กรมบัญชีกลางยังไม่รู้มือมืดใช้ช่องไหนล้วงข้อมูลระบบ e-bidding-ร่วมมือดีเอสไอสอบ
รองอธิบดีฯ-ผู้บริหารกรมบัญชีกลางเชิญ ‘อิศรา’ ชมห้องเซิร์ฟเวอร์ e-bidding ยันยังไม่รู้ช่องโหว่มือมืดล้วงข้อมูลจากระบบ ยันตอนประมูลผู้บริหาร-จนท.ส่วนราชการ-ส่วนกลาง ไม่สามารถดูได้ แต่พร้อมประสานดีเอสไอตรวจสอบแก้ไขปัญหาเต็มที่
จากกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขยายผลการสอบสวนจากการจับกุมผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการซื้อขายพาสเวิร์ดระบบการประมูลแบบ e-bidding ผ่านกรมบัญชีกลาง เบื้องต้นผู้ต้องหารายนี้ปฏิเสธ แต่ดีเอสไอยึดทรัพย์จำนวน 58 ล้านบาท เนื่องจากพบว่า อาจได้มาจากกระทำผิดดังกล่าว ขณะที่แหล่งข่าวจากหน่วยงานตรวจสอบแห่งหนึ่ง ยืนยันว่า มีผู้บริหารภายในกรมบัญชีกลางถือพาสเวิร์ดในการดูรายละเอียดตอนประมูล e-bidding อย่างน้อย 2 ราย และบริษัทที่เป็นผู้สร้างเครื่องเซิร์ฟเวอร์ e-bidding ให้กรมบัญชีกลางสามารถใช้พาสเวิร์ดได้
ก่อนหน้านี้นายพรชัย หาญยืนยงสกุล รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง พร้อมทีมงาน ชี้แจงสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ไม่มีผู้บริหารรายใดมีพาสเวิร์ดเพื่อดูการประมูล e-bidding และตอนประมูลไม่สามารถเข้าไปดูข้อมูลรายละเอียดได้ ทั้งนี้ที่ผ่านมากรมบัญชีกลางดำเนินการด้วยความโปร่งใส และยุติธรรม ส่วนบริษัทที่เป็นผู้สร้างเครื่องเซิร์ฟเวอร์ คือ บริษัท โปรเฟสชั่นนัล คอมพิวเตอร์ จำกัด หรือ PCC บริษัทในเครือ LOXLEY หรือบริษัท ล็อกซเลย์ จำกัด (มหาชน) จริง แต่ในการปรับปรุงแก้ไขปัญหาเครื่องเซิร์ฟเวอร์ จะใช้เป็นพาสเวิร์ดแยก และไม่สามารถเก็บไว้ได้ มีการเปลี่ยนใหม่ตลอดนั้น
(อ่านประกอบ : ผ่าปฏิบัติการซื้อขายพาสเวิร์ด e-bidding ดีเอสไอล่าตัว‘มือมืด’-กรมบัญชีกลางไม่รู้?, ดีเอสไอสาวลึกปมซื้อขายพาสเวิร์ด e-bidding ยึดแล้ว 58 ล.-กรมบัญชีกลางยันโปร่งใส)
เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2560 ที่ผ่านมา นายพรชัย หาญยืนยงสกุล พร้อมด้วยผู้บริหาร และคณะทำงานที่เกี่ยวข้องกับการทำระบบ e-bidding เชิญผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ไปที่กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เพื่อดูห้องคอนโทรล และห้องเซิร์ฟเวอร์ระบบ e-bidding ทั้งหมด
เบื้องต้น ทั้งสองห้องดังกล่าว มีการติดป้ายด้วยกระดาษเอสี่ไว้ชัดเจนว่า ห้ามเจ้าหน้าที่ทุกรายเข้าห้องคอนโทรล และห้องเซิร์ฟเวอร์ในช่วงเวลา 15.30-16.30 น. อย่างเด็ดขาด เนื่องจากเป็นช่วงที่เอกชนกำลังเสนอราคา e-bidding กันอยู่ และหากใครจะเข้าห้องเซิร์ฟเวอร์ หรือห้องคอนโทรลในช่วงเวลาอื่น จะต้องแลกกุญแจ และฝากมือถือ รวมถึงอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิดไว้กับเจ้าหน้าที่ และจะมีเจ้าหน้าที่จากกรมบัญชีกลางเข้าไปด้วยทุกครั้ง
ผู้สื่อข่าวขอถ่ายรูปห้องเซิร์ฟเวอร์ และห้องคอนโทรลดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ยืนยัน ไม่สามารถให้ถ่ายได้ เนื่องจากเป็นข้อมูลภายใน อาจทำให้บุคคลภายนอกล่วงรู้ระบบได้
เมื่อถามว่า ตกลงข้อเท็จจริงที่ดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบนั้น กรมบัญชีกลางทราบเรื่องหรือไม่ และระบบ e-bidding มีช่องโหว่ตรงไหนบ้าง นายพรชัย กล่าวว่า เบื้องต้นทราบข้อมูลแล้ว และอยู่ระหว่างให้คณะทำงาน รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวบรวมรายละเอียด ข้อมูลทุกอย่าง เพื่อดูว่าช่องโหว่ของระบบ e-bidding อยู่ตรงไหน พร้อมประสานข้อมูลกับดีเอสไอด้วยว่า มีข้อมูลอะไรบ้าง เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหานี้ แต่เบื้องต้นเท่าที่ตรวจสอบ ยังไม่เจอช่องโหว่ตรงนี้ แต่ยินดีนำข้อมูลที่สำนักข่าวอิศราเผยแพร่ และข้อมูลจากดีเอสไอ เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขปัญหาดังกล่าว
“ระบบเท่าที่เช็คตอนนี้ เวลาเปิดประมูล e-bidding ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ส่วนราชการที่เปิดประมูล เจ้าหน้าที่ภายในกรมบัญชีกลาง หรือแม้แต่บุคคลภายนอก ไม่สามารถเข้าไปดูการเสนอราคาของเอกชนได้เลย และยังไม่รู้ว่า ตอนนี้ระบบมีช่องโหว่ตรงไหน ถึงทำให้มีผู้ไม่หวังดีนำข้อมูลในระบบไปเผยแพร่ข้างนอกได้” นายพรชัย กล่าว
นายพรชัย กล่าวด้วยว่า ภายหลังกรมบัญชีกลางเปิดระบบ e-bidding นั้น ทำให้ลดภาระงบประมาณลงไปได้มากถึง 12-14% ซึ่งส่งผลดี และระบบนี้มีความรัดกุมค่อนข้างมาก เนื่องจากแทบไม่ต้องใช้กำลังคนในการเข้าไปดำเนินการ เป็นเรื่องของระบบคอมพิวเตอร์เกือบทั้งหมด ทำให้เชื่อได้ระดับหนึ่งว่า เมื่อไม่มีคนเข้าไปเกี่ยวข้องมาก ปัญหาจะไม่ค่อยมี แต่ในเมื่อเกิดปัญหาที่ดีเอสไอกำลังตรวจสอบ ก็พร้อมให้คณะทำงาน และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องแก้ไข
อ่านประกอบ :
บ.ลูก‘ล็อกซเลย์’ผู้ทำระบบ e-bidding-กรมบัญชีกลางยันไม่มี‘บิ๊ก’ถือพาสเวิร์ด
กรมบัญชีกลางใกล้สรุปผลสอบคนพันซื้อขายพาสเวิร์ด e-bidding-รองอธิบดียันโปร่งใส
หมายเหตุ : ภาพประกอบคีย์บอร์ดจาก hubspot.net