อดีต ส.ส.-บิ๊ก รพช. ใช้บัญชี ‘ประวิทย์’ โอนเงิน ‘ซื้อที่ดิน-ดาวน์รถ-เช่าพระเครื่อง’
พลิกคำให้การ ‘ประวิทย์’เจ้าของบัญชีเงินฝาก คดีซื้อขายเก้าอี้ รพช. ฉบับ ป.ป.ช. ยันรู้จัก ขรก.นับสิบ - กรณี 5 แสนจาก จ.หนองคาย ค่าเช่าพระเครื่อง -6.5 ล.สกลฯ อดีต ส.ส.กาฬสินธุ์ใช้บริการด้วย ดาวน์รถ ซื้อที่ดินก็มี
คดีการซื้อขายตำแหน่งในสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท (รพช.) นายประสิทธิ์ วิไลลักษณ์ กล่าวหาว่า โอนเงินให้ผู้บริหาร รพช. ผ่านบัญชีธนาคารกสิกรไทยสาขาถนนมหาไชย เลขที่ 037-2-048xxx ของ นายกิมหงวน แซ่ลิ้ม หรือ นายประวิทย์ อริยกานนท์ เจ้าของร้านขายเครื่องจักรกล เอี่ยมแสงยนต์ ย่านมหาจักร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ จำนวน 5 ครั้ง ประมาณ 18 ล้านบาท (ไม่รวมเงินสด 3 ครั้ง 10 ล้านบาท รวมทั้งหมดประมาณ 28 ล้านบาท) ในช่วงปี 2538-2540 และอ้างว่า มีข้าราชการ รพช. อีกหลายรายโอนเงินผ่านนายประวิทย์ด้วยเหมือนกัน (อ่านประกอบ : ขมวด 5 ขรก. โอนเงินเข้าบัญชี 'เจ้าของร้านเครื่องจักรกล' 27.4 ล. คดี รพช.)
ขณะที่ นายประวิทย์ ชี้แจงกับสำนักข่าวอิศราเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2559 สรุปสาระสำคัญ คือ
1.ยอมรับว่า ให้นายประสิทธิ์ใช้บัญชีเงินฝากธนาคารจริง เนื่องจาก รู้จักมักคุ้นกับนายประสิทธิ์ และข้าราชการ รพช.หลายคน เพราะทำธุรกิจขายเครื่องจักร เครื่องมือให้แก่ รพช. มาตั้งแต่ปี 2510
2.เมื่อนายประสิทธิ์ และข้าราชการโอนเงินเข้าบัญชีแล้ว และเดินทางเข้ามากรุงเทพฯ ก็จะมารับเงินจากนายประวิทย์ไปทั้งหมด ส่วนข้าราชการดังกล่าวจะนำไปให้ใครหรือใช้ประโยชน์ได้ นั้น ไม่ทราบได้
3.นายประวิทย์ และบุตรชาย ไม่เคยเอาเงินดังกล่าวไปให้ข้าราชการผู้ใหญ่ใน รพช. หรือเพื่อซื้อขายตำแหน่งใน รพช. แต่อย่างใด
(อ่านประกอบ : เปิดบทสัมภาษณ์ 'ประวิทย์' เจ้าของบัญชีเงินฝากคดี รพช. "ผมไม่ได้รวยพันล้าน")
เพื่อให้เห็นข้อมูลอย่างรอบด้าน สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สรุปสาระสำคัฐในคำให้การของนายประวิทย์ในชั้นอนุกรรมการไต่สวนของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 22 ก.ค.2546 ส่วนหนึ่งมาเสนอ
@รู้จัก ขรก.รพช. นับสิบ
นายประวิทย์ ให้การว่า ประกอบอาชีพจำหน่ายอะไหล่เครื่องจักรกลหนักและเบา โดยเป็นเจ้าของร้านเอี่ยมแสงยนต์มาตั้งแต่ปี 2510 กระทั่งปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะขายสินค้าให้แก่หน่วยราชการ คือ รพช.เดิม โดยครั้งแรกขายให้แก่ รพช.จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อปี 2512 มีโกดังเก็บสินค้าอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 มีบุตร 4 คน คือ นายสง่า นายศราวุธ นายวีรชาติ และนายเกียรติศักดิ์ อริยกานนท์ สำหรับ นายศราวุธ อริยกานนท์ แต่งงานกับบุตรสาวนายจงรักษ์ สกุลคู เจ้าหน้าที่ รพช.
นายประวิทย์ ให้การว่า รู้จักกับเจ้าหน้าที่ รพช. เท่าที่จำได้มี นายสงวนศักดิ์ เหล่าสิทธิสุข ,นายจงรักษ์ สกุลคู ,นายประดิษฐ์ วิไลลักษณ์ ,นายปรีชาชาติ เจริญพิบูลย์ ,นายวรพจน์ ธีรอำพน ,นางสมใจ เทศประสิทธิ์ ,นายบุญส่ง วิจักษณบุญ ,นายมนัส ซึ่งเจริญยิ่ง ,นายสอดา ใจเพชร์ ,นายปรีชา โพธิหัง ,นายวีรวงศ์ สงวนหงษ์ ,นายปัญญา หลักเมือง ,นายชัยพันธ์ หอมวิเศษวงศา ,นางบุญสม หอมวิเศษวงศา และนายประสิทธิ์ วิไลลักษณ์
ส่วน นายวีระพงษ์ แสงศิลา ,นายไพฑูรย์ ศรีอรรคจันทร์ ,นายพิสิฐ กาญจนเตชะ หรือคำน้อย ,นายไพรินทร์ ปิตะโพธิ์ ,นายประภาส นาคประกอบ ,นายเดชา พลกล้า ,นายจั่ว หาญห้าว รวม 7 คน ไม่แน่ใจว่า จะเคยรู้จักมาก่อนหรือไม่ เพราะมีข้าราชการ รพช. ที่เคยติดต่อซื้อขายสินค้าเป็นจำนวนมาก
@ จนท.รพช.สกลนคร-อดีต ส.ส.กาฬสินธุ์ ใช้บริการ 6.5 ล้าน
กรณีใบโอนเงินของธนาคารกสิกรไทย สาขาสกลนคร จำนวน 1 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2539 เข้าบัญชี นายประวิทย์ ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนมหาไชย
กรณีใบโอนเงินของธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนมิตรภาพ จำนวน 1 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2540 เข้าบัญชี นายประวิทย์ ที่ ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนมหาไชย
กรณีใบโอนเงินของธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนมิตรภาพ จำนวน 1 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2539 เข้าบัญชี นายประวิทย์ ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนมหาไชย
กรณีใบโอนเงินของธนาคารกสิกรไทย สาขาสกลนคร จำนวน 2 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2538 เข้าบัญชี นายประวิทย์ ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนมหาไชย
กรณีใบโอนเงินของธนาคารกสิกรไทย สาขาสกลนคร จำนวน 1.5 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2538 เข้าบัญชี นายประวิทย์ ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนมหาไชย
รวม 5 รายการ เป็นเงิน 6,500,000 บาท ใครเป็นผู้โอน และค่าอะไร ?
นายประวิทย์ ให้การว่า เงินโอนทั้ง 5 รายการ รวม 6,500,000 บาท เป็นเงินที่ นายสงวนศักดิ์ เหล่าสิทธิสุข (อดีต ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการ รพช. สกลนคร คนแรก) โอนมาเข้าบัญชีของนายประวิทย์ ก่อนที่จะโอนเงินทั้ง 5 รายการดังกล่าว นายสงวนศักดิ์ได้โทรศัพท์มาแจ้งให้ทราบว่า จะขอโอนเงินมาเข้ามาบัญชีนายประวิทย์ หลังจากนั้น ก็จะเดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อขอเบิกเงินดังกล่าวคืน เหตุที่ทำเช่นนี้เพราะ นายสงวนศักดิ์บอกว่า ไม่ต้องการนำเงินสดติดตัวมา โดยเกรงว่าจะมีอันตราย การโอนเงินดังกล่าวมิใช่เพื่อชำระหนี้ หรือทำการค้าขายร่วมกัน ในบางครั้ง นายพิชัย (นายประวิทย์ให้การว่าจำนามสกุลไม่ได้) ซึ่งเป็น ส.ส.จังหวัดกาฬสินธุ์ และเป็นคู่เขยของนายสงวนศักดิ์ (ถึงแก่กรรมแล้ว) เป็นผู้มารับเงินคืนจากนายประวิทย์ ก่อนที่นายพิชัย หรือนายสงวนศักดิ์จะมาขอรับเงินคืน จะโทรศัพท์แจ้งให้นายประวิทย์ทราบล่วงหน้า 1 วัน นายประวิทย์จะเขียนเช็คให้บุตรชายไปเบิกเงินมาเก็บไว้ก่อน เพื่อคืนให้ในวันถัดไป ส่วนจะให้บุตรชายคนใดไปเบิกเงิน นั้น จำไม่ได้
@ 5 แสนจาก จ.หนองคาย ‘ค่าเช่าพระเครื่อง’
คณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. ให้ตรวจดูกรณี ใบโอนเงินของธนาคารกสิกรไทย สาขาหนองคาย จำนวน 500,000 บาท เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2540 เข้าบัญชี นายประวิทย์ ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนมหาไชย ใครเป็นผู้โอน และค่าอะไร ?
นายประวิทย์ ให้การว่า เป็นเงินของ นายจงรักษ์ สกุลคู (อดีต รพช.หนองคาย) ได้โอนมาเพื่อชำระเงินค่าเช่าพระเครื่องที่นายจงรักษ์ได้เช่าไป แต่ยังไม่ได้ชำระเงิน (กรณีนี้นายประวิทย์ชี้แจงกับสำนักข่าวอิศราว่า เป็นค่าเช่าพระเครื่อง หลวงปู่ทวด จำนวน 2 องค์) โดย นายประวิทย์ได้รับรองกับผู้ขายพระเครื่องไว้ เมื่อนายจงรักษ์โอนเงินมา นายประวิทย์ก็ถอนเงินและไปชำระค่าเช่าพระ ส่วนหนึ่งจำจำนวนไม่ได้ ส่วนเงินที่เหลือให้กับบุตรสาวของนายจงรักษ์ ชื่อเล่น ‘กระต่าย’ ซึ่งต่อมา เป็นลูกสะใภ้ของนายประวิทย์
@ 4.5 ล้าน ‘เงินยืม-ร่วมหุ้นซื้อที่ดิน’
กรณีใบโอนเงินของธนาคารกสิกรไทย สาขาสกลนคร จำนวน 4.5 ล้านบาท เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2540 เข้าบัญชี นายประวิทย์ ที่ ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนมหาไชย ใครเป็นผู้โอน และค่าอะไร ?
นายประวิทย์ ให้การว่า เป็นเงินที่ นายปรีชาชาติ เจริญพิบูลย์ (อดีต ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการ รพช. สกลนคร คนที่สอง) โอนเพื่อชำระหนี้ที่นายปรีชาชาติยืมส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งเป็นเงินร่วมลงทุนซื้อที่ดิน
@ อีก 3 ล้าน ‘จำไม่ได้’
คณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. ให้นายประวิทย์ตรวจดู กรณีใบโอนเงินของธนาคารกสิกรไทย จำนวน 2 ฉบับ ฉบับแรก จำนวน 1 ล้านบาท โอนเข้ามาบัญชีนายประวิทย์เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2540 ฉบับที่สองจำนวน 3 ล้านบาท โอนเข้ามาบัญชีนายประวิทย์เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2540 ใครเป็นผู้โอน และค่าอะไร ?
นายประวิทย์ ให้การว่าเป็นเงินที่ นายปรีชาชาติ เจริญพิบูลย์ โอนให้ แต่เพื่ออะไร นั้น จำไม่ได้ เนื่องจาก นานมากแล้ว และนายปรีชาชาติจะมาเบิกเงินคืนไปแล้วหรือไม่ จำไม่ได้
@ 1.5 ล้าน จาก จนท. ชื่อ ‘บุญส่ง’ จำไม่ได้ ‘ค่าอะไร’
คณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. ให้นายประวิทย์ตรวจดู กรณีใบโอนเงินของธนาคารกสิกรไทย สาขาสกลนคร จำนวน 1,500,000 บาท เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2540 เข้าบัญชีของนายประวิทย์ เป็นค่าอะไร และใครเป็นผู้โอน
นายประวิทย์ให้การว่า ดูจากเอกสารมีชื่อ นายบุญส่ง ไม่ระบุนามสกุล เป็นผู้โอนเงินมาเข้าบัญชี แต่จำไม่ได้ว่าเป็นเงินของผู้ใด และเหตุใดจึงโอนเงินมา ส่วนนายบุญส่งผู้โอนเป็นใคร นั้น ไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจาก ไม่ได้ระบุนามสกุลไว้ แต่อาจจะเป็น นายบุญส่ง วิจักษณบุญ เจ้าหน้าที่ รพช. ที่ทำหน้าที่บริหารก็ได้
@ 5 แสน จากศรีสะเกษ ‘ค่าดาวน์รถยนต์’
คณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. ให้นายประวิทย์ตรวจดู กรณีใบโอนเงินของธนาคารกสิกรไทย สาขาศรีสะเกษ จำนวน 500,000 บาท มาเข้าบัญชีของนายประวิทย์ เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2540 เป็นเงินของผู้ใด และเป็นค่าอะไร ?
นายประวิทย์ ให้การว่า นายสอาด ใจเพ็ชร์ เป็นผู้โอนเงินให้ เพื่อให้นายประวิทย์เบิกไปดาวน์รถยนต์ที่นายสอาด ตกลงซื้อไว้
@ 5.5 แสน ชำระหนี้ค่าซื้อที่ดินเมืองจันท์
คณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. ให้นายประวิทย์ตรวจดู ใบโอนเงินของธนาคารกสิกรไทย สาขาสกลนคร จำนวน 550,000 บาท เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2539 เข้าบัญชีของนายประวิทย์ เป็นเงินของผู้ใด และเป็นค่าอะไร ?
นายประวิทย์ ให้การว่าเป็นเงินที่ นายปรีชา โพธิหัง โอนเข้ามาให้นายประวิทย์เพื่อชำระหนี้เกี่ยวกับการร่วมกันซื้อที่ดินที่ จ.จันทบุรี
@ ป.ป.ช. สรุป แค่ยืมบัญชีโอนเงิน
ในรายงานผลไต่สวนของ ป.ป.ช. สรุปคำให้การของนายประวิทย์ ว่า นายประวิทย์ ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อคณะอนุกรรมการฯ ด้วยวาจา เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2547 และชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเป็นหนังสือลงวันที่ 1 เม.ย. 2547 สรุปได้ว่า นายประวิทย์ รู้จักกับ นายทวี ทวีวงศ์ (อดีตผู้อำนวยการกองเจ้าหน้าที่ รพช.) มานานหลายปี และรู้จักกับข้าราชการ รพช. ในต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก รวมทั้ง นายประสิทธิ์ วิไลลักษณ์ ซึ่งเป็นข้าราชการผู้ใหญ่ และรู้จักมาเป็นเวลานาน ได้เคยขอใช้บัญชีเงินฝากธนาคารของนายประวิทย์ เพื่อโอนเงินจำนวนหลายครั้ง แล้วมาขอรับเงินสดด้วยตนเองในภายหลัง เหมือนกับข้าราชการอื่น ๆ นายประวิทย์ไม่เคยได้รับแจ้งจากผู้ใดที่โอนเงินมาเข้าบัญชีให้เบิกเงินไปให้นายทวี ไม่เคยเบิกเงิน และรับฝากเงินเพื่อนำไปให้นายทวี
สำหรับ เงินที่นายประสิทธิ์ โอนเข้าบัญชีของนายประวิทย์ โดย เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2538 จำนวน 2 ล้านบาท เมื่อ 17 พ.ย. 2538 จำนวน 1 ล้านบาท เมื่อ 22 มี.ค. 2539 จำนวน 7 ล้านบาท เมื่อ 7 พ.ค. 2539 จำนวน 5 ล้านบาท และเมื่อ 1 ต.ค. 2539 จำนวน 3 ล้านบาท นั้น เมื่อโอนเงินหรือนำแคชเชียร์เช็คเข้าบัญชีแล้ว หลังจากนั้น นายประสิทธิ์ ก็มาขอรับเงินสดไปด้วยตนเอง
ส่วนกรณีที่นายประวิทย์ฯ สั่งจ่ายเช็คธนาคารกสิกรไทยฯ ลงวันที่ 11 ก.ย. 2540 จำนวน 1 ล้านบาท และเช็คลงวันที่ 3 ต.ค. 2540 จำนวน 1 ล้านบาท และเช็คดังกล่าวได้นำเข้าฝากบัญชีเงินฝากของนายทวี ทวีวงศ์ ที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาฯ สาขาสามยอด นั้น เป็นเงินของนายทวี ที่นายประวิทย์ฯ ได้ขอให้นายทวี ช่วยเปิดบัญชีเงินฝากที่ ธ.กรุงศรีอยุธยาฯ สาขาสามยอด เพื่อเป็นผลงานในการหาเงินฝากเข้าธนาคารให้แก่ นางศิริพร สมนิล พนักงานของธนาคารดังกล่าว ซึ่งเป็นภรรยาของนายวุฒิชัย สมนิล เพื่อนของนายสง่า อริยกานนท์ บุตรชายของนายประวิทย์ฯ โดยนายทวี ได้ช่วยเหลือเปิดบัญชีให้ และหลังจากนั้น นางศิริพร ได้มาขอร้องให้นายประวิทย์ เพิ่มยอดเงินฝากอีก นายทวี จึงนำเงินสดจำนวนครั้งละ 1 ล้านบาท จำนวน 2 ครั้ง มาให้นายประวิทย์ แล้วนายประวิทย์ฯ จึงเรียกให้นางศิริพร มารับเช็คเงินจำนวนดังกล่าวทั้ง 2 ครั้ง เพื่อนำไปเข้าบัญชีของนายทวี
กรณีที่นายประวิทย์ถูกนายประสิทธิ์ร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.กล่าวหาร่วมกันซื้อขายตำแหน่ง ข้าราชการ รพช. นั้น ข้อกล่าวหานี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยกคำร้องนายทวี และ นายประวิทย์ ส่วนข้อกล่าวหาเรียกเงิน 3 ล้านบาทเพื่อช่วยให้นายประสิทธิ์ ไม่ต้องถูกย้ายเข้าส่วนกลาง (กรณีรับเงินสด 3 ล้านบาท) ป.ป.ช.ชี้มูลนายทวี แต่ยกคำร้องนายประวิทย์ ซึ่งต่อมานายทวีถูกศาลสั่งจำคุก
แต่กรณีล่าสุด ที่ นายประสิทธิ์ ฟ้อง นายทวีเป็นคดีต่อศาลจังหวัดขอนแก่นเมื่อเดือน ก.ย. 2559 พ่วงนายประวิทย์ และบุตรชาย 1 คนเป็นจำเลยด้วย (กรณีโอนเงินเข้าบัญชีนายประวิทย์ 1 ต.ค. 2539 จำนวน 3 ล้านบาท) ตอนนี้ทั้งสามคนยังเป็นผู้บริสุทธิ์ นายประวิทย์ชี้แจงกับสำนักข่าวอิศราว่า "ไม่เข้าใจ ทำไมต้องมาฟ้องด้วย และคงคิดว่าผมมีเงิน แท้ที่จริงแล้ว ผมไม่มี"
ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงกันต่อไป
อ่านประกอบ :
เปิดบทสัมภาษณ์ 'ประวิทย์' เจ้าของบัญชีเงินฝากคดี รพช. "ผมไม่ได้รวยพันล้าน"
เปิดคำให้การ อดีต ผอ. รพช. รับเช็ค 2 ล. ‘ช่วยเมียลูกชายเพื่อนทำยอดเงินฝาก’
ขมวด 5 ขรก. โอนเงินเข้าบัญชี 'เจ้าของร้านเครื่องจักรกล' 27.4 ล. คดี รพช.
คำให้การ'เฉลิม-ชัยสิทธิ์'คดีซื้อขายเก้าอี้ รพช.-ปัดเปิด ร.ร.สั่งลูกน้องส่งหัวคิว 2%
ไทม์ไลน์ชัดๆ คดีเรียกรับ 3 ล. บิ๊ก รพช. 13 ปีในมือ ป.ป.ช.-ขาดอายุความ 1 ข้อหา
อดีตซี 9 ฟ้อง ผอ.รพช. อีกคดี!เรียกรับ 3 ล.- นักธุรกิจแจงแค่ยืมบัญชีโอนเงิน
เบื้องหลังจ่าย 3 ล.! คำให้การ ซี 8 “นายให้นโยบายต้องจัดส่งค่าบริหารงาน 1%”
พบอีก 2 ขรก. โผล่โอนเงินเข้าบัญชี'เสี่ย ป.'ใกล้ชิดบิ๊ก รพช. 3 ล. 'ไม่รู้ค่าอะไร'
เปิดใบโอนเงิน 3 ล้าน คดีสินบน รพช.
คำให้การลึก! คดีซื้อขายเก้าอี้ รพช. คนเดียวจ่ายยิบให้ ‘บิ๊ก’ 8 ครั้ง 28 ล้าน
เปิดพฤติการณ์คดีสินบน 3 ล. ซี 9 รพช. เบิกเงินสดจากแบงก์ไปจ่ายถึงห้องทำงาน
ศาลสั่งจำคุก 6 ปี ซี 9 รพช.รับเงินสด 3 ล.ค่าซื้อเก้าอี้ ผอ.ศูนย์ขอนแก่น ไม่ให้ถูกย้าย