- Home
- Isranews
- ข่าว
- สะอื้น!‘ศิริชัย’ลั่นไม่อยากพูดให้เสีย-ขอสื่อสืบที่มาปมถูกย้ายนั่งที่ปรึกษา ปธ.ศาลฎีกา
สะอื้น!‘ศิริชัย’ลั่นไม่อยากพูดให้เสีย-ขอสื่อสืบที่มาปมถูกย้ายนั่งที่ปรึกษา ปธ.ศาลฎีกา
‘ศิริชัย’ เสียงสะอื้นแถลงปมจ่อถูกย้ายนั่งที่ปรึกษา ปธ.ศาลฎีกา-ตั้ง กก.สอบปมโอนสำนวน เผยรักสถาบันนี้ ไม่อยากพูดให้เสียชื่อเสียง แม้เจ็บปวดรวดร้าว แต่ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ถือว่าโดนกระทำตลอด ขออยู่ที่เดิมไม่ให้อยู่ ยังไม่รู้ทางออกทำอย่างไร อยากให้นักข่าวสืบที่มา ลั่นที่ผ่านมาไม่เคยทุจริต สร้างแต่สิ่งดี ๆ ให้ศาลอุทธรณ์
จากกรณีที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) มีมติเอกฉันท์ไม่แต่งตั้งนายศิริชัย วัฒนโยธิน ประธานศาลอุทธรณ์ เป็นประธานศาลฎีกา โดยระบุเหตุผลว่า คุณสมบัติไม่เหมาะสม ต่อมา เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2560 ก.ต. จึงมีมติเอกฉันท์แต่งตั้งนายชีพ จุลมนต์ เป็นประธานศาลฎีกาแทน โดยที่ประชุม ก.ต. วันดังกล่าว ยังมีความเสนอให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงนายศิริชัยเบื้องต้น กรณีมีปัญหาในการบริหารศาลอุทธรณ์ โดยเฉพาะเรื่องการเพิกถอนการโอนสำนวนคดีต่าง ๆ
นอกจากนี้ที่ประชุม ก.ต. ยังเสนอให้คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) จัดสรรตำแหน่ง ที่ปรึกษาประธานศาลฎีกา ซึ่งเทียบเท่าตำแหน่งประธานศาลอุทธรณ์ ขึ้นมาในการโยกย้ายครั้งใหม่ โดยแหล่งข่าว ระบุว่า เป็นตำแหน่งที่ไม่เคยมีมาก่อน และมีกระแสข่าวว่า อาจจะย้ายนายศิริชัย ไปดำรงตำแหน่งใหม่นี้นั้น
(อ่านประกอบ : เบื้องหลัง วางหมาก เด้ง 'ศิริชัย'-ตั้งกก.สอบซ้ำ ศึกชิงเก้าอี้ปธ.ศาลฎีกา เจ็บแต่(ไม่)จบ!, สะพัด! ก.ต.เด้ง 'ศิริชัย' พ้น ประธานศาลอุทธรณ์นั่งที่ปรึกษาปธ.ฎีกา-ตั้ง กก.สอบซ้ำ)
เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 12 ก.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า นายศิริชัย วัฒนโยธิน ประธานศาลอุทธรณ์ แถลงต่อสื่อมวลชนถึงกรณีนี้ว่า เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2560 ที่ผ่านมา ที่ประชุม ก.ต. มีมติแต่งตั้งประธานศาลฎีกาคนใหม่ และเสนอให้เปิดตำแหน่งใหม่คือ ที่ปรึกษาประธานศาลฎีกา นั้น เบื้องต้นเท่าที่ทราบจากข่าวคือ น่าจะมีมูลความจริง เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่ปรากฏเป็นข่าว
นายศิริชัย กล่าวว่า ยังไม่แน่ใจว่าตำแหน่งที่เปิดมานี้ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะดูแล้วเห็นว่าศาลจะตั้งตำแหน่งใหม่เองโดยไม่ผ่านรัฐสภาหรือไม่ มีคนทักท้วงมาเหมือนกัน เพราะตาม พ.ร.บ.ให้ใช้พระธรรมนูญศาลยุติธรรม พ.ศ.2543 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 8 บัญญัติเกี่ยวกับศาลฎีกาว่า ให้มีประธานศาลฎีกาประจำศาลฎีกาหนึ่งคน ให้มีรองประธานศาลฎีกาประจำศาลฎีกาหนึ่งคน แต่ไม่เกินหกคน เมื่อตำแหน่งประธานศาลฎีกาว่างลง หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รองประธานศาลฎีกาที่มีอาวุโสสูงสุดเป็นผู้ทำการแทน
นายศิริชัย กล่าวอีกว่า ตามแนวปฏิบัติเดิม หากไม่ถูกแต่งตั้งเป็นประธานศาลฎีกา ต้องปฏิบัติหน้าที่เดิมต่อไป และประธานศาลอุทธรณ์เป็นรองแค่ประธานศาลฎีกาเท่านั้น จึงไม่มีทางต่ำกว่าตำแหน่งอื่นได้เลย นอกจากนี้ยังเป็นประธานกรรมการศาลยุติธรรมโดยตำแหน่ง ดูแลฝ่ายธุรการ และเป็นอุปนายกของเนติบัณฑิตยสภาโดยตำแหน่งด้วย แต่ที่ปรึกษาประธานศาลฎีกา มีตรงนี้หรือไม่ ทำให้คิดว่าที่ปรึกษาประธานศาลฎีกาสูงกว่าจริงหรือ เป็นเรื่องที่น่าคิดเหมือนกัน
“ตำแหน่งที่ผมอยู่ตอนนี้คือ ประธานศาลอุทธรณ์ เป็นรองแค่ประธานศาลฎีกา ถ้าเปิดตำแหน่งใหม่ให้ผมเป็นที่ปรึกษาประธานศาลฎีกา ตำแหน่งผมจะเท่าเดิมหรือไม่ นอกจากนี้ถ้าประธานศาลฎีกาไม่อยู่ แล้วรองประธานศาลฎีกา ซึ่งตามปกติอาวุโสน้อยกว่าอยู่แล้ว จะปฏิบัติราชการแทนประธานศาลฎีกาได้หรือไม่ และใครเป็นผู้บังคับบัญชาใคร นี่คือปัญหาที่ขัดข้องในทางปฏิบัติ” นายศิริชัย กล่าว
นายศิริชัย กล่าวอีกว่า ปัจจุบันยังไม่รับทราบมติอย่างเป็นทางการของคณะอนุกรรมการ ก.ต. และ ก.ต. ว่า มีคำวินิจฉัยถึงเหตุผลที่ตนไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานศาลฎีกาเพราะอะไร อยู่ระหว่างทำหนังสือสอบถามเหตุผลอยู่ อย่างไรก็ดีหากมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ไม่เคยกลัว ชีวิตไม่เคยทำสิ่งไม่ดี จะสอบอย่างไรก็ไม่กลัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงนี้นายศิริชัยนิ่งไปสักครู่ ก่อนกล่าวว่า ไม่ทราบว่านักข่าวสืบดูบ้างหรือเปล่าว่า เหตุที่ ก.ต. ไม่เห็นชอบตนนั่งประธานศาลฎีกาเพราะอะไร ให้ไปสืบมา ไม่เห็นตรงนี้ และไม่สามารถคาดเดาได้ เพราะเป็นผู้พิพากษา ไม่กล้าคาดเดา เดี๋ยวผิด
เมื่อถามว่า หากมีการเปิดตำแหน่งที่ปรึกษาประธานศาลฎีกา และมีการพิจารณาโยกย้ายไปดำรงตำแหน่งใหม่นี้จริง จะมีทางออกอย่างไร นายศิริชัยเงียบไปครู่หนึ่ง เสียงสะอื้น และตาเริ่มแดง ก่อนกล่าวว่า ตอนนี้ยังคิดไม่ออก ยังรักสถาบันนี้อยู่ อยู่มาเกือบ 40 ปี ยังไม่อยากพูดอะไรที่มันอยู่ในอกให้เสื่อมเสียสถาบันนี้ แม้เจ็บปวดรวดร้าว ถ้าพูดไปสถาบันนี้จะเสีย อาจไม่เชื่อว่าเป็นแบบนี้ แต่ถ้าสุดท้ายจริง ๆ ไม่ไหวจริง ๆ ถือว่าตนโดนกระทำอยู่ตลอด ขออยู่ที่เดิมก็ไม่ให้อยู่ ถ้าเกิดขึ้นจริง ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน
เมื่อถามว่า อาจเป็นเพราะผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์หลายรายกดดัน ไม่ต้องการให้อยู่หรือไม่ นายศิริชัย กล่าวว่า จะมีใครเอา หรือไม่เอา ไม่ใช่ตรงนั้น นับตั้งแต่ตนมาเป็นประธานศาลอุทธรณ์ มีนโยบายช่วยกันประหยัดไฟฟ้า หลายคนบอกห้ามเปิดไฟ ห้ามอะไร มีคนบ่นกัน ทำให้เสีย แต่ตนเคยเป็น ก.ต. เก่า เป็นหัวหอกที่เอาคนทุจริตเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ระดับใหญ่ ๆ ทำให้เขาต้องออกไป
นายศิริชัย กล่าวด้วยว่า ก.ต. ไม่มีคนไหนบอกว่าตนทุจริต ไม่เคยทุจริต แต่ถ้าจะตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ไม่ขัดข้อง เพราะไม่มีสิทธิมีเสียงไปบอกว่า ตั้งหรือไม่ตั้ง อยู่ที่ ก.ต. ไม่สามารถลิขิตเองได้
ทั้งนี้ในช่วงแถลงข่าว นายศิริชัย อธิบายว่า นับตั้งแต่ถูกแต่งตั้งเป็นประธานศาลอุทธรณ์ เมื่อปี 2558 ได้ปรับปรุงแก้ไขการทำคดีให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ไม่มีคดีค้างเก่าข้ามปี นอกจากนี้ยังมีนโยบายประหยัดไฟฟ้า และประปา ทำให้ลดค่าใช้จ่ายของศาลอุทธรณ์ไปได้เยอะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2560 ที่ผ่านมา ก.ต. มีมติเอกฉันท์ไม่แต่งตั้งนายศิริชัย เป็นประธานศาลฎีกา เนื่องจากเป็นผู้ที่ไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งดังกล่าว แม้จะเป็นผู้ที่มีอาวุโสสูงสุดก็ตาม ทำให้สำนักงานศาลยุติธรรมจัดทำบัญชีเสนอชื่อข้าราชการตุลาการอาวุโสรองลงมาจากนายศิริชัย คือ นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกา โดยเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2560 ที่ผ่านมา ที่ประชุม ก.ต. มีมติเอกฉันท์เลือกนายชีพ เป็นประธานศาลฎีกาดังกล่าว
อ่านประกอบ :
อยู่ที่วาสนา! ‘ศิริชัย’เคารพมติ ก.ต.ไม่เลือกนั่ง ปธ.ศาลฎีกา ปัดฟ้องกลับ-ลาออก
‘ศิริชัย' ร้องขอความเป็นธรรม ปธ.ศาลฎีกา-เข้าชี้แจงก.ต.ปมถูกร้องเพิกถอนโอนสำนวน!
สนง.ศาลยุติธรรม ตั้งแท่นชงชื่อ 'ชีพ จุลมนต์' ปธ.ศาลฎีกาคนใหม่แล้ว
ระวัง! ซ้ำรอยวิกฤตตุลาการ เมื่อ อนุก.ต.ไม่เห็นชอบเสนอชื่อ'ศิริชัย วัฒนโยธิน' ปธ.ศาลฎีกา