"โมไนย-จำรูญ" : ว่าด้วยปมลายเซ็นปลอม คดียักยอกเงิน "สจล."
"..ทางผู้บริหาร สจล.ไม่ได้เซ็น และมีการพิสูจน์ว่าเป็นลายเซ็นปลอม เป็นการตรวจสอบจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาเอง เพราะฉะนั้น เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง.."
แม้ว่าสัญญาณความขัดแย้งระหว่าง ธนาคารไทยพาณิชย์ และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ( สจล.) ทำท่าจะยุติลงไปด้วยดี หลังจากทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงร่วมกันต่อกรณีปัญหาการยักยอกเงินของ สจล.
โดยธนาคารไทยพาณิชย์ จะให้เงินดูแลความเสียหายในวงเงินไม่เกิน 1,500 ล้านบาท แก่ สจล. ตามมูลค่าความเสียหายที่ทาง สจล.ได้ประเมินไว้
(อ่านประกอบ : "ไทยพาณิชย์-สจล."บรรลุข้อตกลงเยียวยาความเสียหาย 1,500 ล.แบบมีเงื่อนไข)
แต่ในส่วนของ สจล. ยังมีบางประเด็นที่สังคมต้องการคำชี้แจงจากผู้บริหารฯ คือ กระบวนการเบิกถอนเงินและเซ็นอนุมัติของคนใน สจล. ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาการยักยอกเงินครั้งนี้
@ ความเสียหายจากการยักยอกแคชเชียร์เช็คของธนาคารกรุงศรีอยุธยา 50 ล้านบาท ที่มีกระแสข่าวว่ามีการโอนแคชเชียร์เช็คไปยังบัญชีบุคคลที่ชื่อ “พูลศักดิ์” ผู้ที่รับรองให้โอนเงินแคชเชียร์เช็คดังกล่าวเกี่ยวพันกับผู้บริหาร สจล. ที่ปัจจุบันก็ยังหนึ่งในผู้บริหารชุดนี้
นายโมไนย ไกรฤกษ์ รักษาการแทนอธิการบดี สจล. ตอบว่า "ทางผู้บริหาร สจล.ไม่ได้เซ็น และมีการพิสูจน์ว่าเป็นลายเซ็นต์ปลอม เป็นการตรวจสอบจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาเอง เพราะฉะนั้น เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง"
@ ปัจจุบัน ผู้บริหารที่มีกระแสข่าวว่าเกี่ยวพันกับแคชเชียร์เช็คดังกล่าวนี้ ยังเป็นหนึ่งในผู้บริหารชุดนี้ หรือเป็นหนึ่งในกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ และนอกจากการตรวจสอบจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาแล้ว ทาง สจล. จะตรวจสอบข้อเท็จจริงเองในกรณีนี้ด้วยหรือไม่
นายโมไนยกล่าวว่า “ในส่วนของการตรวจสอบทางกฎหมาย ทางคดีก็ว่ากันไป แต่ทางภายใน สจล. เอง ก็ต้องมาตั้งกรรมการสอบวินัยผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน”
@ ในระหว่างดำเนินการตั้งกรรมการสอบวินัยเรื่องนี้ ผู้บริหารที่มีกระแสข่าวเกี่ยวพันกับเรื่องนี้ จะยังมีส่วนในการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยหรือไม่
นายโมไนย กล่าวว่า "ถ้าตั้งกรรมการตรวจสอบ ก็ไม่เกี่ยว ต้องแยกกันไป"
@ ในส่วนความเสียหายกรณียักยอกเงิน สจล. กรณีแคชเชียร์เช็คของธนาคารกรุงศรีอยุธยา มีการดำเนินการอย่างไรแล้วบ้าง
นายโมไนยกล่าวว่า เชื่อว่าธนาคารกรุงศรีฯ ได้เห็นธนาคารไทยพาณิชย์แสดงสปิริตในวันนี้แล้ว คงไม่นิ่งนอนใจ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อมาจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ขณะที่ นายจำรูญ เล้าสินวัฒนา รักษาการแทนรองอธิการบดี กล่าวว่า "เรื่องเช็คใบนี้ ธนาคารเป็นคนตรวจสอบเจอว่ามีการ โอนเงิน ให้พูลศักดิ์ โดยไม่มีลายเซ็นของผู้บริหาร”
"ธนาคารกรุงศรีฯ เขายอมรับเอง เพราะธนาคารกรุงศรีฯ เขาพบว่าเช็คที่โอนเงินไปแล้ว แต่ไม่มีลายเซ็นผู้บริหาร เมื่อกลับมาให้เราเซ็น แต่ผู้บริหารเราไม่เซ็น แต่ผลสุดท้ายมีลายเซ็นโผล่ขึ้นมา และทางกรุงศรีฯ ก็เลยกลับมา อยากจะให้เรายืนยัน แต่กรุงศรีฯ ตรวจสอบเองแล้ว พบว่าเป็นลายเซ็นปลอม"
@ แม้ทางธนาคารกรุงศรีฯ จะยืนยันว่าเป็นลายเซ็นปลอม แล้ว สจล.จะมีการตรวจสอบภายในด้วยหรือไม่ ว่าเป็นลายเซ็นปลอม
นายจำรูญกล่าว่า “ไม่ตรวจสอบเรื่องนี้ เรื่องนี้จบไปแล้ว เพราะแจ้งความไปแล้ว เรื่องนี้คือชุดที่ ตร.จะแจ้งความอาทิตย์หน้า คือ ตัวเลขเช็ค 80 ล้านบาทนี้ คือจากธนาคารกรุงศรีฯ 50 ล้านและจากธนาคารกรุงไทยอีก 30 ล้าน แล้วมารวมเป็นเช็คใบนี้ 80 ล้าน”
@ มีกระแสข่าวว่ามีผู้บริหาร สจล.เข้ามาเกี่ยวข้องกับแคชเชียร์เช็ค ในส่วน 50 ล้านบาทของธนาคารกรุงศรีฯ
นายจำรูญกล่าวว่า "ไม่มีลายเซ็นผู้บริหารรับรองแคชเชียร์เช็คนี้ ซึ่งในกรณีตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวกับเช็ค ถ้าผู้มีอำนาจลงนามสลักหลังเช็ค ก็สามารถโอนตัวบุคคลได้ แต่กรณีนี้ไม่มีการเซ็น"
“ธนาคารเป็นคนพูดเองว่ามีลายเซ็นทีหลังและเป็นลายเซ็นปลอม ธนาคารตรวจสอบเองและพบว่าเป็นลายเซ็นปลอม นึกภาพออกไหมว่าไม่มีลายเซ็นจากเรา แต่ลายเซ็นมันเกิดโดยทรงกลด”
@ นอกจากการตรวจสอบจากธนาคารกรุงศรีฯ แล้ว นายจำรูญและผู้บริหารชุดนี้ของ สจล. ได้เห็นเช็คดังกล่าวนี้ด้วยตาตัวเองแล้วหรือไม่
นายจำรูญกล่าวว่า “ไม่เห็น ไม่จำเป็น ถ้าถามเรา เราไม่ตรวจสอบอะไร เพราะมันไม่มี และธนาคารก็ยืนยันว่าเป็นลายเซ็นปลอม เพราะฉะนั้น อันนี้ ตอนนี้ ก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน”
อ่านประกอบ :
"ไทยพาณิชย์-สจล."บรรลุข้อตกลงเยียวยาความเสียหาย 1,500 ล.แบบมีเงื่อนไข
คำถามที่ “สจล-ไทยพาณิชย์” ยังตอบไม่ได้ "ใคร" รับรองทรงกลดถอนเงิน?
แกะรอย"สจล.VSไทยพาณิชย์"ใครพูดจริง-เท็จ ปมไอ้โม่งฉากหลัง"ทรงกลด"
ภาพประกอบจาก : www.google.co.th,www.dailynews.co.th