กปปส.ล้อมปิดส่งคู่มือหีบลต.ไม่ได้!คนกกต.เผยเหตุ2ผอ.เชียงใหม่โดนม.44-ไร้ทุจริตล้าน%
คนกกต.เผยเบื้องหลัง 2 ผอ.ศูนย์เลือกตั้งจว.เชียงใหม่ โดนคดีม.44 ล็อต 9! ระบุเหตุม็อบกปปส.ล้อมปิดบ.ไปรษณีย์ ทำให้การส่งคู่มือ หีบบัตรเลือกตั้ง มีปัญหาอุปสรรคล่าช้า ยันเอกชนผู้ชนะอยู่ กทม. ไม่มีปัญหาเอื้อปย.ตามสตง.ชี้ ไร้ทุจริตล้าน% ล่าสุด กกต.ใหญ่ สั่งตั้งคกก.สอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว
จากกรณี สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า สาเหตุที่ทำให้ นายสุชาติ ใจภักดี ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำ จ.เพชรบูรณ์ และ นายกฤษเรศ วังทะพันธ์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำ จ.แม่ฮ่องสอน ปรากฏชื่ออยู่ในกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐ 70 ราย ที่ถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงนามในคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 35/2560 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 9 ระงับการปฏิบัติราชการหรือหน้าที่เป็นการชั่วคราว เพื่อเข้าสู่กระบวนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนจากหน่วยงานตนสังกัด เป็นเพราะถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบพบปัญหาการจัดจ้างพิมพ์คู่มือกรรมการหน่วยเลือกตั้ง และจัดทำหีบบัตรด้วยวิธีพิเศษ ขณะดำรงตำแหน่งดังกล่าวประจำอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ โดยในช่วงนั้น นายสุชาติ ใจภักดี มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำ จ.เชียงใหม่ ส่วน นายกฤษเรศ วังทะพันธ์ มีตำแหน่งเป็นรองผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำ จ.เชียงใหม่
ขณะที่ในรายงานการตรวจสอบสตง.ระบุว่า สำนักงาน กกต.ประจำจ.เชียงใหม่ ดำเนินการจัดจ้างพิมพ์คู่มือกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง จำนวน 26,930 เล่ม เป็นเงิน 242,370 บาท ตามสัญญาจ้างเลขที่ 9/2557 ลงวันที่ 14 ม.ค. 2557 โดยบริษัท ซอลิแทร์ ออฟฟิซิน จำกัด เป็นผู้รับจ้าง แต่มีปัญหาการส่งมอบคู่มือฯ และการตรวจรับพัสดุดังกล่าว ไม่ถูกต้องตามสัญญา แต่คณะกรรมการตรวจรับพัสดุยืนยันว่า ผู้รับจ้างส่งมอบพัสดุถูกต้องครบถ้วนแล้ว ตามสัญญาจ้าง จึงทำให้ไม่สามารถเรียกค่าปรับกรณีส่งมอบเกินกำหนดเวลาได้ มีผลให้สำนักงาน กกต. ประจำ จ.เชียงใหม่ ได้รับความเสียหาย จึงน่าเชื่อว่า นายสุชาติ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มีเจตนาเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้รับจ้าง และมีผลให้ผู้รับจ้างไม่ต้องรับภาระเสียค่าปรับกรณีวัสดุล่าช้า ถือเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และมีการส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับไปสอบสวนตามขั้นตอนทางกฎหมาย
ส่วนนายกฤษเรศ วังทะพันธ์ ถูกระบุว่า ในปีงบประมาณ 2557 สำนักงาน กกต.ประจำเชียงใหม่ ได้ดำเนินการจัดซื้อหีบบัตรและคูหาเลือกตั้งและจัดจ้างพิมพ์เอกสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งโดยวิธีพิเศษ ซึ่งพบว่าใบเสนอราคาและหนังสือมอบอำนาจของบริษัทมีรายละเอียดไม่ครบถ้วนถูกต้อง แต่คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อ เพิกเฉย ไม่พิจารณารายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แต่ร่วมกันเสนอความเห็นว่าให้จัดซื้อจัดจ้างกับบริษัท โดยอ้างว่าเสนอราคาต่ำสุด น่าเชื่อกระทำการตามหน้าที่โดยมีเจตนาทุจริต มุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมเพื่อเอื้ออำนวยให้บริษัทมีสิทธิทำสัญญาว่าจ้าง
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน นายสุชาติ และนายกฤษเรศ ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ เนื่องจาก ป.ป.ช.ยังไม่ได้ชี้มูลความผิดแต่อย่างใด
(อ่านประกอบ : ฉบับเต็ม!ผลสอบ สตง.คดี2ผอ.กกต. จ้างพิมพ์คู่มือ-หีบ ลต.สมัยอยู่เชียงใหม่ ก่อนถูก ม.44ล็อต9)
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวในสำนักงาน กกต.ประจำ จ.เชียงใหม่ ว่า เกี่ยวกับกรณี นายสุชาติ และนายกฤษเรศ ที่ถูกคำสั่งหัวหน้า คสช. ให้ระงับการปฏิบัติหน้าที่ โดยใช้อำนาจม.44 บัญชีที่ 9 นั้น ปัจจุบันทางกกต.อยู่ระหว่างการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนแล้ว อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีปัญหาเรื่องการทุจริตแต่อย่างใด
แหล่งข่าว ชี้แจงว่า ในช่วงหลังจากที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภาให้การเลือกตั้งใหม่ ในช่วงปี 2557 ทางกกต.ได้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ตามขั้นตอนทางกฎหมาย โดยสำนักงาน กกต.ประจำเชียงใหม่ ได้ใช้วิธีพิเศษว่าจ้างเอกชนเข้ามารับงานจัดพิมพ์คู่มือ จัดซื้อหีบบัตรและคูหาเลือกตั้งและจัดจ้างพิมพ์เอกสารเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ซึ่งแม้จะเป็นการว่าจ้างโดยวิธีพิเศษ แต่ก็ให้เอกชนเสนอราคาแข่งขันงานกัน มีเอกชน 2 ราย มาเสนอราคา รายที่ได้รับการคัดเลือก คือ บริษัท ซอลิแทร์ ออฟฟิซิน จำกัด ตั้งอยู่ในกทม. ให้ราคาต่ำสุด สามารถประหยัดงบประมาณได้เป็นจำนวนกว่า 10 ล้านบาท และสินค้าก็มีคุณภาพดี
แหล่งข่าวระบุว่า "ในช่วงปี 2557 ทุกคนคงรับทราบกันดีว่า หลังจากที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ประกาศยุบสภา ให้มีการเลือกตั้งใหม่ กลุ่มกปปส.(คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) ได้พาคนไปปิดล้อมตามสถานที่ราชการสำคัญหลายแห่ง กกต.ใหญ่ก็ทำงานไม่ได้ ต้องย้ายไปเปิดศูนย์ทำงานในต่างจังหวัดแทน ในส่วนบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด ซึ่งเป็นช่องทางที่บริษัทผู้ชนะต้องใช้ส่งมอบสินค้ามาให้ สำนักงาน กกต.ประจำเชียงใหม่ก็ถูกปิดล้อมเช่นกัน ทำให้ต้องหาทางแก้ไขปัญหาด้วยการเช่ารถบรรทุกส่งของมาแทน"
"ช่วงนั้นมีปัญหามีความวุ่นวายทางการเมืองมาก ผู้บริหารสำนักงาน กกต.ประจำเชียงใหม่ ต้องหาวิธีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพราะมีกฎหมายกำหนดให้จัดการเลือกตั้งให้เสร็จสินค้าภายในกำหนดเวลาเช่นกัน ไม่งั้นก็มีความผิด นายสุชาติ จึงต้องประสานขอให้บริษัทผู้ชนะขนส่งสินค้าผ่านทางรถบรรทุก มาที่สำนักงาน กกต.ประจำเชียงใหม่โดยตรง และให้หน่วยเลือกตั้งประจำเขตต่างๆ กว่า 25 แห่ง ว่าจ้างรถมารับของเอง จึงทำให้มีปัญหาการส่งมอบของที่ไม่ตรงตามกำหนดเวลาเกิดขึ้น แต่นั้นเป็นความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ในช่วงสถานการณ์ไม่ปกติ ไม่ได้มีเจตนาเอื้อประโยชน์เอกชนแต่อย่างใด และเอกชนผู้ชนะก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ออกค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้า แทนกกต.ให้ทั้งหมดด้วย"
เมื่อถามว่า สตง.ระบุว่า ใบเสนอราคาและหนังสือมอบอำนาจของบริษัทมีรายละเอียดไม่ครบถ้วนถูกต้องแต่คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อ เพิกเฉย ไม่พิจารณารายงานให้ให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แต่รวมกันเสนอความเห็นว่าให้จัดซื้อจัดจ้างกับบริษัท โดยอ้างว่าเสนอราคาต่ำสุด แหล่งข่าวระบุว่า "ข้อมูลของบริษัท มีปัญหาแค่ การไม่ระบุยอดราคารวมของสินค้าเท่านั้น แต่มีการระบุราคาต่อหน่วยไว้อยู่แล้ว ถ้าคำนวณราคาต่อหน่วยก็เท่ากับราคารวมของอยู่แล้ว ปัญหามีเพียงแค่นี้เอง แต่ต้องไม่ลืมว่าในการคัดเลือกเอกชนเข้ามารับงานนี้ ใช้วิธีการพิเศษ ขณะที่สถานการณ์บ้านเมืองก็ไม่ปกติ ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงเป็นปัญหาเพียงแค่ขั้นตอนการปฏิบัติ ปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นจากเจตนาที่ต้องการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชนรายใดรายหนึ่งได้งานอย่างแน่นอน"
"ตอนนี้ นายสุชาติ และ นายกฤษเรศ รับทราบแล้วว่าข้อกล่าวหาที่ทำให้ถูกใช้อำนาจ ม.44 สั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่คือเรื่องนี้ ซึ่งทั้งสองคนพร้อมที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงทุกอย่าง เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ และที่สำคัญการจัดซื้อครั้งนี้ก็ช่วยรัฐประหยัดงบประมาณไปได้กว่า 10 ล้านบาทด้วย ไม่มีปัญหาเรื่องการทุจริตอะไร ยืนยันได้ล้านเปอร์เซ็นต์ จึงอยากขอความเป็นธรรมให้บุคคลทั้ง 2 ด้วย" แหล่งข่าวที่ใกล้ชิด นายสุชาติ และ นายกฤษเรศ ระบุ