"ประวิตร"สั่งตั้งกรรมการสอบ 4 โครงการฉาว ศอ.บต.

เขียนวันที่

วันพุธ ที่ 05 กรกฎาคม 2560 เวลา 21:58 น.

เขียนโดย

ศูนย์ข่าวภาคใต้

หมวดหมู่

เรื่องเด่น-ภาคใต้ | ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้ | ข่าว | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา

Tags

การเปิดประเด็นปัญหาการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ซึ่ง "ทีมข่าวอิศรา" นำเสนอมาอย่างต่อเนื่องนั้น ล่าสุดมีความคืบหน้าเกิดขึ้นแล้ว เมื่อรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทุกโครงการที่เป็นปัญหา และได้รับการร้องเรียนจากประชาชน

ex2

โครงการก่อสร้างและจัดซื้อจัดจ้างที่ถูกตั้งเป็นประเด็นสอบสวนตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 166/2560 ประกอบด้วย โครงการติดตั้งเสาไฟและโคมไฟส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์เซลล์ จำนวน 16,404 ชุด รวม 6 สัญญา งบประมาณกว่า 931 ล้านบาท ซึ่งประชาชนร้องเรียนว่าชำรุดเสียหายจำนวนมาก และการจัดจ้างเอกชนมาทำสัญญา รวมทั้งการซ่อมแซม อาจเอื้อเอกชนบางรายที่ไม่มีศักยภาพดำเนินโครงการได้ หรือไม่มีประสบการณ์

โครงการปรับภูมิทัศน์มัสยิด 300 ปีที่อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งไปทำสัญญาว่าจ้างผู้รับเหมาที่ไม่สามารถทำโครงการได้ มารับงาน งก็คือบริษัทที่ล้มละลายแล้ว

โครงการปรับปรุงอาคารสำนักงาน ศอ.บต. ซึ่งมีการไปซื้อโรงแรมร้าง "ชางลี" มาปรับปรุง จนถูกตั้งคำถามเรื่องความคุ้มค่าในการใช้งบประมาณ

และโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอล 1 ตำบล 1 สนาม ที่พังเสียหาย และถูกทิ้งร้าง ไม่มีการซ่อมแซม

ทั้ง 4 โครงการดังกล่าว มีประชาชนร้องเรียนถึงความเดือดร้อน เพราะใช้งานไม่ได้ตามวัตถุประสงค์ ทั้งยังเป็นการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 หรือกฎระเบียบของทางราชการ ส่งผลให้การบริหารราชการแผ่นดินไม่มีประสิทธิภาพ และไม่สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนได้อย่างแท้จริง

ในการนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีการดำเนินงานโครงการของ ศอ.บต. กรรมการมีทั้งหมด 7 คน ประกอบด้วย นายจิรชัย มูลทองโร่ย เป็นประธาน พล.อ.จำลอง คุณสงค์ อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 4 พล.อ.สสิน ทองภักดี นายสมเกียรติ ศรีประเสริฐ และ นายอิสระ ศิริวรภา เป็นกรรมการ นายวิริยะ รามสมภพ เป็นกรรมการและเลขาธิการ และ พล.ต.ภราดร จินดาลัทธ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ โดยให้ทำการสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน แล้วรายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อรองนายกรัฐมนตรี

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ได้เกิดกระแสข่าวลือในกลุ่มบุคลากรภายใน ศอ.บต.เอง และบุคคลภายนอกว่า อาจจะมีการยุบ ศอ.บต. จนทำให้ทาง ศอ.บต.ต้องชี้แจงเรื่องนี้ผ่านทางกลุ่มไลน์ "สายด่วน 1880" ซึ่งเป็นไลน์กลุ่มประชาสัมพันธ์ข่าวสารของ ศอ.บต. โดยขอให้บุคลากรทุกคนอย่าหลงเชื่อข่าวลือดังกล่าว และให้ปฏิบัติงานในหน้าที่โดยปกติ และย้ำอีกว่า ทาง ศอ.บต.ยังได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้