เผย3ชื่อม.ดัง! รับงานที่ปรึกษารัฐ เกษตรฯ มากสุด3พันล.-อธิการฯมธ.ยันกม.รองรับ
เผยข้อมูลสำนวนสอบ สตง. ชง'บิ๊กตู่'สั่งชะลอมหาลัยฯรับงานที่ปรึกษา1.4หมื่นล.! พบชื่อ3 ม.ดัง รับงานมากสุดระดับพันล้าน ม.เกษตรฯ เบอร์หนึ่ง 3 พันล. -ธรรมศาสตร์ 1.2 พันล.- ม.เชียงใหม่ จี้ติด 1.04 พันล. อธิการฯมธ.ยันกม.รองรับ โปร่งใส ไร้ทุจริต
จากกรณีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรื่อง การศึกษาปัญหามหาวิทยาลัยรัฐแย่งงานเอกชน ระบุสาระสำคัญว่า สตง. ได้รับการร้องเรียนจากเอกชนในเรื่องข้างต้น จึงได้ศึกษาปัญหาดังกล่าว ซึ่งสรุปได้ว่า มหาวิทยาลัยรัฐ ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมโดยไม่มีใบอนุญาตวิศวกรควบคุม และการรับงานที่ปรึกษาของมหาวิทยาลัยรัฐ อาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติของอาจารย์ โดยเฉพาะการสอน ซึ่งไม่เป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และมหาวิทยาลัยบางแห่งไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นที่ปรึกษาไทยกับกระทรวงการคลัง ซึ่งไม่เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกฯ ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
พร้อมระบุว่า จากการตรวจสอบข้อมูลกรณีมหาวิทยาลัยของรัฐ หลายแห่งเข้าไปรับงานเป็นที่ปรึกษา นับตั้งแต่ปี 2555-2559 พบว่า มีจำนวนรวม 4,219 โครงการ วงเงินตามสัญญา 14,027.14 ล้านบาท
ขณะที่ข้อมูลการขึ้นทะเบียนการเป็นที่ปรึกษาไทยกับกระทรวงการคลัง ด้วยว่า ในระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ระหว่างปีงบประมาณ 2555-2559 มีมหาวิทยาลัยรัฐที่รับงานที่ปรึกษาโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนฯ จำนวน 18 แห่ง รวมจำนวน 200 โครงการ คิดเป็นวงเงิน 334.46 ล้านบาท
และขอให้นายกฯ พิจารณาสั่งการให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐชะลอการว่าจ้างมหาวิทยาลัยรัฐที่อาจเข้าข่ายประกอบวิชาชีพวิศวกรรม โดยในการว่าจ้างเป็นที่ปรึกษาให้ปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกฯ ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยเฉพาะการตรวจสอบการขึ้นทะเบียนที่ปรึกษาไทย และ โปรดแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้ สตง. ทราบ เพื่อประกอบการตรวจสอบตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2542 ต่อไป
(อ่านประกอบ : สตง.ชง บิ๊กตู่ เคลียร์ปมเอกชนร้องม.รัฐ แย่งงานวิศวะฯ-ที่ปรึกษา!ไม่มีใบอนุญาต, สตง.โชว์ตัวเลขม.รัฐ รับงานที่ปรึกษา1.4หมื่นล.! ชงบิ๊กตู่ ชะลอ ชี้กระทบการสอน-ขัดมติครม.)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวใน สตง. ว่า กรณีการตรวจสอบข้อมูลพบว่านับตั้งแต่ปี 2555-2559 มีมหาวิทยาลัยของรัฐ หลายแห่งเข้าไปรับงานเป็นที่ปรึกษา จำนวนรวม 4,219 โครงการ วงเงินตามสัญญา 14,027.14 ล้านบาท นั้น ในข้อเท็จจริงมหาวิทยาลัยที่ปรากฎชื่อเข้าไปรับงานเป็นที่ปรึกษาของหน่วยงานรัฐดังกล่าว มีทั้งมหาวิทยาลัยรัฐ และมหาวิทยาลัยเอกชน รวมจำนวน 90 แห่ง
ทั้งนี้ สำหรับรายชื่อมหาวิทยาลัย ที่ได้รับงานที่ปรึกษา รวมวงเงินเกิน1,000 ล้านบาท ขึ้นไป มีจำนวน 3 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
โดย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับงานรวมวงเงินมากที่สุด จำนวน 3,063,428,569 บาท จากจำนวนโครงการทั้งสิ้น 629 โครงการ ตามมาด้วย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จำนวน 1,202,898,736 บาท จากจำนวนโครงการทั้งสิ้น 300 โครงการ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จำนวน 1,049,778,995 บาท จากจำนวนโครงการทั้งสิ้น 298 โครงการ
"ปัจจุบัน สตง.อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลขั้นตอนการเข้าไปรับงานที่ปรึกษาของมหาวิทยาลัยทั้ง 90 แห่งนี้ด้วย" แหล่งข่าว สตง.ระบุ
ขณะที่ ศาสตราจารย์ ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวชี้แจงว่า 1. มหาวิทยาลัยมีอำนาจที่จะทำวิจัยและให้คำปรึกษาอย่างถูกต้องเพราะพ.ร.บ. ของมหาวิทยาลัยทั้งหลายระบุชัดเจนว่าเป็นหน้าที่ของมหาวิทยาลัยที่ต้องทำ การไม่ทำจะเป็นเรื่องแปลกประหลาดของมหาวิทยาลัยมาก
2. นโยบายของรัฐบาลชัดเจนว่าจะให้มหาวิทยาลัยช่วยเป็นมันสมองให้กับหน่วยงานต่างๆเพื่อให้ประเทศไทยพัฒนาไปสู่ระบบ 4.0
3. เงินวิจัย ให้คำปรึกษาทั้งหลายของมหาวิทยาลัยจะต้องนำส่งเป็นรายได้ของมหาวิทยาลัยตามอัตราที่มหาวิทยาลัยกำหนด
4. การรับงานด้านวิศวกรรมนั้น ผู้รับงานจะต้องเป็นผู้มีใบอนุญาตของสภาวิศวกร ถูกต้องตามกม. ทุกอย่าง
5. การรับงานของมหาวิทยาลัย ต้องขึ้นทะเบียนหน่วยงานทำวิจัยกับกระทรวงการคลังจึงจะรับงานจากส่วนราชการได้
6. ตามกฎหมายของสภาวิศวกร คนรับงานต้องเป็นคนที่ขึ้นทะเบียนและมีใบอนุญาตจากสภา จะเป็นองค์กรไม่ได้
7. ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการทุจริตเลย
8. งานวิจัยจำนวนมากถูกนำไปจัดทำเป็นกฎหมาย เป็นแนวทางพัฒนาองค์กร ปรับปรุงประสิทธิภาพขององค์กรต่างๆมากมาย
9. ทุกวันนี้หน่วยวิจัยโดยตรงของรัฐทำวิจัยไม่ได้ ต้องมาพึ่งคนมหาวิทยาลัยทำ งานวิจัยในประเทศไทย 85% จึงออกมาจากมหาวิทยาลัย