คดีรวยผิดปกติ! ‘สมศักดิ์’ นักการเมืองรายที่ 4 ?
เจาะแฟ้มคดีนักการเมือง“รวยผิดปกติ”ในศาลฎีกาฯ จาก ‘รักเกียรติ - ทักษิณ - ณฐกมล นนทะโชติ’ ล่าสุดคิว‘สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล’กรณีเจ้าของบ้าน 16 ล้าน รายที่ 4 ลุ้น-ไม่ลุ้น ผลพิพากษา?
28 พ.ค.58 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีมติชี้มูล นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ว่ามีพฤติการณ์ “ร่ำรวยผิดปกติ” กรณีถือครองบ้านเลขที่ 5/5 ตำบลไผ่จำศีล อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 ในช่วงที่นายสมศักดิ์ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และมีการก่อสร้างต่อเนื่องในขณะที่นายสมศักดิ์ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยมาปลูกสร้างแล้วเสร็จ เมื่อปี พ.ศ. 2554 ใช้เงินในการปลูกสร้างประมาณ 16 ล้านบาทเศษ แต่ไม่สามารถชี้แจง “ที่มา”ของทรัพย์สินดังกล่าวได้
ขั้นตอนหลังจากนี้ ป.ป.ช.จะส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อขอศาลสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดินต่อไป ตามมาตรา 80 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542
ว่ากันตามกระบวนการ นายสมศักดิ์ยังมีโอกาสหลุดพ้นข้อกล่าวหา ถ้าสามารถพิสูจน์ที่มาของทรัพย์สินได้อย่างกระจ่างในศาลฎีกาฯ
กระนั้นถ้าศาลฎีกาฯพิพากษาว่านายสมศักดิ์ร่ำรวยผิดปกติตามคำชี้มูลของ ป.ป.ช. อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จะเป็น“นักการเมืองรายที่ 4” ที่ถูกยึดทรัพย์โดยคำพิพากษาของศาลฎีกาฯนับจากมีกฎหมาย ป.ป.ช. ปี 2542
ทั้งนี้ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ถูกศาลฎีกาฯมีคำพิพากษายึดทรัพย์ 3 ราย ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รวบรวมมาเสนอดังนี้
1. นายรักเกียรติ สุขธนะ (อดีต)รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติว่าปกปิดบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและร่ำรวยผิดปกติ เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2545 ต่อมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายึดทรัพย์ 233,880,000 บาท ตกเป็นของแผ่นดินเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2546 และวันที่ 28 ตุลาคม 2546 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 15 ปี ในข้อหาทุจริตจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขโดยการเรียกรับเงิน 5 ล้านบาทจากเจ้าของบริษัท ไทยนครพัฒนา จำกัด
2. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษายึดทรัพย์ 46,373,687,454.70 บาท เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 จากกรณีขายหุ้นชินคอร์ป และ ผลประโยชน์ทับซ้อนหลายกรณีในช่วงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น เป็นการยึดทรัพย์ ภายหลังรัฐประหารวันที่ 19 กันยายน 2549 โดยมีการจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาตรวจสอบทรัพย์สิน (คตส.) พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการเฉพาะ กระบวนการไต่สวนดำเนินการตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดและศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินชี้ขาด
3.น.ส.ณฐกมล (นฤมล) นนทะโชติ ลูกสาว พล.อ.สัมฤทธิ์ นนทะโชติ คนสนิท พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษายึดทรัพย์ จำนวน 68 ล้านบาทเมื่อ 4 ธ.ค.57 (อ่านประกอบ:คำพิพากษาฉบับเต็ม!คดียึดทรัพย์"ณฐกมล"ลูกสาว”พล.อ.คนสนิท“บิ๊กจิ๋ว”68 ล.)
กรณีนายสมศักดิ์ ไม่กี่เดือนนับจากนี้ ต้องรอคำพิพากษากันต่อไป
อ่านประกอบ:
ป.ป.ช.ฟันดาบ 2 “สมศักดิ์ ”รวยผิดปกติหาที่มาบ้าน 16 ล.ไม่ได้
หนักกว่า“ชินณิชา”ศาลฎีกาฯเชือด“สมศักดิ์”ซุกบ้าน-เงินฝาก 30 ล้าน จำคุก 6 เดือน
ศาลฎีกาฯยกคำร้องขอปล่อยทรัพย์บ้าน 30 ล. “รักเกียรติ”-อำพราง “ขาย” ให้นอมินี