สมพร ใช้บางยาง :ต้องปกป้องเกียรติ ศักดิ์ศรีวงศ์ตระกูล(จากคำสั่ง คสช.?)
“ข้าพเจ้ายืนยันด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีว่าตลอดชีวิตการรับราชการ ตั้งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เที่ยงตรง ยุติธรรม โดยยึดเอาประโยชน์ส่วนรวมและประชาชนเป็นหลักมาโดยตลอด ในฐานะข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในการปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมการ และทำหน้าที่อื่นในสสส. ก็ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างมุ่งมั่น เสียสละ และสุจริต เที่ยงตรง เพื่อประโยชน์ส่วนรวมมาโดยตลอด เช่นเดียวกัน สามารถตรวจสอบได้ และจะถือปฏิบัติเช่นนี้ตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่”
เมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2559 นายสมพร ใช้บางยาง ได้เขียนจดหมายขอชี้แจงข้อเท็จจริงและขอความเป็นธรรมกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จากกรณีคำสั่งที่อ้างถึงข้อ 6 ให้ผู้มีรายชื่อในกลุ่มที่ 5 กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพตามบัญชีแนบท้ายคำสั่งนี้ พ้นจากการเป็นกรรมการและการดำรงตำแหน่งในกองทุนดังกล่าว และให้ผู้มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการแต่งตั้งกรรมการใหม่ ตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.จากคำสั่งดังกล่าวไม่ได้ระบุเหตุผลในการให้พ้นจากกรรมการสสส. แต่คาดว่าน่าจะมาจากกรณีที่ข้าพเจ้าเป็นกรรมการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ที่รับเงินสนับสนุนจาก สสส. ซึ่งเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน ขอเรียนว่า การรับเป็นกรรมการมูลนิธิฯ เนื่องจากได้รับการทาบทามจาก ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ โดยพิจารณาเห็นว่าข้าพเจ้าเป็นผู้ที่มีประสบการณ์การทำงานในกระทรวงมหาดไทย ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยเฉพาะเคยดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด และอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น รู้พื้นที่ รู้ตัวบุคคล ในระดับล่างเป็นอย่างดีและกว้างขวางทั่วประเทศ สามารถที่จะช่วยกำหนดทิศทางเชิงนโยบาย และการรณรงค์ในการลด ละ เลิก บุหรี่ในกลุ่มคนที่อยู่ในชนบท ซึ่งตามสถิติผู้สูบบุหรี่ยังมีอีกเป็นจำนวนมากซึ่งเข้าถึงได้ยาก ประกอบกับข้าพเจ้าเป็นผู้รับผิดชอบงานสุขภาวะชุมชนของ สสส. ทำงานกับชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศกว่า 2,000 แห่ง จะได้นำเรื่องการรณรงค์ลด ละ เลิก บุหรี่ไปดำเนินการในเครือข่ายดังกล่าว พร้อมๆกันด้วย
“ซึ่งข้าพเจ้าพิจารณาเห็นว่าเป็นประโยชน์กับส่วนรวม ประกอบกับไม่มีระเบียบของ สสส. หรือข้อห้ามใดๆ กำหนดไว้ จึงรับเป็นกรรมการมูลนิธิฯ ดังกล่าว ซึ่งตลอดระยะเวลาของการเป็นกรรมการ สสส. ก็ไม่เคยใช้บทบาทกรรมการเพื่อประโยชน์ด้านงบประมาณหรือประโยชน์อื่นๆ ให้กับมูลนิธิฯ แต่อย่างใด และในการพิจารณาอนุมัติงบประมาณสนับสนุนมูลนิธิฯ ครั้งสุดท้ายในกาประชุมคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพครั้งที่ 10/2556 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2556 จำนวนเงินงบประมาณ 85,658,350 บาท ข้าพเจ้าก็ไม่ได้เข้าร่วมประชุมพิจารณาอนุมัติด้วย แต่เมื่อทราบว่ามีการท้วงติงเรื่องนี้จากหน่วยงานตรวจสอบที่เกี่ยวข้อง จึงได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากการเป็นรองประธานมูลนิธิฯ ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2558”
2.การให้ข้าพเจ้าพ้นจากกรรมการและการดำรงตำแหน่งใน สสส. ปรากฏอยู่ในคำสั่งหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นที่ทราบโดยทั่วไปว่าเป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ประกอบกับปรากฏข่าวการให้สัมภาษณ์ของประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ในทางสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2559 ว่ากรณีของ สสส.มีเรื่องการทุจริตเกิดขึ้น จึงทำให้คนในสังคมเข้าใจว่าการให้กรรมการสสส.ทั้ง 7 คน รวมทั้งข้าพเจ้าด้วย พ้นจากการดำรงตำแหน่งใน สสส. มีสาเหตุมาจากการทุจริต ซึ่งทำให้ข้าพเจ้า ครอบครัว วงศ์ตระกูล เสื่อมเสียชื่อเสียง ขาดความศรัทธา เชื่อถือในตัวข้าพเจ้าของผู้ที่เคารพนับถือ รู้จักคุ้นเคย และสาธารณชนทั่วไป
“ข้าพเจ้ายืนยันด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีว่าตลอดชีวิตการรับราชการ ตั้งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เที่ยงตรง ยุติธรรม โดยยึดเอาประโยชน์ส่วนรวมและประชาชนเป็นหลักมาโดยตลอด ในฐานะข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในการปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมการ และทำหน้าที่อื่นในสสส. ก็ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างมุ่งมั่น เสียสละ และสุจริต เที่ยงตรง เพื่อประโยชน์ส่วนรวมมาโดยตลอด เช่นเดียวกัน สามารถตรวจสอบได้ และจะถือปฏิบัติเช่นนี้ตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่”
จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และพิจารณาให้ความเป็นธรรมตามที่ท่านจะเห็นสมควร ผลเป็นประการใดกรุณาแจ้งให้ข้าพเจ้าทราบด้วยจักเป็นพระคุณยิ่ง อนึ่งเนื่องจากมีการสื่อสารเรื่องนี้ทางสาธารณะอย่างกว้างขวาง เป็นที่รับรู้ของคนในสังคมทั่วไป ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะเข้าใจปฏิบัติหน้าที่ทุจริต จำเป็นที่ข้าพเจ้าจะต้องปกป้องเกียรติ ศักดิ์ศรีของข้าพเจ้าและวงศ์ตระกูล จึงจะมีการชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้ในทางสาธารณะตามสมควร
อ่านประกอบ:เครือข่ายสุขภาพเคลื่อน 'ประชุมใหญ่' ค้านคำสั่ง คสช.- กลุ่มทุนฮุบ สสส.
สงกรานต์ ภาคโชคดี: "ไม่อยากให้รัฐบาลเปลี่ยนมิตรทั่ว ปท.เป็นศัตรู"
สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ : คสช.คุม สสส.เบ็ดเสร็จตัดท่อน้ำเลี้ยงภาค ปชช.
ปลดบอร์ด สสส.กราวรูด ทำไมไม่รอระเบียบใหม่บังคับใช้?
บริสุทธิ์จริงคืนตำแหน่งให้!ศอตช.แจงยิบเหตุชงปลด 'นักการเมือง-ขรก.-7สสส.'
‘บิ๊กตู่’ใช้ ม.44 ปลด ขรก.-นักการเมืองท้องถิ่นกราวรูด 59 คน-พ่วง 7 บอร์ด สสส.