อธิบดีราชทัณฑ์ยัน‘วิชัย’ยังอยู่ในเรือนจำ แต่มีจำเลยคดีกรุงไทยบางคนได้พักโทษแล้ว
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ยัน ‘วิชัย กฤษดาธานนท์’ ยังถูกคุมขังในเรือนจำ รักษาตัวอยู่ รพ.ราชทัณฑ์ ไม่ได้รับพักโทษ รับมีจำเลยบางรายได้รับการพักโทษไปแล้ว ตามเงื่อนไขติกคุก 2 ใน 3 แต่จำรายละเอียดไม่ได้
จากกรณีเมื่อช่วงเดือน ส.ค. 2561 ที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ปล่อยตัวนักโทษเด็ดขาดให้ได้รับการพักโทษหรือลดวันต้องโทษจำนวน 3 พันรายเศษ โดยมีกระแสข่าวว่า มีจำเลยบางรายที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก คดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้สินเชื่อให้เครือกฤษดามหานครกว่าหมื่นล้านบาทโดยทุจริตรวมอยู่ด้วยนั้น
เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2561 พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีนี้ว่า ปัจจุบันมีจำเลยบางรายในคดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้สินเชื่อให้เครือกฤษดามหานครโดยทุจริต ได้รับการพักโทษออกไปจริง แต่จำรายละเอียดไม่ได้ว่าใครบ้าง โดยขั้นตอนได้รับการพักโทษเป็นไปตามปกติ โดยมีเงื่อนไขคือได้รับโทษมาแล้ว 2 ใน 3 ของโทษทั้งหมด แต่ยังมีจำเลยอีกหลายรายที่ยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเนื่องจากไม่เข้าเงื่อนไขการพักโทษ
เมื่อถามว่า นายวิชัย กฤษดาธานนท์ อดีตผู้บริหารเครือกฤษดามหานคร ที่ถูกคำพิพากษาให้จำคุก 12 ปี ยังอยู่ในเรือนจำหรือไม่ พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า นายวิชัย ยังเป็นนักโทษอยู่ภายในเรือนจำ อย่างไรก็ดีขณะนี้นายวิชัยป่วย จึงอยู่ระหว่างการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลของกรมราชทัณฑ์ อย่างไรก็ดียังยืนยันว่า นายวิชัย ยังไม่ได้รับการพักโทษแต่อย่างใด
“จำเลยทั้งหมดในคดีแบงก์กรุงไทย มีบางรายได้รับการพักโทษแล้ว แต่ผมจำไม่ได้ว่าใครบ้าง ส่วนนายวิชัย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลของกรมราชทัณฑ์ ยังเป็นนักโทษและอยู่ในการคุมขังของกรมราชทัณฑ์ ไม่ได้รับการพักโทษ” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้สินเชื่อเครือกฤษดามหานครโดยทุจริตกว่าหมื่นล้านบาทนั้น ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุกอดีตคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) ธนาคารกรุงไทย รายละ 18 ปี กลุ่มคณะกรรมการสินเชื่อ รายละ 12 ปี กลุ่มเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์สินเชื่อ รายละ 12 ปี กลุ่มนิติบุคคลทั้งหมด ปรับรายละ 26,000 บาท กลุ่มผู้แทนนิติบุคคล รายละ 12 ปี และกลุ่มนิติบุคคล และผู้แทนกลุ่มนิติบุคคล ชดใช้ค่าเสียหายกว่าหมื่นล้านบาท ส่วนนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 1 ศาลได้สั่งจำหน่ายคดีไว้ชั่วคราว (อ่านประกอบ : จำแนกจำเลย-โทษเรียงตัวคดีกรุงไทย ไขปริศนา? ไฉนไม่มีชื่อ“พานทองแท้”)
ต่อมาช่วงกลางปี 2561 อัยการสูงสุด (อสส.) ได้สั่งฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร จำเลยที่ 1 คดีดังกล่าวต่อศาลฎีกาฯอีกครั้ง ภายหลังมีการแก้ไขกฎหมายให้ศาลสามารถพิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้ ปัจจุบันคดีนี้เฉพาะกรณีนายทักษิณอยู่ระหว่างไต่สวนในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
นอกจากนี้คดีดังกล่าวยังถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขยายผลเกี่ยวกับการฟอกเงินด้วย โดยแบ่งผู้ถูกกล่าวหาเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแรก นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ กรณีรับเช็คจำนวน 10 ล้านบาท และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยานายทักษิณ และนายวันชัย หงษ์เหิน สามีนางกาญจนาภา กรณีรับเช็คจำนวน 26 ล้านบาท ปัจจุบันอัยการฟ้องคดีต่อศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และศาลประทับรับฟ้องแล้ว กลุ่มที่สอง มีนายวิชัย กฤษดาธานนท์ กับพวกรวม 13 รายเป็นผู้ถูกกล่าวหา ศาลประทับรับฟ้องแล้วเช่นกัน
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
ดีเอสไอ ส่งสำนวนฟ้อง 'พานทองแท้' กับพวกฟอกเงินกรุงไทย
คณะทำงานดีเอสไอสอบเพิ่ม‘โอ๊ค-พวก’ คดีฟอกเงินหลังถูกร้อง-ทั้งที่สรุปสั่งฟ้องแล้ว
ก่อน ปปง.กล่าวโทษคดีฟอกเงินกรุงไทย ขุมธุรกิจพันล.‘พานทองแท้’ ปี’59ฟัน198 ล.ขาดทุนยับ
คำวินิจฉัยผู้พิพากษาฯชำแหละเส้นทางเงินคดีกรุงไทยโยง'พานทองแท้-มานพ'
เฉลยชื่อผู้รับเช็คจาก'เสี่ยวิชัย’คดีกรุงไทย-‘พานทองแท้-มานพ’อยู่ในข่าย?
ย้อนเส้นทางคดีฟอกเงินกรุงไทย!ชื่อ‘พานทองแท้-พวก’โผล่รับเช็ค-ไม่เอ่ยถึงมูลนิธิรัฐบุรุษฯ
หมายเหตุ : ภาพประกอบ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ จาก http://cheerball.com