ซุกหนี้ 1.5 พันล.! ศาลฎีกาฯจำคุก ‘พีระพล’นายกขอนแก่น ยื่นเท็จ ป.ป.ช.รอลงโทษ 1 ปี
ศาลฎีกาฯฟัน ‘พีระพล’นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น นักธุรกิจใหญ่ ยื่นบัญชีเท็จกรณีซุกหนี้สิน 1.5 พันล. จำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ลดกึ่งหนึ่งเหลือ 1 เดือน 4,000 บาท รอลงโทษ 1 ปี ข้ออ้างเข้าใจผิด เป็นของ บ.แฟรี่พลาซ่า ฟังไม่ขึ้น 3 นักการเมือง จ. พัทลุง สมุทรสาคร อุบลฯ โดนด้วยจงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ก.ค.2560 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้มีพิพากษา จำคุก 2 เดือนและปรับ 8,000 บาท นายพีระพล พัฒนพีระเดช นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ธุรกิจรายใหญ่ เจ้าของห้างสรรพสินค้า จ.ขอนแก่น คดีความผิด จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) กรณีไม่ได้แสดงรายการหนี้สินจากบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด จำนวน 1,550,823,793.92 บาท นายพีระพล รับสารภาพ ศาลฎีกาฯ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือนและปรับ 4,000 บาท โทษจำคุก ให้รอการลงโทษไว้ 1 ปี (คดีหมายแดงที่ อม.137/2560 -17 ก.ค.2560 ) เผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 20 ก.ย.2560 สาระสำคัญของคดี
นายพีระพล (ผู้คัดค้าน) ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครขอนแก่นจังหวัดขอนแก่นครั้งที่ 1เมื่อวันที่ 7 เม.ย.2545 พ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 7มี.ค.2551 ต่อมาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครขอนแก่นครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 19 เม.ย.2551 โดยแถลงนโยบายต่อสภาเทศบาลนครขอนแก่นเมื่อวันที่ 26 พ.ค.2551 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 19 เม.ย.2555 นายพีระพล ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีเข้ารับตำแหน่งกรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีในการดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครขอนแก่นทั้งสองครั้ง แต่กรณีพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครขอนแก่นครั้งที่ 2 นายพีระพล ไม่ได้แสดงรายการบัญชีเงินฝากธนาคารทหารไทยจำกัด (มหาชน) สาขาแฟรี่พลาซ่าขอนแก่นจำนวน 8,121.15 บาท และรายการหนี้สินจากบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทยจำนวน 287,650,107.61 บาท และกรณีพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครขอนแก่นครั้งที่ 2 มาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ไม่ได้แสดงรายการบัญชีเงินฝากธนาคารทหารไทยจำกัด (มหาชน) สาขาแฟรี่พลาซ่าขอนแก่น จำนวน 20,736.11 บาท และ รายการหนี้สินจากบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิทจำกัด จำนวน 1,550,823,793.92 บาท
คณะกรรรมการ ป.ป.ช. (ผู้ร้อง) มีหนังสือแจ้งเตือนแล้ว นายพีระพล ชี้แจงว่า กรณีรายการบัญชีเงินฝากธนาคารทหารไทยจำกัด (มหาชน) สาขาแฟรี่พลาซ่าขอนแก่น นางโฉมณี เจริญธัญรักษ์ พี่สาวแนะนำให้ซื้อกองทุนเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีโดยให้ผู้คัดค้านเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารพร้อมกับลงชื่อในใบเบิกถอนเงินของธนาคารไว้และพี่สาวดำเนินการให้ผู้คัดค้านจนถึงปัจจุบันทำให้ผู้คัดค้านหลงลืมว่ามีบัญชีเงินฝากธนาคารดังกล่าว ส่วนกรณีรายการหนี้สินจากบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทยและหนี้สินจาก บริษัท บริหารสินทรัพย์ สุขุมวิท จำกัด ซึ่งรับโอนมาจากบรรษัท บริหารสินทรัพย์ไทย นั้นผู้คัดค้านเข้าใจว่าเป็นหนี้สินของบริษัท แฟรี่ พลาซ่า จำกัด มิใช่หนี้สินส่วนตัวของผู้คัดค้านจึงไม่ได้แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินในส่วนนี้ต่อผู้ร้อง
ศาลฎีกาฯพิพากษาว่านายพีระพลพัฒนพีระเดชผู้คัดค้านจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีในการดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครขอนแก่นจังหวัดขอนแก่น ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 19 เม.ย.2555 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครขอนแก่นครั้งที่ 2 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสองกับมีความผิดข้างต้น
บริษัท แฟรี่พลาซ่า จำกัด ธุรกิจครอบครัวของนายพีระพล จดทะเบียนวันที่ 24 ต.ค. 2529 ทุนปัจจุบัน 4 ล้านบาท ประกอบธุรกิจห้างสรรพสินค้า ที่ตั้งเลขที่ 69/9 ถนนกลางเมือง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ณวันที่ 30 เม.ย.2560 นายพีระพล พัฒนพีระเดช ถือหุ้น 35% และเป็นกรรมการ แจ้งการเงินรอบปี 2558 รายได้ 294,581,351 บาท ขาดทุนสุทธิ 3,584,178 บาท สินทรัพย์ 319,729,606 บาท หนี้สิน 323,552,272 บาท ขาดทุนสะสม 7,822,666 บาท ยังไม่ปรากฎแจ้งงบการเงินรอบปี 2559
นายพีระพลยังมีชื่อเป็นกรรมการอีกหลายแห่ง
สำนักข่าวอิศรารายงาน นอกจากคดีนี้ ศาลฎีกาฯมีคำพิพากษาจำคุกนักการเมืองท้องถิ่นกรณีจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดต่อ ป.ป.ช.อีก 3 ราย
1.นายสมใจ ด้วงทอง เลขานุการ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง (อบจ.พัทลุง) จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 19 เม.ย.2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งกับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือนและปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้กึ่งคงจำคุก1เดือนและปรับ 4,000บาท โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.135/2560-17 ก.ค.2560 )
2.นายบรรลือศักดิ์ ไม้เขียว รองนายกเทศมนตรี ตำบลสวนหลวง อ.กระทุ่มแบนจ.สมุทรสาคร จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดกรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีในการดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลสวนหลวงอำเภอกระทุ่มแบนห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 22 มิ.ย.2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งกับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปจำคุกกระทงละ2 เดือนและปรับกระทงละ8,000บาท รวม 2 กระทงเป็นจำคุก 4 เดือน และ ปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก2เดือนและปรับ8,000บาทไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับโทษจำคุกมาก่อนโทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี(คดีหมายเลขแดงที่ อม.139/2560-17 ก.ค.2560 )
3.นายสาคร จันทร์ทรง รองนายกเทศมนตรี ต.โพนงาม อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯกรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีในการดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีต.โพนงามห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 7 มี.ค.2557 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งและมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปจำคุกกระทงละ 2 เดือนและปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทงเป็นจำคุก 4 เดือนและปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 2 เดือนและปรับ 8,000บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับโทษจำคุกมาก่อนโทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.102/2560-2 ก.ค.2560 )
อ่านประกอบ:
นักธุรกิจใหญ่ซุกบัญชีฯ! ที่แท้ที่ปรึกษา‘ขุนค้อน-สมศักดิ์ - เจ้าของ 8 บริษัทพันล.
นักธุรกิจใหญ่ที่ปรึกษาปธ.รัฐสภา-คนประกันตัว‘ขวัญชัย’11 ล.ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลซุกบัญชีฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาฯ 9 นักการเมือง 8 จังหวัด ซุกบัญชีฯ ยังไม่ถึงสิ้นปีพุ่ง 113 ราย
13 นักการเมืองท้องถิ่นล่าสุด! รับอานิสงส์ ป.ป.ช.สั่งเลิกยื่นบัญชีฯ-ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง