ศาลฎีกาฯปรับ 4,000-8,000 บ. 5 นักการเมืองท้องถิ่นซุกบัญชีฯ รอลงโทษจำคุก 1 ปี
เปิดคำพิพากษาศาลฎีกาฯ 4 รองนายก อบต. -1 สท .จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ใน จ.ชลบุรี สกลนคร ขอนแก่น เพชรบุรี นครนายก พ้นตำแหน่งทันที 1 ราย ปรับเงิน 4,000-8,000 บาท จำคุกคนละ 1-2 เดือน รอลงโทษ 1 ปีรวด
ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเป็นนักการเมืองท้องถิ่น 5 ราย ในจังหวัดชลบุรี สกลนคร ขอนแก่น เพชรบุรี และนครนายก
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 13-15 ก.พ.2561 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 5 รายมีความผิดคดีจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี พ้นตำแหน่ง ปรับเงินคนละ 4,000-8,000 บาท และถูกจำคุก 1-2 เดือน ให้รอการลงโทษจำคุกคนละ 1 ปี
1.นายโอภาส มงคลพิพัฒน์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พลวงทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายกอบต.ตำบลพลวงทอง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 5 ก.ย.2556 ซึ่งเป็นวันที่ ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษ ให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.25/2561-13 ก.พ.2561)
2. นายวีระชน นามประกาย สมาชิกสภาเทศบาลเมืองสกลนคร จ.สกลนคร จงใจไม่ยื่นบัญชีฯกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองสกลนคร ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใด ในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 9 มี.ค.2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่า ผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.26/2561-13 ก.พ.2561)
3.นายพิเชษฐ์ รัตนแสนวงษ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองโก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ กรณีเข้ารับตำแหน่ง รองนายก อบต.หนองโก ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.หนองโกในวันที่ 13 ก.พ.2561 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาฯ วินิจฉัย และห้ามมิให้ผู้คัดค้าน ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย กับมีความผิด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์ แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุก จึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.27/2561-13 ก.พ.2561)
4.นายสมทรง รัตนเอม รองนายกองค์การบริหาร ส่วนตำบล (อบต.) บ้านแหลม อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.บ้านแหลม ห้ามมิให้ ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 13 มิ.ย.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.29/2561-14 ก.พ.2561)
5. นายภวัต หรือ พระภวัต ฤกษ์ดารา รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านใหญ่ อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.บ้านใหญ่ ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่ง ทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 25 มิ.ย.2555 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.30/2561-15 ก.พ.2561)
อ่านประกอบ:
กรณีศึกษา อ้าง‘หลงลืม’ฟังไม่ขึ้น! ศาลฎีกาฯฟัน นายก อบต. ซุกโฉนดที่ดินเมีย 3 แปลง
ศาลฯฟัน 4 รายไม่ยื่นบัญชีฯ ส.อบจ.อุทัยฯ-รองนายก อบต. จ.ชลบุรี พ้นตำแหน่งทันที
ฉบับเต็ม!คำพิพากษา ผบช.ก.ซุกที่ดิน 53 แปลง คอนโดฯ 6 ห้อง นับโทษจาก 4 คดีเก่า