ถอยจนไม่มีที่ยืนแล้ว!‘ศิริชัย’เปิดใจลาออกราชการ-‘ธนฤกษ์’นั่ง ปธ.ศาลอุทธรณ์แทน
เว็บไซต์สำนักงานศาลยุติธรรมแพร่บัญชีโยกย้าย ขรก.ตุลาการ ‘ธนฤกษ์ นิติเศรณี’ นั่ง ปธ.ศาลอุทธรณ์ แทน ‘ศิริชัย’ หลังแถลงสื่อลาออกราชการ เชื่อเพราะคดียาเสพติดที่ตัดสินลงโทษ ต้นเหตุให้ไม่ได้เป็น ปธ.ศาลฎีกา ขอสื่อ-ปชช.-หัวหน้า คสช. พิจารณาด้วย ลั่นที่ผ่านมายอมถอยจนไม่มีที่ยืนแล้ว
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เว็บไซต์สำนักงานศาลยุติธรรมเผยแพร่บัญชีโยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการตุลาการ (บัญชี 2) ภายหลังการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2560 ที่ผ่านมา ปรากฏชื่อของนายธนฤกษ์ นิติเศรณี รองประธานศาลฎีกา ให้ดำรงตำแหน่งประธานศาลอุทธรณ์แทนนายศิริชัยแล้ว (ดูรายชื่อทั้งหมด ที่นี่)
เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 18 ก.ค. 2560 นายศิริชัย วัฒนโยธิน ประธานศาลอุทธรณ์ แถลงต่อสื่อมวลชน ถึงกรณีลาออกจากราชการ สรุปได้ว่า สาเหตุที่ต้องลาออกเนื่องจากที่ประชุม ก.ต. มีมติเอกฉันท์ 14-0 เสียง และคณะอนุ ก.ต. มีมติเสียงข้างมาก 19-1 เสียง เห็นว่า ตนไม่เหมาะสมขึ้นเป็นประธานศาลฎีกา ทั้งที่อาวุโสสูงสุด รวมถึงยังเปิดตำแหน่งใหม่ คือ ที่ปรึกษาประธานศาลฎีกา และเตรียมโยกย้ายตนไปดำรงตำแหน่ง ทั้งที่ตำแหน่งใหม่ดังกล่าว ไม่มีศักดิ์เท่ากับประธานศาลอุทธรณ์ แม้ว่าจะระบุในประกาศว่า ตำแหน่งเทียบเท่ากันก็ตาม
นอกจากนี้ตำแหน่งที่ปรึกษาประธานศาลฎีกา อาจเป็นการตั้งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะตาม พ.ร.บ.ให้ใช้พระธรรมนูญศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 8 สรุปได้ว่า ให้มีประธานศาลฎีกาประจำศาลฎีกาหนึ่งคน ให้มีรองประธานศาลฎีกาประจำศาลฎีกาหนึ่งคน แต่ไม่เกินหกคน เมื่อตำแหน่งประธานศาลฎีกาว่างลง หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รองประธานศาลฎีกาที่มีอาวุโสสูงสุดเป็นผู้ทำการแทน เมื่อตนอาวุโสรองลงมาจากประธานศาลฎีกา หากประธานศาลฎีกาไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ใครจะเป็นผู้ปฏิบัติราชการแทน ตรงนี้ยังมีปัญหาในทางปฏิบัติ
นายศิริชัย กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณีมีบัตรสนเท่ห์ร้องเรียนกล่าวหาตน กรณีการเพิกถอนโอนย้ายสำนวนคดียาเสพติด จำนวน 3 สำนวน ทั้งที่ตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกับคณะอนุกรรมการ ก.ต. และ ก.ต. ไปแล้ว โดยการกระทำดังกล่าวปฏิบัติตามข้อกฎหมายทุกอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรทั้งหมด ดังนั้นหากตนลาออกไป แม้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงจะดำเนินการสอบต่อ ก็เป็นเรื่องของเขา หากเขาต้องการให้ชี้แจง ก็พร้อมชี้แจงเต็มที่ ตามเอกสารหลักฐานที่เคยชี้แจงไปหมดแล้ว ทั้งที่มันควรจบ เพราะข้อเท็จจริงเป็นแบบนั้น
นายศิริชัย กล่าวด้วยว่า ประเด็นบัตรสนเท่ห์ที่ร้องเรียนตนนั้น เป็นคดีเกี่ยวกับยาเสพติดทั้งหมด ตนไม่ได้ตั้งธงว่า จำเลย จะต้องจำคุก แต่ข้อเท็จจริงตามสำนวนเป็นอย่างนั้น และที่ผ่านมาสมัยเป็นกรรมการ ก.ต. ตนเป็นหัวหอกในการฟาดฟันข้าราชการตุลาการชั้นผู้ใหญ่หลายราย ที่มีส่วนพัวพันกับคดียาเสพติดด้วย ตนลงโทษจำเลยในคดียาเสพติด เพราะคดีเหล่านี้ ทำให้ไม่ได้เป็นประธานศาลฎีกา แล้วมันถูกต้องหรือไม่
นายศิริชัย กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ที่มีกระแสข่าวว่าจะฟ้องกรรมการ ก.ต. แต่ก็ไม่ฟ้อง คิดเสียว่าเป็นลิขิต เป็นวาสนา ตนอุตส่าห์อยู่เฉย ๆ ขอเป็นประธานศาลอุทธรณ์อย่างเงียบ ๆ รอเกษียณอายุราชการ แต่ก็อยู่ไม่ได้ จนถึงวันนี้ก็ยังไม่คิดฟ้องใคร เคยมีความคิดว่ายื่นทูลเกล้าฯถวายฎีกา แต่กังวลว่าจะระคายเบื้องพระยุคลบาท เลยไม่ทำ มาวันนี้จึงอยากฟ้องต่อสื่อ ฟ้องต่อประชาชน ฟ้องหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ทำอย่างนี้ได้หรือไม่
“ที่ผ่านมาผมยอมถอย ถอยมาตลอด ถอยจนกระทั่งไม่มีที่ยืนอยู่แล้ว” นายศิริชัย กล่าว
ส่วนจะเป็นประเด็นการเมืองภายใน หรือมีการแทรกแซงอะไรหรือไม่นั้น นายศิริชัย ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยระบุว่า ไม่ทราบว่าการเมืองภายในคืออะไร แต่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างนี้ ขอให้สื่อ และประชาชนทุกคนพิจารณา
เมื่อถามว่า ที่อยากฟ้องหัวหน้า คสช. อยากให้ดำเนินการอะไร นายศิริชัย กล่าวว่า คงไม่ทำหนังสือโดยตรงถึงหัวหน้า คสช. แต่อยากให้ลองไปถามผู้พิพากษาทั่วประเทศว่า ทำได้หรือไม่ แม้มีมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 ที่มีอำนาจเหนือสิ่งอื่นใดอยู่ แต่อยากให้ทราบว่า กรณีอย่างนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างนายศิริชัย แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน มีเจ้าหน้าที่ และข้าราชการในศาลอุทธรณ์เข้ามาร่วมฟังเป็นจำนวนมาก และเมื่อแถลงจบ ได้นำดอกกุหลาบสีชมพูมามอบเป็นกำลังใจให้นายศิริชัยด้วย (ดูภาพประกอบ)
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) มีมติเอกฉันท์ไม่เลือกนายศิริชัย ให้ดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา ระบุเหตุผลว่า แม้จะมีอาวุโสสูงสุด แต่ไม่เหมาะสม ก่อนที่จะมีมติให้นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกา อาวุโสลำดับถัดมา เป็นประธานศาลฎีกาแทน
นอกจากนี้ที่ประชุม ก.ต. ยังมีมติตั้งตำแหน่งใหม่ในศาลยุติธรรม คือ ที่ปรึกษาประธานศาลฎีกา มีกระแสข่าวระบุว่า เตรียมจะให้นายศิริชัยไปดำรงตำแหน่งดังกล่าว ขณะเดียวกันยังตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงนายศิริชัย กรณีถูกร้องเรียนปัญหาการบริหารภายในศาลอุทธรณ์ โดยเฉพาะประเด็นการเพิกถอนโอนย้ายสำนวนคดีต่าง ๆ ด้วย
อ่านประกอบ :
ยังไงก็อยู่ไม่ได้แล้ว! ปธ.ศาลอุทธรณ์รับลาออกราชการ-แถลงสื่อ 18 ก.ค.
เจ็บปวดรวดร้าว-ขออยู่ที่เดิมไม่ให้อยู่! คำต่อคำ‘ศิริชัย’เปิดใจไม่ได้นั่ง ปธ.ศาลฎีกา
สะอื้น!‘ศิริชัย’ลั่นไม่อยากพูดให้เสีย-ขอสื่อสืบที่มาปมถูกย้ายนั่งที่ปรึกษา ปธ.ศาลฎีกา
เบื้องหลัง วางหมาก เด้ง 'ศิริชัย'-ตั้งกก.สอบซ้ำ ศึกชิงเก้าอี้ปธ.ศาลฎีกา เจ็บแต่(ไม่)จบ!
สะพัด! ก.ต.เด้ง 'ศิริชัย' พ้น ประธานศาลอุทธรณ์นั่งที่ปรึกษาปธ.ฎีกา-ตั้ง กก.สอบซ้ำ
อยู่ที่วาสนา! ‘ศิริชัย’เคารพมติ ก.ต.ไม่เลือกนั่ง ปธ.ศาลฎีกา ปัดฟ้องกลับ-ลาออก
‘ศิริชัย' ร้องขอความเป็นธรรม ปธ.ศาลฎีกา-เข้าชี้แจงก.ต.ปมถูกร้องเพิกถอนโอนสำนวน!
สนง.ศาลยุติธรรม ตั้งแท่นชงชื่อ 'ชีพ จุลมนต์' ปธ.ศาลฎีกาคนใหม่แล้ว
ระวัง! ซ้ำรอยวิกฤตตุลาการ เมื่อ อนุก.ต.ไม่เห็นชอบเสนอชื่อ'ศิริชัย วัฒนโยธิน' ปธ.ศาลฎีกา