จับพิรุธ อผศ.ขอสิทธิพิเศษขุดคลอง! อ้างเครื่องจักรพร้อม ไฉนทำบันทึกเช่าผู้รับเหมา?

เขียนวันที่

วันพฤหัสบดี ที่ 03 มีนาคม 2559 เวลา 20:00 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

จัดซื้อจัดจ้าง | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา | ข่าวเด่นสืบสวน

Tags

เปิดละเอียดมติคณะกรรมการสิทธิพิเศษ ไฟเขียว อผศ.รับงานขุดลอกคลองหน่วยงานรัฐ !พบพิรุธอ้างเครื่องมือเครื่องจักร แรงงานครบ ไฉนขอเช่าต่อผู้รับเหมาให้ทำงานแทน

piccoopppwwww02

ในหนังสือกระทรวงคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค 0421.3/7624 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2557 ที่ยื่นต่อที่ประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อเสนอเรื่อง องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผส.) ขอสิทธิพิเศษในการเข้าไปรับงานขุดลอกคูคลอง ของหน่วยงานราชการให้รับทราบ

(อ่านประกอบ : เผยมติ คสช.ไฟเขียวราชการจ้าง อผศ. ขุดคลอง หลังรปห.2ด. ก่อนถูกร้องปมหัวคิว, โชว์ชัดๆ หนังสือก.คลัง ชงให้สิทธิพิเศษ อผศ.รับขุดคลองราชการ หลังรปห.2 เดือน)

มีการระบุข้อมูลผลสรุปมติคณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษของหน่วยงานและรัฐวิสาหกิจ ในการประชุมครั้งที่ 1/2557 เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2556 ที่พิจารณาเห็นชอบให้สิทธิพิเศษแก่ อผศ. ไว้หลายประเด็น ทั้งความจำเป็นที่ อผศ.ต้องได้รับงานนี้ รวมถึงศักยภาพในการทำงาน

แต่ดูเหมือนเหตุผลที่ อผศ. แจ้งเพื่อขอรับสิทธิพิเศษ จะขัดแย้งกับข้อเท็จจริงการดำเนินงานในพื้นที่จริง

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบผลสรุปการประชุมคณะกรรมการสิทธิพิเศษฯ ที่เห็นชอบให้สิทธิพิเศษการขุดลอกคลอง ของ อผศ. ในหนังสือกระทรวงการคลังดังกล่าว

พบว่ามีการระบุข้อมูลสำคัญไว้ว่า คณะกรรมการสิทธิพิเศษฯ ได้พิจารณาวัตถุประสงค์ที่ อผศ. ขอรับสิทธิพิเศษเรื่องนี้ แล้วเห็นว่า เป็นไปเพื่อหารายได้มาสมทบงบประมาณในการสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ครอบครัวทหารผ่านศึก และทหารนอกประจำการ เนื่องจากงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงกลาโหมในแต่ละปีมีจำนวนจำกัด และไม่เพียงพอต่อการให้การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก และครอบครัวที่อยู่ในความดูแลของ อผศ. ประมาณ 2 ล้านคนเศษ และอาจจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคตเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้

" จึงเห็นว่ามีความสอดคล้องกับเจตนารมณ์ในการจัดตั้ง อผศ. ที่มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสงเคราะห์ทหารผ่านศึกษา ครอบครัวทหารผ่านศึก และทหารนอกประจำการ ให้มีงานทำและมีรายได้ สามารถยึดเป็นอาชีพได้อย่างถาวร เป็นการบำรุงขวัญแก่ทหารซึ่งปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติ และยังเป็นการช่วยลดภาระงบประมาณรายจ่ายของรัฐการให้การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกอีกด้วย

อีกทั้งอผศ.ได้จัดตั้ง สำนักงานกิจการการเกษตรการอุตสาหกรรมและการบริการ (สกบ.) ซึ่งมีหน้าที่ดำเนินงานในด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม อุตสาหกรรมจากผลผลิตทางการเกษตร การบริการ การประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้างอาคารและงานก่อสร้างอย่างอื่นทุกชนิด งานซ่อมและสร้างถนน

รวมทั้งรับทำงานโยธาทุกประเภท ซึ่งในการรับจ้างพัฒนาหรือก่อสร้างปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ งานขุดลอกคูคลอง ลำรางสาธารณะ งานสร้างฝายกั้นน้ำ และงานลอกท่อระบายน้ำ ตามที่ อผศ. ขอรับสิทธิพิเศษนั้น อผศ. มีขีดความสามารถที่จะดำเนินการได้เอง เนื่องจากมีหน่วยงานหลักที่มีความรู้ความสามารถ เช่น กองนิคมเกษตรกรรม มีวัสดุอุปกรณ์เครื่องมือทุ่นแรง และเครื่องจักร กองก่อสร้าง มีบุคลากร และวิศวกรที่สามารถออกแบบและประเมินราคางานควบคุมการก่อสร้าง งานโยธาทุกประเภท ตลอดจน อผศ. มีแรงงานทหารผ่านศึกอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ

นอกจากนี้ สิทธิพิเศษ ประเภทไม่ได้บังคับเป็นเพียงช่องทางให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐเลือกที่จะจ้าง อผส. หรือไม่ก็ได้ มิได้เป็นการบังคับให้ส่วนราชการรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐต้องจ้าง อผศ. แต่อย่างใด

ดังนั้น จึงเห็นว่า เป็นกรณีที่มีความจำเป็น เพื่อประโยชน์ในการรักษาผลประโยชน์ส่วนรวม ซึ่งมิได้ขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษฯ จึงอาศัยอำนาจตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 ก.ย.2554 อนุมัติให้ อผศ.ได้รับสิทธิพิเศษประเภท ไม่บังคับโดยให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐที่มีความประสงค์จะจ้าง อผส. พัฒนาหรือก่อสร้างปรับปรุงพื้นฟูแหล่งน้ำ งานขุดลอกคูคลอง ลำรางสาธารณะ งานสร้างฝ่ายกั้นน้ำ และงานลอกท่อระบายน้ำให้ดำเนินการได้โดยวิธีกรณีพิเศษ

โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขดังนี้

1. งานที่จ้างต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของวิชาชีพที่กฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ ในเรื่องนั้นๆ ได้กำหนดไว้

2.อผศ.ต้องเป็นผู้ดำเนินการเอง โดยมิได้เป็นการประกอบการงานหรือร่วมการงานหรือสมทบกับบุคคลอื่นไม่ว่าจะเป็นการค้าหรือการอื่น

3. ในการทำสัญาจ้างต้องกำหนดค่าปรับตามระเบียบสำนักนากยรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือระเบียบว่าด้วยการพัสดุของหน่วยงาน

ขณะนี้ กระทรวงการคลัง โดยคณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษฯ ระงับสิทธิพิเศษดังกล่าวได้ ในกรณีที่ตรวจพบว่า อผศ.นำงานจ้างไปให้เอกชนรับช่วงดำเนินการต่อ (ดูเอกสารประกอบ)

piccoopppwwww

piccoopppwwww01

อย่างไรก็ตาม ในขั้นตอนการดำเนินงานขุดลอกคูคลอง ของอผศ. ที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบ คือ ภายหลังจากที่ อผศ.ได้รับว่าจ้างงานจากหน่วยงานรัฐต่างๆ แล้ว ก็จะมีผู้รับเหมาบางกลุ่ม เข้ามารับงาน และนำไปกระจายต่อให้กับผู้รับเหมาในเครือข่ายของตนเอง แบ่งจ้างช่วงงานออกมาเป็นทอดๆ

โดยในขั้นตอนการดำเนินงาน อผศ. ในบางพื้นที่ จะมีการทำบันทึกข้อตกลงเช่าเครื่องมือเครื่องจักร และจัดซื้ออุปกรณ์วัสดุต่อจากผู้รับเหมา

ปรากฎข้อเท็จจริงยืนยันจากบันทึกข้อตกลง เรื่องการเช่ายานพานหะ เครื่องมือ เครื่องจักร ที่ อผศ. จัดทำขึ้นกับผู้รับเหมารายหนึ่ง ในจ.สงขลา เพื่อนำไปใช้ขุดลอกคลองหมอน 7,8 ให้กับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา จำนวน 4 รายการ รวมวงเงิน 691,800 บาท ซึ่งปรากฎชื่อ นายวันชัย โชติวินิจกุล ผู้ชำนาญการ รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานกิจการเกษตรการอุตสาหกรรมและการบริหาร อผศ. เป็นผู้ลงนามแทนอผศ.

มีข้อตกลงหลายข้อ ที่ส่อให้เห็นว่า อผศ.ไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการขุดลอกคลองเอง ปรากฎรายละเอียดดังต่อไปนี้

ข้อ 11 หน้าที่ของฝ่ายที่หนึ่ง (อผศ.)

กำหนดไว้ 3 ข้อย่อยคือ

11.1 การจัดเตรียมพื้นที่ดำเนินการพัฒนาแหล่งน้ำฯ

11.2 จัดหาวัสดุก่อสร้างเพื่อใช้ในการดำเนินการพัฒนาแหล่งน้ำ ตามบัญชีปริมาณราคาที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา กำหนด

11.3 ควบคุมกำกับดูแลการทำงานของฝ่ายที่สองให้เป็นไปตามรูปแบบและรายละเอียดที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา กำหนด

ข้อ 12 หน้าที่ของฝ่ายที่สอง (ผู้รับเหมา)

กำหนดไว้ 6 ข้อย่อย คือ

12.1 จัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงน้ำมันหล่อลื่นเพื่อใช้ในการปฏิบัติงาน

12.2 จัดหาพลประจำ พลขับ ผู้ควบคุมเครื่องมือ เครื่องจักร และทำการขุดลอกแหล่งน้ำตามแบบรูป ผนวก ข. โดยจะต้องควบคุมการทำงานให้เป็นไปตามคำสั่งของฝ่ายที่หนึ่งอย่างเคร่งครัดกำหนดการทำงานวันละไม่น้อนกว่า 8 ชั่วโมง

12.3 ดำเนินการปรนนิบัติและการซ่อมบำรุงเครื่องมือ เครื่องจักร

12.4 จัดหาผู้ควบคุมงาน (โฟร์แมน) วุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าปวส. โยธา หรือก่อสร้าง เพื่อสำรวจเพื่อควบคุมงาน ไม่น้อยกว่า 1 คน

12.5 จัดหาผู้จัดการสนาม วุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมโยธาเพื่อประสานการดำนินงานพัฒนาแหล่งน้ำ ให้เป็นไปตามแบบรูปและรายละเอียดที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา กำหนด รวมทั้งการพิจารณาแก้ไขแบบรูปดังกล่าวเป็นจำนวนตามฝ่ายที่หนึ่งกำหนด

12.6 จัดหาวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ต่างๆ นอกเหนือจากรายการตามข้อ 11.2 เพื่อให้การดำเนินการพัฒนาแหล่งน้ำ แล้วเสร็จเรียบร้อยครบถ้วนตามแบบรูปและรายละเอียดที่ศูนย์ป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา กำหนด (ดูบันทึกข้อตกลงประกอบ)

pictoooo3

จากข้อกำหนดในบัญชีข้อตกลงฉบับนี้ ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า แท้จริงแล้วผู้รับเหมาเป็นฝ่ายดำเนินการขุดลอกคลอง ขณะที่ อผศ. มีหน้าที่เพียงแค่ฝ่ายจัดเตรียมพื้นที่ดำเนินการและควบคุมการทำงานของผู้รับเหมาเท่านั้น

นอกจากนี้ สำนักข่าวอิศรา ยังตรวจสอบพบข้อสังเกตเกี่ยวกับเงื่อนไขการชำระเงิน ในวรรคท้าย ข้อ 5 ที่ระบุไว้ว่า "ถ้าฝ่ายที่หนึ่ง (อผศ.) ยังไม่ได้รับเงินจากศูนย์ป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา ฝ่ายที่สองไม่มีสิทธิเรียกร้องเงินค่าจ้างและ/หรือเงินอื่นๆ จากฝ่ายที่หนึ่งทุกกรณี

ชี้ให้เห็นถึงกระบวนการทำงานนี้ ว่า อผศ.ไม่ได้ลงทุนอะไรกับการขุดลอกคลองโครงการนี้มากนัก เพราะเมื่อได้รับงานมาจาก ศูนย์ป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา ก็นำมาจ้างช่วงผู้รับเหมาดำเนินการแทน โดยจัดทำเป็นบันทึกข้อตกลง เรื่องการเช่ายานพานหะ เครื่องมือ เครื่องจักร แทนการทำสัญญาว่าจ้างโดยตรง (ไม่ได้ใช้คนของอผศ.เป็นผู้ดำเนินการใช้เครื่องมือเครื่องจักรขุดลอกเอง)

และจะจ่ายเงินให้ผู้รับเหมา ภายหลังได้รับเงินจาก ศูนย์ป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา ก่อนเท่านั้น

ดังนั้น เหตุผลของ อผศ. ที่แจ้งเสนอต่อคณะกรรมการสิทธิพิเศษฯ ว่า มีขีดความสามารถที่จะดำเนินการได้เอง เนื่องจากมีหน่วยงานหลักที่มีความรู้ความสามารถ เช่น กองนิคมเกษตรกรรม มีวัสดุอุปกรณ์เครื่องมือทุ่นแรง และเครื่องจักร กองก่อสร้าง มีบุคลากร และวิศวกรที่สามารถออกแบบและประเมินราคางานควบคุมการก่อสร้าง งานโยธาทุกประเภท ตลอดจน อผศ. มีแรงงานทหารผ่านศึกอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ

จึงขัดแย้งกับสวนทางกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และผิดเงื่อนไขในขั้นตอนการปฏิบัติงานตามที่กระทรวงการคลังกำหนดไว้อย่างชัดเจน

และต้องถูกสั่งระงับสิทธิพิเศษการรับงานส่วนนี้ในทันที!

ขณะที่ในการพิจารณาเรื่องการให้สิทธิพิเศษขุดคลอง ของ คสช. ช่วงเดือนก.ค.2557 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้เสนอความเห็นประกอบ โดยให้คณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษฯ กำกับดูแลและตรวจสอบการให้การใช้สิทธิพิเศษดังกล่าว เป็นตามระเบียบและมติคณะกรรมการฯ อย่างเคร่งครัด

pppeeedsdsdsdsdssd

คำถาม คือ ที่ผ่านมาคณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษฯ โดยกระทรวงการคลัง ได้มีการเข้าไปตรวจสอบการใช้สิทธิพิเศษของ อผศ. บ้างหรือไม่ เพราะถ้าไม่ได้ทำอะไรเลย และมิหน่ำซ้ำเมื่อปรากฎข้อมูลชัดเจนว่ามีปัญหาเรื่องการจ้างช่วงขุดคลอง ก็ยังไม่สั่งระงับการให้สิทธิพิเศษตามที่กำหนดไว้

จะถือเป็นการเข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่?