สพฐ.รับลูก ป.ป.ช.ป้อง‘แป๊ะเจี๊ยะ’ แก้ 6 เงื่อนไขรับ นร.-ปูพรมสังเกตการณ์ทั่ว ปท.
สพฐ.รับลูกมาตรการ ป.ป.ช. ป้องทุจริตเรียก ‘แป๊ะเจี๊ยะ’ รับนักเรียน ปรับปรุง 6 เงื่อนไข สั่งเลิก 3 ข้อโควตารับแบบพิเศษ ‘นักเรียนในอุปการะของผู้ทำคุณประโยชน์’ โดนด้วย เข้า ม.1 เปิดโอกาสให้เด็กพื้นที่ 60% ต้องอยู่ในทะเบียนบ้านจริง ห้ามเอื้อประโยชน์ให้ ส.ผู้ปกครอง-ศิษย์เก่า – สั่งปูพรมจับตาการรับนักเรียนใหม่ปี’62 ทั่วประเทศ
จากกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เสนอมาตรการป้องกันการทุจริตในการเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ตอบแทนเพื่อโอกาสในการเข้าเรียนในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ต่อคณะรัฐมนตรี หลังจากนั้นคณะรัฐมนตรีมีมติมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการนั้น (อ่านประกอบ : ต้องสุ่มตรวจ ร.ร.-เปิดบัญชีรับ-จ่าย! มาตรการ ป.ป.ช.ชง ก.ศึกษาฯแก้ปัญหา‘แป๊ะเจี๊ยะ’)
เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2562 นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แถลงถึงผลการดำเนินการดังกล่าวว่า ภายหลังคณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมาตรการของ ป.ป.ช. และมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการไปดำเนินการนั้น คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) มีมติให้ สพฐ. ปรับนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2562 ให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี ดังนั้น สพฐ. จึงยกเลิกนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2562 ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 และให้ใช้ประกาศนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2562 ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 แทน โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้
1.กรณีการรับนักเรียนที่มีเงื่อนไขพิเศษ 7 ข้อ ได้มีการพิจารณายกเลิกหลักเกณฑ์ 3 ข้อ ให้คงเหลือไว้ 4 ข้อ คือ (1) นักเรียนที่อยู่ในอุปการะของผู้บริจาคที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อจัดตั้งโรงเรียน ซึ่งมีเงื่อนไขและข้อตกลงร่วมกันมาก่อนมติคณะรัฐมนตรี ณ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562 (2) นักเรียนที่เป็นผู้ยากไร้และด้อยโอกาส (3) นักเรียนที่เป็นบุตรผู้เสียสละเพื่อชาติหรือผู้ประสบภัยพิบัติที่ต้องได้รับการสงเคราะห์ดูแลเป็นพิเศษ และ (4) นักเรียนที่เป็นบุตรข้าราชการครูและบุคลากรของโรงเรียน
สำหรับเงื่อนไขพิเศษที่ได้มีการยกเลิกไป คือ (1) นักเรียนที่ได้คะแนนสอบเท่ากันในลำดับสุดท้าย (2) นักเรียนโควตาตามข้อตกลงของโรงเรียนคู่สหกิจหรือโรงเรียนคู่พัฒนา หรือโรงเรียนเครือข่าย และ (3) นักเรียนที่อยู่ในอุปการะของผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง
2.การรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีการแข่งขันสูง ให้รับนักเรียนในเขตพื้นที่บริการร้อยละ 60 และรับนักเรียนทั่วไปด้วยวิธีการสอบคัดเลือกร้อยละ 40 และต้องมีการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการรับนักเรียนที่มีเงื่อนไขพิเศษ รวมกับนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษของแผนการรับนักเรียน โดยประกาศหลักเกณฑ์ก่อนการพิจารณาและประกาศรายชื่อนักเรียนที่ได้รับการพิจารณาตามเงื่อนไขพิเศษให้สาธารณชนทราบ
3.การกำหนดนิยาม คุณสมบัติ และหลักเกณฑ์การเป็นนักเรียนในเขตพื้นที่บริการของโรงเรียนให้มีความชัดเจนและเข้มงวดขึ้น โดยนักเรียนในเขตพื้นที่บริการ หมายถึง นักเรียนที่มีชื่อในทะเบียนบ้านที่อยู่ในเขตพื้นที่บริการของโรงเรียน อย่างน้อย 2 ปี นับถึงวันที่ 16 พฤษภาคม 2562 และต้องอาศัยอยู่จริงกับบิดา มารดา หรือผู้ปกครองตามพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. 2545 ที่เป็นเจ้าบ้านหรือเจ้าของบ้าน โดยให้เจ้าบ้านหรือเจ้าของบ้านรับรองการอาศัยอยู่จริง เพื่อให้ได้นักเรียนที่เป็นผู้มีภูมิลำเนาและอาศัยอยู่ในพื้นที่จริง มิใช่เพียงแต่ชื่อปรากฏในทะเบียนบ้าน แต่มิได้อาศัยอยู่ในทะเบียนบ้านดังกล่าวจริง
4.ให้ทุกสถานศึกษาประกาศผลการสอบโดยเรียงตามลำดับคะแนนสอบของผู้เข้าสอบแข่งขันได้ทุกคนโดยเปิดเผยอย่างชัดเจนต่อสาธารณะ ทั้งนี้ ในกรณีที่สถานศึกษามีการรับนักเรียนเพิ่มเติมไม่ว่าในกรณีใดให้ดำเนินการเรียกรับนักเรียนตามประกาศผลการสอบที่ได้เรียงรายชื่อตามลำดับคะแนนที่สอบแข่งขันได้
5.ให้โรงเรียนแจ้งค่าใช้จ่ายและรายละเอียดการเก็บเงินบำรุงการศึกษาไว้ในประกาศการรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อของแต่ละโรงเรียน เพื่อให้ผู้ปกครองได้รับทราบไว้โดยชัดเจน
6.ห้ามมิให้โรงเรียนดำเนินการเอื้อประโยชน์โดยให้สิทธิพิเศษหรือโควตาแก่สมาคมผู้ปกครองและครู สมาคมศิษย์เก่า หรือสมาคมที่เกี่ยวเนื่องกับด้านการศึกษาของแต่ละโรงเรียน ในลักษณะที่มีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ในการฝากเด็กเข้าเรียนหรือในลักษณะการมีผลประโยชน์ต่างตอบแทน
นายวรวิทย์ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2562 ให้สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดทุกจังหวัด ลงพื้นที่สุ่มติดตามและสังเกตการณ์การรับนักเรียน ปีการศึกษา 2562 ทั่วประเทศ โดยเฉพาะโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูง ร่วมกับ สพฐ. และกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมทั้งรายงานผลการติดตามและสังเกตการณ์ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบ เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงใกล้กำหนดระยะเวลาการรับสมัครนักเรียน ปีการศึกษา 2562 ระหว่างวันที่ 22 – 27 มีนาคม 2562
“จากการการลงพื้นที่สุ่มติดตามและสังเกตการณ์การรับนักเรียนของสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นประจำทุกปี จะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเรียกรับเงิน “แป๊ะเจี๊ยะ” ของโรงเรียนทั่วประเทศ และลดปัญหาการทุจริตในระบบการศึกษา เพื่อยกระดับและพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน” นายวรวิทย์ กล่าว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
ป.ป.ช.เปลือยปมบริจาคเงินให้ ร.ร.-ชี้ต้นตอแป๊ะเจี๊ยะเพราะความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
ชำแหละบทบาท ส.ผู้ปกครอง-ครู ตัวแปรสำคัญ? ต้นตอเปิดช่องจ่าย ‘แป๊ะเจี๊ยะ’
งบไม่เท่ากัน-ส.ผู้ปกครองมีอิทธิพลฝากเด็ก!เบื้องหลัง ป.ป.ช.ชง ครม.แก้ปม ‘แป๊ะเจี๊ยะ’