- Home
- Isranews
- ข่าว
- เคยทักท้วงแล้วอย่าทำ! กก.สมาคมฮอกกี้ฯ แจงปัญหาเซ็นชื่อรับเบี้ยเลี้ยงแทนนักกีฬามีจริง
เคยทักท้วงแล้วอย่าทำ! กก.สมาคมฮอกกี้ฯ แจงปัญหาเซ็นชื่อรับเบี้ยเลี้ยงแทนนักกีฬามีจริง
เปิดคำชี้แจงกก.บริหารสมาคมฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทย ยันปัญหาเอาคนอื่นมาเซ็นชื่อรับเบี้ยเลี้ยงแทนนักกีฬามีจริง เคยทักท้วงไปแล้วว่าเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่าทำ ข้ออ้างทำเพื่อความสะดวกรวดเร็วฟังไม่ขึ้น ทำให้ถูกสงสัยมองไม่ดีแง่ธรรมาภิบาล แจงหยิบขั้นตอนใช้จ่ายเงิน ถ้านักกีฬาไม่ได้ไป เอาเงินไปใช้อย่างอื่นไม่ได้ ส่วนปมเรียกเก็บเงินค่าซ้อม 500 บ./คน ไม่ทราบ เหตุไม่ได้ถูกเชิญเข้าร่วมประชุมด้วยมากกว่า 2-3ปีแล้ว
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงปัญหาร้องเรียนของนักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง ในสังกัดสมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทย ที่กล่าวอ้างว่าถูกสวมสิทธิ์รับเบี้ยเลี้ยงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย และในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ฤดูหนาว ที่เมืองซัปโปโระ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีนักกีฬาบางส่วนไม่ได้ไปร่วมการแข่งขัน แต่ปรากฏชื่อในใบเบิกงบประมาณของสมาคมฯ จากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายนักกีฬา ค่าเบี้ยเลี้ยงนักกีฬา และได้รับเงินไม่ครบจำนวนตามที่มีการทำเรื่องเบิกจ่าย ซึ่งปัจจุบันอยู่การสอบสวนของ กกท. ตามที่ได้รับมอบหมายจาก นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (อ่านประกอบ :วีระศักดิ์ ยันสั่งสอบปมนักกีฬาฮอกกี้อ้างถูกสวมสิทธิ์รับเบี้ยเลี้ยง - ข้องใจโค้ชแจงเหตุใช้งบ, นักกีฬาฮอกกี้พบผู้ว่าฯกกท.ยันถูกปลอมลายเซ็นเบิกเบี้ยเลี้ยง - ปูดโดนเก็บค่าซ้อม500บ./วัน, เปิดเอกสาร กกท.จัดงบฮอกกี้น้ำแข็งซีเกมส์ ไขปมสวมสิทธิ์เบี้ยเลี้ยง-เก็บค่าซ้อม500บ./วัน?)
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้พยายามติดต่อสมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทย เพื่อขอสัมภาษณ์ผู้บริหารสมาคมฯ ให้ข้อชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว แต่ไม่สามารถติดต่อใครได้ เมื่อติดต่อไปยัง นายพิพัฒน์ เชิดชิด ที่ปรากฏชื่อเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารสมาคมฯ ได้รับแจ้งว่า ไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูลในเรื่องการบริหารงานสมาคมฯ ขอให้สำนักข่าวอิศราติดต่อไปที่สมาคมโดยตรงเลยจะดีกว่า
อย่างไรก็ดี จากการโทรศัพท์ติดต่อไปยังผู้บริหารหลายราย สำนักข่าวอิศรา ได้รับการเปิดเผยข้อมูลจากกรรมการบริหารสมาคมฯ รายหนึ่ง แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ ว่า ที่ผ่านมาเคยมีการนำปัญหาเรื่องการเบิกเงินเบี้ยเลี้ยงของนักกีฬาเข้ามาหารือกันในสมาคมฯ แล้ว โดยเฉพาะเรื่องการเซ็นรับเบี้ยเลี้ยงของนักกีฬา ที่ตัวนักกีฬาไม่ได้เซ็นชื่อเอง แต่มีบุคคลอื่นมาเซ็นชื่อแทนให้ ซึ่งส่วนตัวได้ทักท้วงไปแล้วว่าพฤติกรรมแบบนี้ไม่เหมาะสม อย่าทำ ต้องให้นักกีฬาเป็นคนเซ็นเอง เพราะเป็นสิทธิของนักกีฬา และถ้าไปทำแบบนั้น ก็เท่ากับว่าเป็นการทำเอกสารไม่ถูกต้อง
"เรื่องนี้กรรมการบริหารสมาคม เคยมีการทักท้วงกับทางเลขาสมาคมฯไปแล้ว แล้วก็ได้เตือนไปแล้วด้วยว่า ถ้าหากเกิดกรณีว่านักกีฬาฟ้องร้อง จะทำให้เกิดความเสียหายเกิดขึ้น เพราะมันไม่สามารถอธิบายกับใครได้ว่าเราไม่ได้เอาเงินเข้าไปทำอะไร ทำไปเพื่อความสะดวกรวดเร็ว แต่เรื่องนี้ จะไปดูแค่เรื่องความสะดวกรวดเร็วนั้นมันไม่ได้ มันเป็นหลักฐาน แล้วมันเป็นสิทธิของนักกีฬาด้วย” กรรมการผู้บริหารสมาคมกล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่ตัวแทนสตาฟโค้ชของสมาคมฯ ชี้แจงกับสำนักข่าวอิศราว่า ประเด็นเรื่องการเบิกชื่อเบี้ยเลี้ยงจาก กกท.นั้นจะมีการเสนอชื่อนักกีฬาไปทั้งหมดเลยแล้วจะมีการตัดชื่อออกทีหลัง โดยเหตุผลที่ต้องมีการเสนอชื่อนักกีฬาไปทั้งหมดนั้นก็เป็นเพราะว่า พ.ร.บ.ว่าด้วย กกท. บังคับให้ต้องเสนอชื่อนักกีฬาไปทั้งหมด (อ่านประกอบ:เปิดปม! สวมสิทธิ์หักหัวคิวเบี้ยเลี้ยงส.กีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง-โค้ชแจงไม่จริงแค่ปรับแผนใช้งบ)
กรรมการบริหารสมาคมฯ รายนี้ ระบุว่า “ไม่ คือเขาจะมีจำนวนมาให้ กกท. เขาจะไม่รู้ว่าชื่อ ก ข ค จะเป็นใคร แต่จะให้จำนวนผู้มีสิทธิในการที่จะเบิกว่าจะมีจำนวนเท่าไร ส่วนรายชื่อจะเป็นใคร กกท.เขาจะไม่มีสิทธิเข้ามาแตะเลย ซึ่งหลักการในการทำงานจะเป็นแบบนั้น แต่ตอนนี้ผมไม่ทราบว่าเขาทำงานกันอย่างไร แต่มีการเซ็นแทนกัน เท่าที่ทราบ ซึ่งผมก็เคยทักท้วงหลายครั้งแล้วว่าแบบนี้มันไม่ได้ คนที่เซ็นไปก็ผิดแล้ว ถ้าเกิดเงินนั้นไปถึงตัวนักกีฬาว่าคนที่เขาเซ็นแล้วเขาไม่ได้ เขาจะว่าอย่างไร เขาก็จะมาสงสัยเราได้ ซึ่งมันไม่ดีในแง่ของธรรมาภิบาล ในแง่ของการบริหาร ซึ่งควรจะตรงไปตรงมา เพราะ กกท.ก็จะจ่ายตามหลักฐานการเบิกจ่าย ถ้าหากมีการทำแบบนี้ก็จะมีการสาวยาวกันเลย แต่เขาบอกว่าสมาคมอื่นก็ทำกัน ผมก็บอกกลับไปว่า เฮ้ย ถ้าสมาคมอื่นเขาทำ เราก็ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเพราะมันไม่ถูก”
เมื่อถามถึงระบบการจ่ายเงินให้กับตัวนักกีฬา ที่ทางสตาฟโค้ชระบุว่า มีการจ่ายเป็นแคชเชียร์เช็คไปให้ตัวนักกีฬา โดยเป็นชื่อนักกีฬาเลย ผู้บริหารสมาคมฯรายนี้ กล่าวว่า “ยืนยันว่าไม่มีการจ่ายเป็นแคชเชียร์เช็คให้กับตัวนักกีฬาอย่างแน่นอน ตัวแคชเชียร์เช็คนั้นจะเป็นเงินที่ได้จาก กกท. แล้วก็จ่ายมายังสมาคมฯ แล้วสมาคมฯก็จะมีการจ่ายเงินให้กับนักกีฬา ซึ่งมักจะจ่ายกันด้วยวิธีการให้เงินสดเลย ไม่ก็โอนเข้าบัญชีนักกีฬา”
เมื่อถามถึงขั้นตอนการเบิกเงินจากทาง กกท. ผู้บริหารสมาคมฯกล่าวว่า "จะมีการทำแผนส่งไปยัง กกท. แล้ว กกท.ก็จะแจ้งเข้ามาว่าเงินที่สมาคมฯขอไปนั้นเขาจ่ายให้ได้เท่าไร มีรายการอะไรบ้าง แล้ว กกท.ก็จะให้จำนวนเงินมา ซึ่งพอครบกำหนดการฝึกซ้อม เสร็จสิ้นจากการไปแข่งขันกีฬาแล้ว สมาคมฯก็จะทำเรื่องขอเบิกตามยอดเงินที่ กกท.ได้อนุมัติมาเบื้องต้นแล้ว ซึ่งจะต้องทำให้เสร็จในระยะเวลา 30 วัน ซึ่งกรณีนี้ตามหลักการแล้วถ้าหากสมาคมกีฬาต่างๆ ไม่มีเงิน สมาคมกีฬาก็สามารถมายืมเงินจาก กกท.ได้เช่นกัน แล้วพอแข่งขันเสร็จแล้ว ก็เอาหลักฐานต่างๆไปหักล้างเงินยืมกับทาง กกท.ได้เช่นกัน โดยต้องเป็นไปรายการตามที่ กกท.ได้เคยอนุมัติกับทางสมาคมกีฬาแล้ว"
ผู้บริหารสมาคมฯ ราบนี้ ยังย้ำว่า "จริงๆแล้วทาง กกท.เขาจะมีคู่มือ รายละเอียดวิธีการเกี่ยวกับการเงินอยู่ แล้วเขาจะมีเจ้าหน้าที่ มาประจำสมาคมกีฬาต่างๆเพื่อช่วยดูแลในเรื่องการเบิกจ่ายเรื่องเหล่านี้โดยตลอด"
เมื่อถามถึงประเด็นที่สตาฟโค้ชระบุว่า ถ้ามีการส่งรายชื่อนักกีฬาไป แล้วนักกีฬาคนนั้นไม่ได้ไป จะต้องมีการเอาเงินไปใช้เพื่อทำอย่างอื่น ผู้บริหารสมาคมฯกล่าวว่า “แบบนี้ไม่ได้สิ ถ้านักกีฬาไม่ได้ไป กกท.ก็ไม่ให้จ่ายเอาเงินไปใช้อย่างอื่นไม่ได้ ถ้าเป็นเงิน กกท.ถ้าแต่ถ้าเปลี่ยนตัวนักกีฬาสามารถเปลี่ยนได้ แต่ภายในจำนวนที่ กกท.กำหนด อย่างสมมติว่ามีนักกีฬาคนหนึ่งเจ็บป่วย ก็ต้องแจ้งเปลี่ยนไป เพื่อให้ กกท.อนุมัติตามที่สมาคมขอ”
"เวลาไปแข่งในมหกรรมกีฬา สามารถเช็ครายละเอียดได้หมดเลยจากรายชื่อนักกีฬา ตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พักต่างๆ ทุกอย่างถูกล๊อกหมดเลย ส่วนประเด็นเรื่องการเสนอชื่อนักกีฬาไปให้กับ ทาง กกท. แล้วในภายหลังมีการตัดชื่อออก เพื่อให้ได้นักกีฬาตัวจริงที่จะไปแข่งขันในมหกรรมกีฬานั้น ขอเรียนว่าพอได้คนเก่งจริงไป ก็ต้องขออนุมัติจาก กกท.ใหม่อยู่แล้วตามหลักการการขออนุมัติ โดยขั้นตอนทั่วไปจะมีอยู่ 2 ขั้นตอน คือขั้นตอนที่ 1. กกท.ได้อนุมัติจำนวนนักกีฬา 2.พอได้นักกีฬาตัวจริงที่จะไปแข่งขันแล้ว ก็ต้องมีการขออนุมัติจาก กกท.อีก เพื่อขอให้อนุมัติรายชื่อ ขอย้ำว่าต้องขอใหม่ทุกครั้ง
เมื่อถามถึงประเด็นที่นักกีฬาร้องเรียนว่ามีการเก็บเงินนักกีฬาเป็นค่าฝึกซ้อมจำนวน คนละ 500 บาท ผู้บริหารสมาคมฯกล่าวว่า “ไม่ทราบในกรณีนี้เลยครับ เพราะ 2-3 ปีหลังผมไม่ได้ไปประชุมกับเขาเลยสักครั้งเดียวและก็ไม่มีการเชิญให้ผมเข้าประชุมแม้แต่ครั้งเดียว”
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
เปิดเอกสาร กกท.จัดงบฮอกกี้น้ำแข็งซีเกมส์ ไขปมสวมสิทธิ์เบี้ยเลี้ยง-เก็บค่าซ้อม500บ./วัน?
นักกีฬาฮอกกี้พบผู้ว่าฯกกท.ยันถูกปลอมลายเซ็นเบิกเบี้ยเลี้ยง - ปูดโดนเก็บค่าซ้อม500บ./วัน
วีระศักดิ์ ยันสั่งสอบปมนักกีฬาฮอกกี้อ้างถูกสวมสิทธิ์รับเบี้ยเลี้ยง - ข้องใจโค้ชแจงเหตุใช้งบ
ให้จ่ายเฉพาะคนไปแข่ง! ฝ่ายการคลัง กกท.แจงปมนักกีฬาฮอกกี้อ้างถูกสวมสิทธิ์รับเบี้ยเลี้ยง
ผู้ว่าฯกกท.เผย รมว.ท่องเที่ยวฯ สั่งสอบปมนักกีฬาฮอกกี้อ้างถูกสวมสิทธิ์รับเบี้ยเลี้ยงแล้ว
เปิดปม! สวมสิทธิ์หักหัวคิวเบี้ยเลี้ยงส.กีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง-โค้ชแจงไม่จริงแค่ปรับแผนใช้งบ
โชว์ใบเบิกเบี้ยเลี้ยง ส.กีฬาฮอกกี้ฯ -นักกีฬาอ้างได้เงินไม่ครบยอดเกือบแสนรับจริง7หมื่น?