4 ปี เพิ่งได้บริษัทผู้รับเหมา ผอ.เขตปทุมวัน คาดเข้ารื้อถอนอาคารดิเอธัส ได้หลังเซ็นสัญญา
ผ่านไป 4 ปี ยังไม่ถึงไหน ผอ.เขตปทุมวัน คาดเข้ารื้อถอนอาคารดิเอธัส ซ.ร่วมฤดีได้หลังเซ็นสัญญากับบริษัทเหมา ชี้เข้าพื้นที่เมื่อไหร่ จะเลิกค่าปรับเป็นรายวัน เจ้าของอาคารต้องไปหาทรัพย์มาจ่ายแทน เผยยอดค้างกว่า 15 ล้าน
จากที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ออกมาเปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ถึงความคืบหน้าการรื้อถอนอาคารดิเอธัส ซอยร่วมฤดี ตามคำสั่งศาลปกครองว่า ในขณะนี้ได้บริษัทผู้รับจ้างรื้อถอนแล้ว อยู่ระหว่างการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ การไฟฟ้า การประปา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท้องที่ เพื่อให้การรื้อถอนอาคารเป็นไปด้วยเรียบร้อย คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือน เม.ย. 62 และจะแล้วเสร็จภายใน 1 ปี
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสำนักงานเขตปทุมวันได้มีหนังสือแจ้งห้ามใช้อาคารไปยังเจ้าของอาคาร และติดป้ายไวนิลแจ้งไว้ด้านหน้าอาคารทั้ง 2 อาคารเรียบร้อยแล้ว แต่ยังมีการเข้าใช้อาคารอยู่ ถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งศาล เจ้าของอาคารจะต้องเสียค่าปรับในการเข้าใช้อาคารทั้ง 2 อาคาร รวมวันละ 30,000 บาท ตั้งแต่ 15 พ.ย. 61 เป็นต้นมา ในอัตรา ปัจจุบันมียอดค้างชำระค่าปรับรวมแล้วประมาณ 15 ล้านบาท ซึ่งกรุงเทพมหานครจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปนั้น
นายพินิต อารยะศิลปธร ผอ.เขตปทุมวัน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า การได้บริษัทผู้รับจ้างรื้อถอนแล้วนั้น ขั้นตอนต่อไปปลัดกรุงเทพมหานครจะต้องเห็นชอบตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง จากนั้นจะมีการประกาศชื่อบริษัทที่ได้รับการคัดเลือก และหากไม่มีอุทธรณ์ ไม่มีร้องอะไรก็สู่ขั้นตอนการเซ็นสัญญาต่อไป
"การรื้อถอนอาคารดิเอทัส ซอยร่วมฤดี จะเริ่มดำเนินการเมื่อลงนามในสัญญาเสร็จสิ้น ซึ่งผู้รับเหมาต้องจัดทำแผนเข้ารื้อถอน และมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาดำเนินการจากหลายฝ่าย" ผอ.เขตปทุมวัน ระบุ และว่า ที่ผ่านมาศาลปกครอง ตามความคืบหน้าทุกเดือน ทำให้กทม.ต้องเร่งคัดเลือกหาผู้รับจ้างมารื้อถอน วงเงิน 160 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่างบประมาณ
หลังจากกทม.เซ็นสัญญาให้ผู้รับเหมาเข้าดำเนินการรื้อถอน นายพินิต กล่าวว่า มาตรการทางปกครองก็จะเปลี่ยน เป็นลักษณะค่าปรับต้องสะดุดหยุดลง เจ้าของอาคารต้องไปหาทรัพย์มาเสียค่าปรับตามขั้นตอน ฉะนั้นทุกเรื่องมีกรอบเวลา ไม่ว่าเรื่องการดำเนินคดีอาญา การฝ่าฝืนคำสั่ง การเรียกค่าปรับตามวิธีปฏิบัติทางปกครอง
สำหรับกรณีโรงแรมดิเอทัส ถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 4 ปี ยังไม่มีการรื้อถอนอาคารดังกล่าว โดยเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2557 ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา สั่งให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) และผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ดำเนินการรื้อถอนหรือแก้ไขอาคาร “ดิเอทัส” ซอยร่วมฤดีภายใน 60 วันนับจากวันที่ศาลตัดสินนั้น สาเหตุอันเนื่องมาจากการก่อสร้างอาคารมีจำนวนชั้นที่สูงมากกว่ากฎหมายกำหนด ซึ่งขัดต่อ พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ที่มีเขตกว้างและติดถนนสาธารณะไม่ถึง 10 เมตร
ผ่านไป 2 ปี วันที่ 30 กันยายน 2559 ศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้สำนักบังคับคดีปกครอง สำนักงานศาลปกครองใช้อำนาจหน้าที่ดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดคดีหมายเลขแดงที่ อ.588/ 2557 (คดีรื้อตึกสูงในซอยร่วมฤดี) ให้เป็นไปตามคำบังคับของศาลปกครองโดยเคร่งครัด และรายงานผลให้ศาลทราบทุกระยะจนกว่าจะได้มีการปฏิบัติให้เป็นไปตามคำบังคับของศาลปกครองถูกต้อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
คนซอยร่วมฤดีร้องเขตปทุมวันไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลเหตุรื้อถอนรร.ดิเอทัส
วสท.คาดรื้ออาคารดิเอทัส ตามคำสั่งศาลใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปี