พบรถโฟล์คตู้ กสทช.3 คัน 14 ล้าน จอดทิ้ง ใช้งาน 3-4 ครั้งต่อเดือน
พบ กสทช.เช่ารถโฟล์คสวาเกน 3 คันกว่า 14 ล้านจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถสำนักงาน กสทช. ด้านรปภ.เผย ใช้งานไม่บ่อย 2-3 ครั้งต่อเดือน ฝ่ายยานยนต์-จนท.พัสดุปัดให้ข้อมูล โบ้ยถาม ผอ.สำนักฯ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2556 พบว่า สำนักงาน กสทช. ลงนามสัญญาเลขที่ พย.(ช)(พย.) 70/2556 เช่ารถยนตร์จำนวน 3 คัน จากบริษัท โฟล์ครามรัชโยธิน จำกัด ด้วยวิธีพิเศษ วงเงิน 14,220,000 บาท
เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราเดินทางไปตรวจสอบรถโฟล์คสวาเกน (VOLKSWAGEN)ดังกล่าวที่ลานจอดรถของสำนักงาน กสทช. พบรถโฟล์ค 2 คัน สีบรอนซ์เงิน เลขทะเบียน ฮย 3081 และ ฮย 3079 จอดไว้ที่บริเวณลานจอดรถ ชั้น 3 ตรงกันข้ามกับที่จอดรถสำหรับผู้บริหาร
จากนั้น ผู้สื่อข่าวไปยังสำนักการพัสดุและบริหารทรัพย์สินซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของอาคารลานจอดรถ เพื่อสอบถามนายฉันทพัทธ์ ขำโคกกรวด ผู้อำนวยการสำนักการพัสดุและบริหารทรัพย์สิน ถึงการเช่ารถโฟล์ค วงเงิน 14 ล้านบาท แต่เจ้าหน้าที่สำนักการพัสดุฯ แจ้งว่านายฉันทพัทธ์ ไม่อยู่ ไปอบรมที่ต่างจังหวัดเป็นเวลา 3 วัน จะกลับเข้ามาที่สำนักงานในสัปดาห์หน้า
ผู้สื่อข่าวสอบถามเจ้าหน้าที่แผนกพัสดุรายนี้ว่า ทราบเรื่องการเช่ารถโฟล์คจาก บริษัทโฟล์ครามรัชโยธินวงเงินกว่า 14 ล้านบาทหรือไม่ และรถดังกล่าวมีการใช้งานบ่อยแค่ไหน เจ้าหน้าที่รายนี้กล่าวว่า ไม่ทราบ ขอให้ผู้สื่อข่าวสอบถามจากนายฉันทพัทธ์
ผู้สื่อข่าวสอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยที่อาคารลานจอดรถ ถึงรถโฟล์คดังกล่าว ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ว่ารถโฟล์คมีสีบรอนซ์เงิน เลขทะเบียน 3079 ,3080 และ 3081 ซึ่งรถที่มีเลขทะเบียน 2 ใน 3 หมายเลขนี้ ตรงกับที่ผู้สื่อข่าวพบว่าจอดอยู่ที่ชั้น 3
เมื่อถามว่าทราบหรือไม่ว่ารถโฟล์คดังกล่าวถูกนำมาใช้งานบ่อยแค่ไหน เฉลี่ยกี่ครั้งต่อเดือน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรายนี้กล่าวว่า เท่าที่เห็น เฉลี่ยเพียงเดือนละ 2-3 ครั้งเท่านั้น มีการใช้งานไม่บ่อยนัก และเจ้าหน้าที่รายนี้ระบุว่าหากผู้สื่อข่าวต้องการรายละเอียดเรื่องตารางการใช้งานรถโฟล์ค ผู้สื่อข่าวต้องไปสอบถามจากนายวินัย (ไม่ทราบนามสกุล) ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่แผนกกองยานยนต์ของสำนักงาน กสทช.
ผู้สื่อข่าวจึงไปที่แผนกกองยานยนต์หรือกองยานพาหนะที่อยู่ชั้น 1 ของอาคารลานจอดรถ เจ้าหน้าที่แจ้งว่านายวินัยออกกำลังกายอยู่ที่บริเวณสนามฟุตบอล เมื่อผู้สื่อข่าวไปพบนายวินัย แนะนำตัวและแจ้งความประสงค์ถึงการตรวจสอบสัญญาเช่ารถโฟลค์ และสอบถามว่าทราบเรื่องการเช่ารถโฟล์คจากบริษัทโฟล์ครามรัชโยธินที่ สำนักงาน กสทช.เช่ามาเป็นวงเงินกว่า 14 ล้านบาทหรือไม่ และตารางการใช้งานรถดังกล่าวเฉลี่ยเดือนละกี่ครั้ง คุ้มค่ากับราคาค่าเช่าหรือไม่และผู้บริหารรายใดเป็นผู้ใช้งานรถโฟล์คเหล่านี้
นายวินัยกล่าวว่า ไม่ทราบรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับรถโฟล์ค เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฝ่ายยานยนต์ เพราะการใช้ยานพาหนะที่แผนกยานยนต์ ของตนทำบันทึกไว้ในแต่ละวัน มีเพียงรถตู้โตโยต้า จำนวน 10 คัน
“ฝ่ายยานยนต์ จะดูเพียงรถตู้โตโยต้า 10 คัน ซึ่งใช้รับส่งพนักงาน ส่วนเรื่องสัญญาสำนักการพัสดุและบริหารทรัพย์สินเป็นผู้ดูแลเรื่องนี้ ผมเป็นเพียงฝ่ายปฏิบัติ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า รถตู้ทั้ง 10 คัน เฉลี่ยใช้บ่อยแค่ไหน นายวินัยกล่าวว่าเฉลี่ย วันละ 2-3 ครั้ง ต่อวัน เนื่องจากแต่ละวัน มีประชุม มีสัมมนานอกสถานที่ การใช้งานก็จะมาแจ้งฝ่ายยานยนต์และลงทะเบียนการใช้งานตามระเบียบทุกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า รถตู้ทั้ง 10 คัน ซื้อหรือเช่ามาจากโฟล์ครามรัชโยธินหรือไม่ นายวินัยกล่าวว่าไม่ทราบ ผู้สื่อข่าวต้องสอบถามสำนักพัสดุและบริหารทรัพย์สิน
ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นการสัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวได้ยกกล้องถ่ายรูปขึ้นถ่ายภาพสนามฟุตบอล ของสำนักงาน กสทช.เนื่องจาก สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบงบประมาณในการก่อสร้างสนามดังกล่าวเช่นกัน แต่นายวินัยได้ห้ามผู้สื่อข่าวไม่ให้ถ่ายรูปสนามฟุตบอล โดยกล่าวว่าไม่ได้ ต้องไปทำเรื่องขอมา ต้องทำเรื่องขอ ผอ. เพราะตอนนี้ มีคำสั่งให้ต้องไปขออนุญาต ผอ.
ผู้สื่อข่าวกล่าวว่าทุกครั้งที่มาตรวจสอบการใช้งบประมาณของ กสทช. .ในกรณีต่างๆ เช่นการตรวจสอบ ป้อมยาม ผู้สื่อข่าวก็ถ่ายภาพตามปกติ ( อ่านประกอบ : ปริศนา!ป้อมยาม กสทช. กับ“คำถาม” ถึงความคุ้มค่าและจำเป็น? ,ป้อมยาม กสทช.ราคาเกือบครึ่งล้าน! ขาดไม้กั้น-เครื่องบันทึกรถเข้า-ออก )
นายวินัยกล่าวว่า หากเข้าไปในบ้านผู้สื่อข่าว และไปถ่ายภาพเช่นนี้ ผู้สื่อข่าวก็คงไม่ยอม
ผู้สื่อข่าวยืนยันกับนายวินัยว่าผู้สื่อข่าวมีสิทธิ์ในการถ่ายภาพสำนักงาน กสทช. ซึ่งเป็นหน่วยงานราชการและงบประมาณต่างๆ ของ กสทช.ถือเป็นงบประมาณแผ่นดินและเป็นเงินภาษีของประชาชน การทำหน้าที่ของผู้สื่อข่าวคือการตรวจสอบความโปร่งใสเพื่อผลประโยชน์ของสาธารณะ
ในที่สุด นายวินัยได้เดินไปแจ้งกับ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับการถ่ายภาพของผู้สื่อข่าว แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่ได้ห้ามปรามใดๆ ผู้สื่อข่าว