logo isranews

logo small 2

เปิดคำให้การ อดีต ผอ. รพช. รับเช็ค 2 ล. ‘ช่วยเมียลูกชายเพื่อนทำยอดเงินฝาก’

เขียนวันที่
วันศุกร์ ที่ 02 ธันวาคม 2559 เวลา 20:30 น.
เขียนโดย
isranews

พลิกคำให้การในชั้น ป.ป.ช. อดีต ผอ.กองการเจ้าหน้าที่ รพช. คดีขายตำแหน่ง-ช่วยเหลือซี 9 ไม่ต้องถูกย้ายเข้าส่วนกลาง แจงยิบถูกคู่กรณีแกล้ง ส่วนปมรับเช็คจาก‘ประวิทย์’เจ้าของร้านเครื่องจักร 2 ล. ช่วยเมียลูกชายเพื่อนทำยอดเงินฝาก รอพิสูจน์อีกคดี

picmnoddddddd

คดีเรียกรับเงินเพื่อโยกย้ายข้าราชการในสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท (รพช.) ที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานอย่างต่อเนื่อง นายทวี ทวีวงศ์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์เร่งรัดพัฒนาชนบทสกลนคร รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการกองเจ้าหน้าที่ (ระดับ 9) ถูก นายประสิทธิ์ วิไลลักษณ์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์เร่งรัดพัฒนาชนบทขอนแก่น (ระดับ 9) ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อปี 2543 จ่ายเงินให้นายทวี รวม 8 ครั้ง 28 ล้านบาท ในจำนวนนี้อ้างว่า โอนเงินผ่านบัญชีเงินฝากนายประวิทย์ อริยกานนท์ เจ้าของร้านขายเครื่องจักรกล 5 ครั้ง รวม 18 ล้านบาท

ครานี้มาดูคำให้การชี้แจงข้อกล่าวหาของนายทวีต่อ ป.ป.ช.

นายทวี ทวีวงศ์ ชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการฯ ด้วยวาจาเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2547 และชี้แจงเป็นหนังสือลงวันที่ 31 มีนาคม 2547 สรุปสาระสำคัญดังนี้

@ยันไม่เคยเรียกรับเงิน

การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและลูกจ้างประจำของสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท ต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารงานบุคคลของสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท (ก่อนเปลี่ยนเป็นกรมการเร่งรัดพัฒนาชนบท) ไม่มีการเสนอให้เลขาธิการสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท (อธิบดี) พิจารณาก่อนแต่อย่างใดและหากเป็นการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 8 จะต้องเสนอเลขาธิการฯ (อธิบดี) ขอความเห็นชอบจากปลัดกระทรวงมหาดไทยก่อน

สำหรับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 9 ขึ้นไป จะต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารงานบุคคลของกระทรวงมหาดไทยก่อน แล้วกระทรวงมหาดไทยจึงจะมีคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายต่อไป นายทวีฯ ไม่เคยเรียกรับเงินจากนายประสิทธิ์ วิไลลักษณ์ และไม่เคยได้รับเงินที่นายประสิทธิ์ฯ อ้างว่านำมามอบให้ที่กองการเจ้าหน้าที่ หรือโอนเข้าบัญชีของนายประวิทย์ อริยกานนท์ แต่อย่างใด บุคคลที่ระบุว่าเป็นผู้รับเงินจากนายประสิทธิ์ฯ และนำไปโอนผ่านธนาคารเข้าบัญชีของนายประวิทย์ฯ นั้น ล้วนเป็นคนสนิทหรือลูกน้องของนายประสิทธิ์ฯ

@รับเช็ค 2 ล้าน!อ้างช่วย ‘เมีย’ลูกเพื่อน‘ประวิทย์’ ทำยอดเงินฝาก

ส่วนเงินที่นายทวีฯ ได้รับจากเช็คสั่งจ่ายโดยนายประวิทย์ฯ จำนวน 2 ฉบับ และนำเข้าบัญชีเงินฝากที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาฯ สาขาสามยอด จำนวน 2,000,000 บาท นั้น เป็นเงินของนายทวีฯ เอง ที่ได้รับการร้องขอจากนายประวิทย์ฯ ให้ช่วยเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารกรุงศรีอยุธยาฯ สาขาสามยอด และช่วยฝากเงินเพื่อทำยอดเงินฝากให้แก่นางศิริพร สมนิล ภรรยานายวุฒิชัย สมนิล ซึ่งเป็นเพื่อนของบุตรชายของนายประวิทย์ฯ และทำงานเป็นพนักงานอยู่ที่ธนาคารดังกล่าว นายทวีฯ จึงนำเงินสดไปมอบให้นายประวิทย์ฯ จำนวน 2 ครั้งๆ ละ 1,000,000 บาท เพื่อนำไปเข้าบัญชี และได้ทราบว่านายประวิทย์ฯ ได้สั่งจ่ายเป็นเช็คของนายประวิทย์ฯ นำฝากเข้าบัญชีของนายทวีฯ แทน และนายทวีฯ ไม่เคยรับเงินจากนายวรพจน์ ธีรอำพน เป็นการตอบแทนที่นายวรพจน์ ได้ย้ายมาจากเร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัดกาฬสินธุ์ มาดำรงตำแหน่งเร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัดขอนแก่น

@ถูกกล่าวหาเพราะคู่กรณีแค้น ไม่ช่วยเคลียร์ถนน 2 สาย

เรื่องที่ถูกกล่าวหา เกิดจากการร่วมมือกันระหว่างนายประสิทธิ์ฯ กับนายวรพจน์ฯ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกัน โดยประสิทธิ์ฯ มีเหตุโกรธเคืองกับนายทวีฯ เนื่องจากเข้าใจว่านายทวีฯ เป็นผู้ขุดคุ้ยเรื่องในอดีตเมื่อครั้งที่นายประสิทธิ์ฯ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเร่งรัดพัฒนาชนบทขอนแก่น ทำให้นายประสิทธิ์ฯ ต้องถูกคณะกรรมการสอบสวนเรื่องการก่อสร้างถนนจำนวน 2 สาย ในจังหวัดยโสธร ที่ก่อสร้างโดยศูนย์ปฏิบัติการเร่งรัดพัฒนาชนบทขอนแก่นไม่ได้มาตรฐานตามที่กำหนดทำให้ทางราชการเสียหาย และะทำให้นายประสิทธิ์ฯ ถูกลงโทษทางวินัยในเวลาต่อมา

ต่อมา นายทวี ทวีวงศ์ ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อองค์คณะพนักงานไต่สวนเป็นหนังสือ ไม่ลงวันที่ เดือนพฤษภาคม 2555 และหนังสือลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2555 สรุปได้ว่า นายทวีฯ ปฏิเสธว่าไม่เคยได้รับมอบเงินจากนายประดิษฐ์ วิไลลักษณ์ และไม่เคยได้รับมอบเงินที่นายประสิทธิ์ วิไลลักษณ์ มอบให้บุคคลต่างๆ โอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของนายประวิทย์ อริยกานนท์ ตามที่ถูกกล่าวหาว่าเรียกรับเงินจากนายประสิทธิ์ฯ เพื่อช่วยเหลือนายประสิทธิ์ฯ ให้ไม่ต้องย้ายไปท้องที่จังหวัดอื่น และปฏิเสธว่าไม่เคยได้รับมอบเงินจากนายประวิทย์ฯ และนายประสิทธิ์ฯ เพื่อช่วยเหลือนายประสิทธิ์ฯ ให้ได้รับการเลื่อนจากระดับ 8 เป็นระดับ 9

@โดนกลั่นแกล้งใส่ร้าย

คำให้การระบุว่า การกล่าวหาร้องเรียนนี้เกิดจากนายประสิทธิ์ฯ มีเจตนากลั่นแกล้งใส่ร้ายนายทวีฯ ทั้งนี้ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท (รพช.) จะต้องปฏิบัติตามระเบียบของสำนักงาน ก.พ. คือตั้งแต่ระดับ 8 ลงมา จะต้องผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารงานบุคคลของสำนักงาน รพช. และระดับ 9 จะต้องผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารงานบุคคลของกระทรวงมหาดไทยก่อนจึงจะเสนอคำสั่งแต่งตั้ง และการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 9 เป็นอำนาจของปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้พิจารณาแต่งตั้งโยกย้าย กองการเจ้าหน้าที่เพียงรวบรวมข้อมูลประวัติข้าราชการจากแฟ้ม กพ.7 โดยจัดลำดับอาวุโสของข้าราชการแต่ละระดับ เสนอคณะกรรมการฯ ประกอบการพิจารณาแต่งตั้ง โดยในปีงบประมาณ 2539 สำนักงาน ก.พ. ได้อนุมัติปรับระดับข้าราชการระดับ 8 ตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ รพช. เป็นระดับ 9 จำนวน 10 ตำแหน่ง (10 ศูนย์) และอนุมัติปรับระดับ 8 ตำแหน่งผู้ตรวจการราชการเป็นระดับ 9 จำนวน 10 ตำแหน่ง สำนักงาน รพช. จึงเสนอคณะกรรมการบริหารงานบุคคลของกระทรวงมหาดไทยพิจารณาบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งโดยคำนึงถึงหลักอาวุโส ความรู้ และความสามารถ การแต่งตั้งข้าราชการระดับ 8 เป็นระดับ 9 ในตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ 10 ศูนย์ แต่ละบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งล้วนเป็นผู้มีอาวุโส ความรู้ ความสามารถ และมีอัตราเงินเดือนเต็มขั้นระดับ 8 ทุกคน รวมทั้งนายประสิทธิ์ฯ ด้วย และนายประสิทธิ์ฯ ก็เป็นข้าราชการระดับอาวุโสอยู่แล้วมีเงินเดือนเต็มขั้นระดับ 8 และดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ รพช. ระดับ 9 จึงไม่มีเหตุผล เป็นการกล่าวอ้างใส่ร้ายผู้อื่น

@จำย้ายคู่กรณี เพราะโดน ส.ส.ยโสธรร้องเรียน

คำให้การระบุอีกว่า สาเหตุที่มีการร้องเรียนกล่าวหานายทวีฯ เนื่องจากเมื่อครั้งนายประสิทธิ์ฯ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ รพช. ขอนแก่น ได้ทำการก่อสร้างถนนจำนวน 2 สายในจังหวัดยโสธร เมื่อสำนักงาน รพช.ทำการตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่ได้มาตรฐานตามข้อกำหนดและได้แจ้งให้นายประสิทธิ์ฯ ทำการแก้ไข แต่นายประสิทธิ์ฯ ไม่ทำการแก้ไข ต่อมาเมื่อนายประสิทธิ์ฯ ย้ายไปรักษาการในตำแหน่งผู้ตรวจราชการ รพช.และนายทวีฯย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ รพช.ขอนแก่น นายประสิทธิ์ฯได้ขอให้นายทวีฯช่วยทำการแก้ไขถนน 2 สายดังกล่าว แต่นายทวีฯไม่ช่วย ทำให้นายประสิทธิ์ไม่พอใจและกล่าวอาฆาต เมื่อนายดิเรก อุทัยผล ย้ายมาดำรงตำแหน่ง เลขาธิการ รพช. ได้รับร้องเรียนจากนายรณ ฤทธิ์ชัยคานเขต ส.ส.จังหวัดยโสธร ว่าถนน 2 สายดังกล่าวได้รับความเสียหายเร็วกว่ากำหนดน่าจะก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน นายทวีฯจึงได้รับคำสั่งให้เป็นผู้ทำการตรวจสอบ จนสำนักงาน รพช. มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และเสนอเรื่องให้กระทรวงมหาดไทยแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยและแพ่งแก่นายประสิทธิ์ฯ ทำให้นายประสิทธิ์ฯ โกรธแค้นนายทวีฯ จึงทำการร้องเรียน คณะกรรมการ ป.ป.ช.

คดีนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์ 8 เสียงวันที่ 25 ธ.ค.2555 เห็นว่า นายทวีเรียกรับเงินจากผู้กล่าวหาเพื่อช่วยให้ผู้กล่าวหาดำรงตำแหน่งประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการเร่งรัดพัฒนาชนบทขอนแก่น ไม่ต้องย้ายไปประจำในท้องที่จังหวัดอื่น จำนวน 3 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 มี.ค.2540 (การจ่ายเงินครั้งที่ 7) มีมูลความผิดทางวินัยร้ายแรง และ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 และ มาตรา 157 แต่ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ได้ขาดอายุความแล้ว

ส่วนกรณีกล่าวหานายทวี เรียกและรับเงิน เพื่อช่วยให้ผู้ร้องเลื่อนตำแหน่งจากตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเร่งรัดพัฒนาชนบทขอนแก่น ระดับ 8 เป็นระดับ 9 กระทำการเรียกและรับเงินจากข้าราชการอื่น เพื่อการโยกย้ายและเลื่อนตำแหน่ง กระทำการกลั่นแกล้งโยกย้ายผู้ร้องออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเร่งรัดพัฒนาชนบทขอนแก่น และดำเนินการทางวินัยกับผู้ร้อง และกล่าวหานายประวิทย์ อริยกานนท์ ว่าสนับสนุนช่วยเหลือนายทวีเรียกและรับเงินจากผู้ร้องและข้าราชการอื่นนั้น ป.ป.ช.เห็นว่า ไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป

กระทั่งศาลอาญาพิพากษาให้นายทวีมีความผิดตามข้อชี้มูลของ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2558

ทว่า ยังไม่จบเพราะผู้ร้องได้ยื่นฟ้องนายทวีเพิ่มอีก 1 คดี กรณีกล่าวหาว่ารับเงินจำนวน 3 ล้านบาท นายประสิทธิ์อ้างว่า มอบให้ นายจั่ว หาญห้าว ลูกน้องไปโอนที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนประชาสโมสร จ.ขอนแก่น เข้าบัญชีเงินฝากนายประวิทย์ ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนมหาไชย เลขที่ 037-2-048xxx ( ครั้งที่ 6 วันที่ 1 ต.ค. 2539) ตามรายงานก่อนหน้านี้ 

คดีหลังนี้เป็นเพียงข้อกล่าวหา ทั้งสองฝ่ายต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงกันต่อไป 

อ่านประกอบ:

ขมวด 5 ขรก. โอนเงินเข้าบัญชี 'เจ้าของร้านเครื่องจักรกล' 27.4 ล. คดี รพช.

 คำให้การ'เฉลิม-ชัยสิทธิ์'คดีซื้อขายเก้าอี้ รพช.-ปัดเปิด ร.ร.สั่งลูกน้องส่งหัวคิว 2%

 ไทม์ไลน์ชัดๆ คดีเรียกรับ 3 ล. บิ๊ก รพช. 13 ปีในมือ ป.ป.ช.-ขาดอายุความ 1 ข้อหา

 อดีตซี 9 ฟ้อง ผอ.รพช. อีกคดี!เรียกรับ 3 ล.- นักธุรกิจแจงแค่ยืมบัญชีโอนเงิน

เบื้องหลังจ่าย 3 ล.! คำให้การ ซี 8 “นายให้นโยบายต้องจัดส่งค่าบริหารงาน 1%”

พบอีก 2 ขรก. โผล่โอนเงินเข้าบัญชี'เสี่ย ป.'ใกล้ชิดบิ๊ก รพช. 3 ล. 'ไม่รู้ค่าอะไร'

เปิดใบโอนเงิน 3 ล้าน คดีสินบน รพช.

คำให้การลึก! คดีซื้อขายเก้าอี้ รพช. คนเดียวจ่ายยิบให้ ‘บิ๊ก’ 8 ครั้ง 28 ล้าน

เปิดพฤติการณ์คดีสินบน 3 ล. ซี 9 รพช. เบิกเงินสดจากแบงก์ไปจ่ายถึงห้องทำงาน

ศาลสั่งจำคุก 6 ปี ซี 9 รพช.รับเงินสด 3 ล.ค่าซื้อเก้าอี้ ผอ.ศูนย์ขอนแก่น ไม่ให้ถูกย้าย