ศาลฯฟัน 4 รายไม่ยื่นบัญชีฯ ส.อบจ.อุทัยฯ-รองนายก อบต. จ.ชลบุรี พ้นตำแหน่งทันที
อีก 4 รายไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน!ศาลฎีกาฯพิพากษา ส.อบจ.อุทัยธานี-รองนายก อบต. คลองตำหรุ จ.ชลบุรี พ้นตำแหน่งทันที อีก 2 เป็น นายกเทศมนตรี จ.อุดรฯ กับ รองนายก อ.ยะหริ่ง ปรับเงินคนละ 4,000-8,000 บาท จำคุก 1-2 เดือน รอลงโทษรวด 1 ปี
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ก.พ.และ 22 ก.พ.2561 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาให้ผู้ดำรงแหน่งทางการเมือง 4 ราย มีความผิดคดีจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้อง ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด พิพากษาห้ามดำรงตำแหน่งใดใดทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี , ให้พ้นตำแหน่งทันที 2 คน ,ทั้ง 4 คนปรับเงินคนละ 4,000-8,000 บาท , จำคุกคนละ 1-2 เดือน โทษจำคุกให้รอการลงโทษคนละ 1 ปี ดังนี้
1.นางณฐฌา ไม้สนธิ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เขากวางทอง อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.เขากวางทอง และกรณีเข้ารับตำแหน่งในการดำรงตำแหน่ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) อุทัยธานี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ให้ผู้คัดค้านพ้นจาก ตำแหน่ง ส.อบจ.อุทัยธานี ที่ดำรงอยู่ในปัจจุบัน นับแต่วันที่ 15 ก.พ.2561 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย และห้ามมิให้ ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคหนึ่ง กับมีความผิด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.เขากวางทอง จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่า ผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.31/2561-15 ก.พ.2561 )
2. นายสมชาย แวดีซา รองนายกเทศมนตรีเทศบาล ต.ยะหริ่ง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี ต.ยะหริ่ง ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 19 ก.ค.2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี จำคุก 2เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.32/2561-15 ก.พ.2561)
3.นายวิจิตร ทองอยู่ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) คลองตำหรุ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว เป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.คลองตำหรุ ครั้งที่ 1 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใด ในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 30 ก.ย.2554 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง และให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.คลองตำหรุในการดำรงตำแหน่งครั้งที่ 2 ที่ดำรงอยู่ นับแต่วันที่ 15 ก.พ.2561 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่ง ทางการเมืองวินิจฉัย ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก (คดีหมายเลขแดงที่ อม.33/2561-15 ก.พ.2561)
4. นายเฟย วิเศษโพธิ์ศรี นายกเทศมนตรี ต.หัวนาคำ อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรี ต.หัวนาคำ ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่ง ทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 29 พ.ย.2555 กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.34/2561-22 ก.พ.2561)
อ่านประกอบ:
ศาลฎีกาฯฟันรองนายก อบต.-เทศบาลใน 5 จังหวัด ไม่ยื่นบัญชีฯ รอลงโทษจำคุก 1 ปี