พบนายทหาร พ.อ.ทำเอกสารบัญชีประมูลขายรถยนต์ ขส.ทบ.เท็จ 1,136 คัน
กรมการขนส่งทางบกร่วมดีเอสไอแจ้งจับขบวนการทำเอกสารบัญชีรถประมูลขายทอดตลาด ขส.ทบ.เท็จ 1,136 คัน โยงชื่อ นายทหารยศพันเอก สวมทะเบียน 605 คัน ให้หน่วยงานแจ้งความดำเนินคดี แล้ว
สำนักข่าวอิศรา www.isranewsorg รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2560 เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบกได้เผยแพร่ข่าว นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก, พล.ต.สมศักดิ์ ทรัพย์อนันต์ เจ้ากรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.), นายณันทพงศ์ เชิดชู รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ร่วมแถลงข่าวการกวาดล้างขบวนการมิจฉาชีพที่แอบอ้างยื่นเอกสารเท็จรถประมูลขายทอดตลาดของ ขส.ทบ. โดยพัวพันนายทหารยศพันเอกทำเอกสารเท็จ
เนื้อหาข่าวระบุคำแถลงของนายสนิท พรหมวงษ์ ว่าสืบเนื่องจาก ขส.ทบ. ตรวจสอบพบพิรุธเรื่องการยื่นเอกสารการประมูลรถขายทอดตลาดของ ขส.ทบ. จึงได้ประสานกรมการขนส่งทางบกขอตรวจสอบรายละเอียด การยื่นเอกสารบัญชีรถประมูลขายทอดตลาดของ ขส.ทบ. ทุกฉบับอย่างละเอียด ซึ่งล่าสุดพบว่ามีขบวนการยื่นเอกสารส่งบัญชีรถแจ้งการประมูลขายทอดตลาดลงนามโดยพันเอก ภพกฤต พันธ์ยศ รวมทั้งสิ้น 9 ฉบับ เป็นรถจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,136 คัน ซึ่ง ขส.ทบ. ตรวจสอบรายละเอียดและยืนยันว่าเป็นการยื่นเอกสารเท็จ เนื่องจากห้วงระยะเวลาดังกล่าว ขส.ทบ. ไม่มีการประมูลรถขายทอดตลาดแต่อย่างใด แต่เป็นการจัดทำเอกสารปลอมขึ้น โดยกลุ่มบุคคลที่จัดเตรียมเป็นขั้นตอน
ทั้งนี้ เนื่องจากระบบราชการเมื่อมีการรับเอกสารส่งบัญชีรถแจ้งการประมูลขายทอดตลาดหน่วยงานราชการ กรมการขนส่งทางบกจะส่งหนังสือราชการถามกลับไปยังหน่วยงานต้นสังกัดเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของรายละเอียดรถขายทอดตลาดดังกล่าวทุกครั้ง และเมื่อได้รับหนังสือตอบกลับตามระบบราชการ จึงจะเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินการทางทะเบียนต่อไป ซึ่งจากการดำเนินการตามระเบียบราชการของรถประมูลขายทอดตลาดของ ขส.ทบ. ดังกล่าว พบว่าผู้ปลอมแปลงเอกสารราชการมีขบวนการบริหารจัดการเพื่อแจ้งหนังสือกลับตามระเบียบราชการทุกขั้นตอน จนนำไปสู่การดำเนินการทางทะเบียนต่อไปได้ จากขบวนการดังกล่าวส่งผลให้มีรถที่จดทะเบียนจากการยื่นเอกสารบัญชีเท็จไปจำนวน 605 คัน โดยกระจายการจดทะเบียนไปจังหวัดต่างๆ โดยจดทะเบียนเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รย.1) จำนวน 289 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รย.2) จำนวน 22 คัน รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รย.3) จำนวน 265 คัน รถบรรทุกส่วนบุคคลขนาดใหญ่ จำนวน 19 คัน รถโดยสารประจำทาง จำนวน 2 คัน รถโดยสารไม่ประจำทาง จำนวน 7 คัน รถโดยสารส่วนบุคคล จำนวน 1 คัน และในจำนวนนี้มีรถบางส่วนได้ย้ายทะเบียนรถไปจังหวัดต่างๆ อีก 18 จังหวัด
นายสนิท กล่าวว่า ทันทีที่พบว่าเป็นการยื่นเอกสารเท็จรถประมูลขายทอดตลาดดังกล่าว ขส.ทบ. ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ลงนามในเอกสารเท็จและผู้เกี่ยวข้องแล้ว ณ สน.เตาปูน ในส่วนของกรมการขนส่งทางบก ได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ยื่นเอกสารเท็จ ณ สน.บางซื่อ และสั่งอายัดการดำเนินการทางทะเบียนรถในกลุ่มดังกล่าวทั้งหมดทันที จากนั้นได้ทำหนังสือขอตรวจสอบข้อมูลของรถกับกองทัพบกและกรมศุลกากร เมื่อได้ข้อมูลแน่ชัดว่าเป็นรถที่ได้มาโดยไม่ชอบ จึงได้ออกคำสั่งนายทะเบียนเพิกถอนการจดทะเบียนรถในกลุ่มดังกล่าวทั้ง 605 คัน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อไป นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกยังได้แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาการดำเนินการทางทะเบียนและภาษีรถของ ขส.ทบ. เพื่อตรวจสอบรายละเอียดการยื่นจดทะเบียนรถทุกขั้นตอน รวมทั้งเส้นทางการเคลื่อนไหวถ่ายโอนพร้อมทั้งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงหากพบ เจ้าหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบกมีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการลงโทษขั้นเด็ดขาดทันที
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนแก่ประชาชนเจ้าของรถ ที่ซื้อรถโดยสุจริต กรมการขนส่งทางบกได้ให้สำนักงานขนส่งจังหวัดที่เกี่ยวข้องจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำในด้านต่างๆ รวมถึงการฟ้องร้องทางคดีกับผู้นำรถมาจำหน่ายโดยมิชอบ ซึ่งเจ้าของรถที่ได้รับผลกระทบสามารถติดต่อขอรับคำแนะนำกับ สำนักงานขนส่งจังหวัดที่รถนั้นอยู่ในความรับผิดชอบหรือติดต่อขอข้อมูลจาก ขส.ทบ. ถ.ติวานนท์ จ.นนทบุรี พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชน ร่วมพิทักษ์สิทธิด้วยการซื้อรถที่ถูกที่ต้องตามกฎหมายโดยเฉพาะอย่าหลงเชื่อซื้อรถที่มีราคาถูกเกินจริง รวมทั้งการซื้อขายรถที่มีเอกสารการได้มาของตัวรถไม่ชัดเจนการซื้อขายรถโอนลอย โดยไม่ดำเนินการทางทะเบียนหรือนำรถเข้าตรวจสภาพด้วยตนเอง เพราะอาจได้รับเอกสารปลอมและรถที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยอาจเป็นรถที่ไปก่ออาชญากรรมหรือไปพัวพันคดียาเสพติด รวมทั้งเกี่ยวข้องกับคดีผิดกฎหมายทุกประเภท การซื้อขายรถทุกครั้งสามารถนำเอกสารสัญญาการซื้อขายขอตรวจสอบด้านทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกและสำนักงานขนส่งจังหวัดที่รถนั้นอยู่ในความรับผิดชอบก่อนการตัดสินใจซื้อขายทุกครั้ง เพื่อความมั่นใจว่าได้รถที่ถูกต้องตามกฎหมาย (อ่านรายละเอียด ที่นี่)
อ่านประกอบ:
แลกเปลี่ยนซากรถยนต์บิ๊กลอต 366 คัน ขส.ทบ. ไม่ลงประกาศในเว็บไซต์
คดีใหม่!ลักลอบขายซากรถยนต์ 49 คัน ทบ. ‘พล.อ.ธีรชัย’สั่งสอบหลัง สตง.พบ‘หลายครั้ง’
5 ปมเงื่อนกรณีซากรถ 128 คันก่อน‘พล.อ.ปรีชา’ อนุมัติ เทียบดีลแลก‘แบล็คฮอว์ค-ชีนุก’
พล.อ.ปรีชา‘อนุมัติ’แลกเปลี่ยนซากรถยนต์ 128 คัน ปมเงื่อน‘ผู้ชนะ’โอนให้‘จิรภัทร’
โชว์‘สัญญาแลกเปลี่ยน’ซากรถยนต์ 128 คัน ทบ.‘จิรภัทร’ โผล่รับโอนจาก'ลูกน้อง'
ประมูลชีนุกรอบ 3 ส่อล้ม 'จิรภัทร'ส่ง บ.ใหม่แข่ง- รับ ใช้ชื่อ'ลูกน้อง'ซื้อซากรถ 128 คัน
พบ‘บอลบิน’คู่ค้าแลกรถยนต์ชำรุด 128 คัน ทบ. ที่แท้‘รับโอน’จาก‘ผู้ชนะ’ประมูล
'อิศรา'ถามบิ๊กบ.ไทยแอโรสเปซฯ ตอบ เบื้องหลังดีลแลกแบล็คฮอว์ค-ปมชีนุก420 ล