ข้องใจรายได้1.9พันล.แต่เลิกกิจการ!สตง.สั่งสอบบ.พิมพ์หีบบัตรกกต.เชียงใหม่คดีม.44เพิ่ม
'สตง.' สนข้อมูล 'อิศรา' สั่งขยายผลสอบสถานะบ.เอกชน รับจ้างพิมพ์หีบบัตรกกต.เชียงใหม่คดีม.44 ล็อต 9 - ข้องใจแจ้งรายได้ปี 56 วงเงินกว่า 1.9 พันล. ผ่านไปไม่กี่ปีจดทะเบียนเลิกกิจการ พ่วงเอกชนคู่เทียบแข่งงานวิธีพิเศษด้วย
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า นายสุชาติ ใจภักดี อดีตผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำ จ.เชียงใหม่ (ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำ จ.เพชรบูรณ์) และ นายกฤษเรศ วังทะพันธ์ อดีตรองผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำ จ.เชียงใหม่ (ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำ จ.แม่ฮ่องสอน) ปรากฏชื่ออยู่ในกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐ 70 ราย ที่ถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงนามในคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 35/2560 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 9 ระงับการปฏิบัติราชการหรือหน้าที่เป็นการชั่วคราว เพื่อเข้าสู่กระบวนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนจากหน่วยงานตนสังกัด เป็นเพราะถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบพบปัญหาการจัดจ้างพิมพ์คู่มือกรรมการหน่วยเลือกตั้ง และจัดทำหีบบัตรด้วยวิธีพิเศษ ที่มีลักษณะเอื้อประโยชน์ให้เอกชนผู้ชนะ (อ่านประกอบ : กปปส.ล้อมปิดส่งคู่มือหีบลต.ไม่ได้!คนกกต.เผยเหตุ2ผอ.เชียงใหม่โดนม.44-ไร้ทุจริตล้าน%, ฉบับเต็ม!ผลสอบ สตง.คดี2ผอ.กกต. จ้างพิมพ์คู่มือ-หีบ ลต.สมัยอยู่เชียงใหม่ ก่อนถูก ม.44ล็อต9)
ขณะที่สำนักข่าวอิศรา ขยายผลการตรวจสอบข้อมูลพบว่า บริษัท ซอลิแทร์ ออฟฟิซิน จำกัด ซึ่งปรากฎชื่อเป็นคู่สัญญาจัดจ้างพิมพ์คู่มือกรรมการหน่วยเลือกตั้ง และจัดทำหีบบัตร ด้วยวิธีพิเศษ ของ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงปี 2557 ในคดีนี้ ได้จดทะเบียนเลิกบริษัท ซึ่งนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้ว เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2560 และขณะนี้ยังไม่ได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี ทั้งที่ ในช่วงปี 2556 บริษัทฯ นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ที่นำส่งให้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ณ 25 ธันวาคม 2556 แจ้งว่า มีรายได้รวม 1,932,632,025.44 บาท แยกเป็น รายได้จากการขาย 1,932,631,606.58 บาท รายได้อื่น 418.86 บาท รวมรายจ่าย 1,930,827,797.31 บาท กำไรสุทธิ 1,384,276.94 บาท (อ่านประกอบ : โชว์รายได้1.9พันล.ก่อนแจ้งเลิกกิจการ!เปิดตัวบ.รับจ้างพิมพ์หีบบัตรกกต.เชียงใหม่คดีม.44)
ล่าสุด แหล่งข่าวจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า การตรวจสอบพบข้อมูลว่า บริษัทเอกชนรายนี้ ได้แจ้งเลิกกิจการไปแล้ว ทั้งที่ในช่วงปี 2556 แจ้งว่ามีรายได้สูงถึง1.9 พันล้านบาท ถือเป็นข้อมูลใหม่ และชี้ให้เห็นข้อสังเกตเกี่ยวกับการทำธุรกิจของบริษัทเอกชนรายนี้เป็นอย่างมาก ซึ่ง สตง.จะรับข้อมูลส่วนนี้ มาตรวจสอบขยายผลต่อไป
แหล่งข่าวยังกล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีที่มีแหล่งข่าวจากกกต. ระบุว่า การว่าจ้างเอกชนเข้ามารับงานจ้างพิมพ์คู่มือกรรมการหน่วยเลือกตั้ง และจัดทำหีบบัตรด้วยวิธีพิเศษ ของกกต.เชียงใหม่ ไม่มีปัญหาการทุจริตเอื้อประโยชน์แต่อย่างใด ปัญหาเกิดขึ้นจากการชุมนุมของกลุ่มกปปส.(คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) ที่พาคนไปปิดล้อมตามสถานที่ราชการสำคัญหลายแห่ง รวมถึงบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด ทำให้บริษัทผู้ชนะไม่สามารถส่งสินค้ามาให้ สำนักงาน กกต.ประจำเชียงใหม่ตามกำหนดในสัญญา เป็นสิทธิที่ผู้เกี่ยวข้องสามารถชี้แจงได้ แต่ในการตรวจสอบของสตง.พบเอกสารหลักฐานที่ขัดแย้งกับคำชี้แจงดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันได้มีการส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับไปสอบสวนต่อตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อแล้ว
"ส่วนกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่า การว่าจ้างเอกชนเข้ามารับจ้างงานนี้ แม้จะใช้วิธีพิเศษ แต่ก็มีการเปิดให้เอกชนมาแข่งขันเสนอราคากัน สตง.จะเข้าไปขยายผลการตรวจสอบในส่วนของบริษัทเอกชนที่ปรากฎชื่อเป็นคู่เทียบในการเสนอราคางานครั้งนี้ด้วย เพื่อดูว่ามีความเชื่อมโยงเป็นบริษัทเอกชนกลุ่มเดียวกันหรือไม่ หากพบหลักฐานเพิ่มเติมจะส่งให้ ป.ป.ช. อีกครั้ง" แหล่งข่าวระบุ