระบุชัดเจนว่า ระเบียบเกี่ยวกับหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Form D) ซึ่งระเบียบตรงนี้ประเทศไทยได้ลงนามไว้ตามข้อผูกพันความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน 10ประเทศ โดยอาศัยอำนาจ ตามมาตรา14 ของ ประกาศของกระทรวงการคลัง เรื่องการยกเว้นอากรและลดอัตราอากรศุลกากรสำหรับของที่มีถิ่นกำเนิดจากอาเซียน ดังนั้นหากกรมศุลกากรจะมาตัดสิทธิในเรื่องนี้ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย อยู่ๆ จะไปตัดสิทธิ์ไม่ได้
นายคณิสสร์ กล่าวอีกว่า กรมศุลกากร ไม่มีอำนาจในการตัดสิทธิ์ ในการใช้หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Form D) หน่วยงานที่มีสิทธิในการตัดสิทธิ์ คือหน่วยงานที่ออกกฎ ก็คือ กระทรวงมิติ ของประเทศมาเลเซีย เพราะฉะนั้นอยากให้หน่วยงานต่างๆ เข้าดูว่าการทำงานของกรมศุลกากรเกินหน้าที่หรือไม่
“ที่ผ่านมามีแต่คำว่า 'เชื่อว่า' 'น่าจะ'มีการสืบข้อมูลทางลับ แต่ไม่เคยเห็นพยานหลักฐานสักชิ้น ว่า มีหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าเป็นเท็จ” ประธานบริษัท เบสท์ริน กล่าวและว่าหลักฐานที่กรมศุลกากรมีคือพยานแวดล้อม พยานบอกเล่า แต่ประจักษ์พยานที่สำคัญคือหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Form D) ที่รับรองโดยกระทรวงมิติของมาเลเซีย
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงเหตุผลที่ยอมจ่ายภาษี 40% เพื่อนำรถออกมาก่อนนั้นทาง นายคณิสสร์ กล่าวชี้แจงว่า รถที่นอกเหนือจาก 100 คันแรก บริษัทยังไม่ได้รับหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดจากทางมาเลเซีย เลยต้องชำระภาษีไปก่อน และสงวนสิทธิ์ไว้ในการยื่น หนังสือรับรองฯเพื่อขอคืนภาษีภายหลัง ในส่วนอีก 99คันที่ค้างอยู่ ได้ทำหนังสือไปยังอธิบดีกรมศุลกากรแล้ว ว่าจะเอา 99คันออกมาโดยชำระเฉพาะภาษี 40% ไปก่อน โดยที่ไม่ได้ระบุว่าจะจ่ายพร้อมค่าปรับสองเท่า
นายคณิสสร์ กล่าวด้วยว่า จากการที่มีข้อสงสัยของกรมศุลกากร ทำให้ ทาง ขสมก. ไม่กล้าตรวจรับรถ ซึ่งก็เข้าใจทาง ขสมก. ว่า อยากรอความชัดเจน ซึ่งตอนนี้บริษัทส่งมอบรถไปแล้ว 390 คัน มีการจดทะเบียนไปแล้วบางส่วน หากคำนวนค่าเสียหายเบื้องต้นทั้งจากภาษี 40% และค่าปรับสองเท่านั้น รวมแล้วประมาณ 928 ล้านบาท
กรณีที่นายกฯบอกว่าจะสั่งยกเลิกสัญญาหากไม่มีความชัดเจน นายคณิสสร์บอกว่าแน่นอน บริษัทสนับสนุนความเห็นนายกฯ จะให้ท่านมาสนับสนุนสิ่งผิดๆ ไม่ได้ ในเมื่อเป็นข้อสงสัยก็ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน เมื่อชัดเจนแล้ว สังคมก็คงได้คำตอบที่กระจ่าง
อ่านประกอบ
ซุปเปอร์ซาร่า ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมศุลฯ ขอวางประกันค่าภาษีรับรถเมล์ NGV ไปก่อน
นายกฯ ชี้รัฐบาลรับของร้อนไม่ได้อยู่แล้ว หลังอสส.เบรกขสมก.ปมรถเมล์เอ็นจีวี
ไม่รอบคอบชาติเสียหายต้องรับผิดชอบ! สตง. จี้ ขสมก. ตัดสินใจปมรับรถเมล์NGV
เปิดสัญญาซื้อรถเมล์NGV 3พันล.! วัดใจ ขสมก. ลงดาบ'เบสท์รินฯ'ผิดข้อตกลง
ที่แท้!'เบสท์ริน-ซุปเปอร์ซาร่า'กลุ่มเดียวกัน-ไขปริศนายอมจ่ายภาษีรถเมล์NGV 370 ล.
เปิดงบการเงิน'เบสท์ริน-ซุปเปอร์ซาร่า' พอไหมจ่ายค่าปรับ-ภาษีรถเมล์NGV 370 ล.
ผอ.แหลมฉบังเผยเบสท์รินคาดนำรถเมล์291คันออกจากท่าเรือวันที่ 5-6 ม.ค.60
เบสท์ริน ประมูลรถเมล์ชนะคู่แข่ง 700 ล้าน วันนี้จ่ายภาษี-ค่าปรับเฉียด2พันล้าน
ผอ.ศุลกากรฯ แหลมฉบัง เร่งเบสท์รินจ่ายภาษีนำเข้าเมล์ NGV
อ่วม!กรมศุลฯ ชี้ซุปเปอร์ซาร่า นำเข้าเมล์เอ็นจีวี ต้องจ่ายภาษีเพิ่ม370 ลบ.
ห้ามนำเข้าผิดปท.ยึดสัญญาเป็นหลัก! สตง.ตั้งทีมเกาะติดปัญหารถเมล์ NGV