อย่าดูแค่เจ้าของ-ถ้าทิ้งร้างบี้เก็บภาษี!กรมที่ดินเสนอ ป.ป.ช.แก้ปมออกเอกสารสิทธิมิชอบ
เปิดความเห็นกรมที่ดินหารือร่วม ป.ป.ช. ออกมาตรการแก้ไขปัญหา จนท.รัฐ-นักการเมือง ร่วมกลุ่มทุน ออกเอกสารสิทธิที่ดินมิชอบ เผยอดีตเคยมีกฎหมายจำกัดไว้ ต่อมา สนง.พัฒนาเศรษฐกิจสังคมฯสั่งเลิก ยันที่ดินไทยทุกตารางนิ้วจะต้องทำประโยชน์ อย่าดูแค่ใครถือครอง หากพบมีการปล่อยร้างไม่ทำอะไร ต้องไล่บี้เก็บภาษีให้หมด
จากกรณีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกมาตรการป้องกันการทุจริตเพื่อแก้ไขปัญหาการออกเอกสารสิทธิในที่ดินโดยมิชอบ โดยเตรียมสรุปเนื้อหา เพื่อนำเสนอแก่คณะรัฐมนตรี ให้บังคับใช้ในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยด่วนนั้น (อ่านประกอบ : ป.ป.ช.ชง รบ.แก้ทุจริตออกเอกสารสิทธิ์ สอบภาษีผู้ครองที่ดินจำนวนมาก-ใช้ ปย.จริงไหม)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ในที่ประชุมการหารือร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เพื่อแก้ไขปัญหาการออกเอกสารสิทธิที่ดินโดยมิชอบ ได้พูดคุยกันถึงประเด็นการครอบครองที่ดินของกลุ่มนายทุนที่ได้ครอบครองที่ดินปริมาณมากด้วย สรุปข้อเท็จจริงได้ ดังนี้
ประเด็นปัญหาการครอบครองของนายทุนบางกลุ่ม ที่มีการครอบครองโฉนดที่ดินเป็นจำนวนมาก โดยการสนับสนุนให้ตัวแทนบุกรุกที่ดินของรัฐเพื่อปลูกพืชเกษตร เช่น ข้าวโพด มันสำปะหลัง เป็นต้น ต่อมาดำเนินการขอออกโฉนดที่ดิน เมื่อได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินแล้ว ดำเนินการขายต่อให้นายทุน และทำการบุกรุกที่ดินของรัฐต่อไปอีก
กรณีนี้ทางกรมที่ดินมีความเห็นสรุปได้ว่า ในอดีตกฎหมายมีการจำกัดสิทธิการครอบครองพื้นที่ เช่น ที่อยู่อาศัยประมาณ 1-5 ไร่ พื้นที่เกษตรกรรมประมาณ 50 ไร่ พื้นที่อุตสาหกรรมประมาณ 20 ไร่ เป็นต้น ต่อมาเมื่อประเทศมีความเจริญขึ้น สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เสนอให้มีการยกเลิกการจำกัดจำนวนพื้นที่ทำประโยชน์ เพื่อต้องการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้น หากจำกัดจำนวนพื้นที่จะทำให้เกิดปัญหาด้านการพัฒนา
ดังนั้น ในประเด็นนี้สิ่งที่ควรให้ความสำคัญคือ การได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินแล้วต้องทำประโยชน์ ถ้ามีที่ดินจำนวนหลายหมื่นหลายแสนไร่จะต้องทำประโยชน์ในที่ดิน ต้องให้ความสำคัญว่าแผ่นดินไทยทุกตารางนิ้วทำอย่างไรจึงจะก่อประโยชน์สูงสุด ไม่ควรมองจำนวนพื้นที่ที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ถ้าครอบครองจำนวนมากแต่ไม่มีการใช้ประโยชน์ ต้องมีมาตรการเก็บภาษีให้เพิ่มมากขึ้น
ส่วนประเด็นที่มองว่า การครอบครองเป็นจำนวนมาก เป็นการโน้มน้าวให้เกิดการบุกรุกและขยายตัวหรือไม่นั้น อาจจะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่แท้จริงของปัญหาคืออะไร
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ในการหารือประเด็นข้างต้น สำนักงาน ป.ป.ช. ได้อ้างอิงข้อมูลจากสื่อมวลชนที่รายงานข่าวถึงกลุ่มตระกูลดัง เศรษฐี กลุ่มธุรกิจ นายทุน ที่ถือครองที่ดินแปลงเล็ก แปลงใหญ่ กว่า 958,400 ไร่ ซึ่งกระจายอยู่หลายพื้นที่ทั้ง กทม. และต่างจังหวัด จึงนำไปสู่การบุกรุกที่ดินของรัฐเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย
ผลสรุปประเด็นเหล่านี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ได้รวบรวมไว้ในมาตรการป้องกันการทุจริตเพื่อแก้ไขปัญหาการออกเอกสารสิทธิในที่ดินโดยมิชอบแล้ว ระบุสาระสำคัญว่า ต้องการให้รัฐบาลมีมาตรการทางภาษี และมาตรการตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเคร่งครัดกับผู้ถือครองที่ดินจำนวนมาก โดยให้นำมาตรา 6 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินมาบังคับใช้อย่างเคร่งครัด และให้รัฐบาลมีนโยบายปราบปรามผู้ใช้อิทธิพลในการออกเอกสารสิทธิ มีการลงโทษผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง และจัดให้มีมาตรการคุ้มครองเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ในพื้นที่เศรษฐกิจที่ดินมีราคาสูง เช่น จ.ภูเก็ต จ.เชียงราย เป็นต้น การออกเอกสารสิทธิ์ กรมที่ดินควรมีหลักเกณฑ์พิจารณาอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษ ให้การออกเอกสารสิทธิ์เป็นไปโดยถูกต้อง
อ่านประกอบ : พลิกคดี จนท.รัฐร่วมนายทุนออกสารสิทธิมิชอบ ป.ป.ช.เชือดกราวรูดก่อนชง รบ.แก้ด่วน