ม.เอแบควอนสื่องดใช้รักษาการอธิการบดีกับสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล
ม.เอแบคออกแถลงการณ์ละเอียดแจงสื่องดใช้ตำแหน่งรักษาการอธิการบดีและอธิการบดีคนใหม่ กับดร.สุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล ระบุสิ้นสภาพการเป็นบุคลากรแล้ว พร้อมห้ามเข้ามหาวิทยาลัยทุกวิทยาเขต
ในวันที่ 14 มกราคม 2559 นี้คู่ขัดแย้งระหว่างภราดาบัญชา แสงหิรัญ และดร.สุทธิพร ปทุมเทวภิบาล จะนัดประชุมหารือกันนอกรอบเพื่อหาข้อยุติความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ(เอแบค) หลังพลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้ระยะเวลา 7 วัน (ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2559) ก่อนจะเรียกทั้งสองฝ่ายมาหารืออีกครั้งในวันที่ 15 มกราคม 2559 โดยระบุว่าหากวันที่ 15 ยังไม่มีข้อสรุปจากทั้ง 2 ฝ่าย ก็จะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดคือม.86 เข้าไปควบคุมการบริหารงานของม.อัสสัมชัญ(อ่านประกอบ:
‘ดาว์พงษ์’ ให้เวลา 7 วัน คู่ขัดแย้ง ‘เอแบค’ ไกล่เกลี่ยกันเอง)
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรารายงานว่าเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2559 ก่อนจะถึงวันนัดหารือข้อยุติความขัดแย้งของทั้งสองฝ่ายนั้น ศูนย์สื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้เผยแพร่คำชี้แจงมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กรณีนายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล อ้างคำสั่งศาลแพ่งคุ้มครองชั่วคราว ว่า คำสั่งศาลแพ่งที่นายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล อ้างเป็นคำสั่งที่ออกแบบฉุกเฉิน ด้วยการไต่สวนผู้ร้องคือนายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล อยู่ฝ่ายเดียว และนำคำสั่งดังกล่าวดำเนินการระงับธุรกรรมทางการเงินของมหาวิทยาลัย พร้อมยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งขอไต่สวนฉุกเฉินเพื่อฟ้องธนาคารกรุงศรีอยุธยากับพวกและยังขอคุ้มครองชั่วคราวเพื่อจะขอเข้าทำธุรกรรมในมหาวิทยาลัย ซึ่งศาลแพ่งมีคำสั่งให้ยกคำร้อง และวินิจฉัยว่า
“เนื่องจากในชั้นนี้ยังไม่มีการสืบพยานหลักฐานและพิจารณาว่าโจทก์ที่ 2 (นายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล) มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์ที่ 1 (มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ)ได้ โดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หากศาลมีคำสั่งตามที่โจทก์ที่2 ร้องขอจะเท่ากับเป็นการพิพากษาให้โจทก์ทั้งสองชนะคดีโดยปริยาย กรณีตามคำร้องของโจทก์ทั้งสองจึงยังไม่มีเหตุฉุกเฉินเพียงพอที่จะนำวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนศาลพิพากษามาใช้”
ดังนั้นคณะที่ปรึกษากฎหมายม.อัสสัมชัญจึงขอให้สาธารณชนและสื่อมวลชน พิจารณาเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง และขอความร่วมมือในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อผู้บริหารปัจจุบัน และขอความกรุณางดใช้คำว่า "รักษาการอธิการบดี" หรือ “อธิการบดีคนใหม่” และ/หรืออื่นใดกับนายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล เพราะบุคคลนี้สิ้นสภาพการเป็นบุคลากรของมหาวิทยาลัย และถือเป็นบุคคลห้ามเข้าเขตม.อัสสัมชัญทุกวิทยาเขต
ขณะที่ดร.สุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจว่า ยอมรับในหลักการที่จะให้คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยทุกคนลาออกและส่งเรื่องคืนให้ผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งคือมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลดำเนินการ ซึ่งก็สอดคล้องกับฝั่งของภราดาบัญชาที่ยอมรับในหลักการเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า อย่างไรก็ตามทางฝั่งของภราดาบัญชา แสงหิรัญ ยังข้อยึดข้อเสนอเดิมคือกรรมการสภาต้องมาจากคนกลาง คณะที่นายสุทธิพร ระบุว่า คณะกรรมการจะต้องมาจากฝั่งนายสุทธิพรเอง 5 คน และฝั่งภราดาบัญชา 5คน ส่วนข้อสรุปทั้ง 2 ฝ่ายจะตกลงกันได้หรือไม่นั้น ต้องรอผลประชุมนอกรอบในวันที่ 14 มกราคม เวลา 15.00 น. ที่จะมีการประชุมเกิดขึ้นของทั้งสองฝ่าย ณ มูลนิธิเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย
อ่านประกอบ
มติ กกอ.เสนอ"ดาว์พงษ์"เข้าคุม"เอแบค" ขู่ถ้าไม่สงบ เจอยึดใบอนุญาต
สกอ.ชี้สภาม.อัสสัมชัญพักการปฏิบัติหน้าที่อธิการบดี- ตั้งรก.แทน ชอบด้วยกฎหมาย
ฝ่ายหนุนมั่นใจ"อธิการฯเอแบค"ไม่โกง! นัดรวมพลยื่นหนังสือสกอ.โต้ข้อมูล"ดร.สุทธิพร"