ป้อมยาม กสทช.ราคาเกือบครึ่งล้าน! ขาดไม้กั้น-เครื่องบันทึกรถเข้า-ออก
"อิศรา"ลุยพิสูจน์ ป้อมยาม กสทช.จ้าง"จัสมินฯ"4.3 แสน มีแอร์ตัวเดียว ขาดไม้กั้นรถเข้า-ออก เครื่องบันทึกภาพ ไร้จอตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด ผอ.สำนักพัสดุ อ้างยังไม่ สมบูรณ์ ราคาสมเหตุผล
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้ตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.พบว่าเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2556 ได้ลงนามสัญญาจ้างบริษัทจัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน ) ให้ติดตั้งป้อมยามรักษาความปลอดภัย ณ ประตู ด้านหน้าของสำนักงาน กสทช. เลขสัญญา ระบุใบสั่งเลขที่ พย.(จ) (พย.) 793/56 วงเงินตามสัญญาจ้าง มูลค่า 435,704 บาท
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบป้อมยามดังกล่าว ณ ที่สำนักงาน กสทช. เลขที่ 87 ถ.พหลโยธิน ซอย 8 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร พบว่าภายในป้อมยามมีเครื่องปรับอากาศหนึ่งเครื่องยี่ห้อมิตซูบิชิ ภายในป้อมไม่มีโทรทัศน์หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือจอภาพที่เชื่อมต่อจากกล้องวงจรปิดหรือ CCTV โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าโทรทัศน์รับภาพจากกล้องซีซีทีวี มีเฉพาะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของ กสทช.เท่านั้น ไม่มีติดตั้งภายในป้อมนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่ายังมีอุปกรณ์ใดอีกบ้างที่ยังขาดอยู่ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกล่าวว่าตอนนี้ ป้อมยามยังไม่มีไม้กระดกสำหรับกั้นรถเข้าออกและระบบคอมพิวเตอร์สำหรับบันทึกภาพทะเบียนรถเข้าออก คาดว่าจะมีการติดตั้งในเร็วๆ นี้
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกล่าวด้วยว่าป้อมยามแห่งนี้เพิ่งสร้างแล้วเสร็จได้ประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกล้องCCTV พนักงานรักษาความปลอดภัย ได้ชี้ไปยังกล้องที่ติดตั้งอยู่ที่อาคารหอประชุม ที่เชื่อมต่อกับอาคารอำนวยการ โดยกล้องที่ติดตั้งไว้มีความสูงในแนวตั้งฉากจากพื้น และมีระยะห่างจากป้อมยามประมาณ 5 เมตร
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราสอบถามนายฉันทพัทธ์ ขำโคกกรวด ผู้อำนวยการสำนักสำนักการพัสดุและบริหารทรัพย์สิน กสทช. ว่าป้อมยามที่ กสทช. จ้างบริษัทจัสมินฯ ให้ทำการติดตั้งมีทั้งสิ้นกี่ป้อมและราคาสี่แสนบาทถือเป็นราคาที่สูงเกินไปหรือไม่
นายฉันทพัทธ์กล่าวว่ามีเพียงป้อมเดียวและในป้อมมีแอร์ด้วย มีรายละเอียดหลายอย่าง ป้อมยามมีเรทราคา ของสเปกต่างๆ คือมีการปูพื้น มีแอร์หนึ่งตัว
“สเปกมีหลายอย่าง เราก็เทียบกับราคาดูแล้วก็เป็นราคาที่เหมาะสมคือเราจะมีที่กั้นด้วย” นายฉัทพัธระบุและกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าจะประสานงานกับเจ้าหน้าที่ผู้ประเมินราคา ให้ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราดูข้อมูลราคาป้อมยามโดยจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งเมื่อรวบรวมเอกสารได้ครบ
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีกี่บริษัทที่เสนอราคาเข้ามากี่บริษัท
นายฉันทพัทธ์กล่าวว่า กสทช.บังคับ บ.จัสมินฯให้ทำให้ เขาก็ไม่อยากทำ แต่มันเป็นงานต่อเนื่องกับการติดตั้งสาย CCTV เดิม ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุใดต้องเป็นบริษัทจัสมินฯ และ กสทช.จัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์อื่นๆ กับจัสมินด้วยหรือไม่
นายฉันทพัทธ์นายกล่าวว่าที่ต้องเป็นบริษัทจัสมินเพราะมันเป็นระบบที่เกี่ยวพันกับการติดตั้งสาย CCTV ซึ่งจริงๆ แล้วบริษัทจัสมินเขาก็ไม่อยากรับ
ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุใดในช่วงติดตั้งกล้อง CCTV บริษัทจัสมินจึงได้รับเลือก
นายฉันทพัทธ์กล่าวว่าช่วงนั้นมีการสอบราคามาตั้งแต่ก่อนที่ตนจะเข้ามาดูเรื่องนี้ ทราบว่าเมื่อสอบราคากัน แล้วบริษัทจัสมินฯ ก็ชนะ “ระบบ มันเชื่อมต่อ เชื่อมโยงกัน ก็ต้องใช้บริษัทเดียวกัน ถ้าไม่ใช่จัสมินมาทำ ถ้าเอาเจ้าใหม่มาทำ มันก็อาจเชื่อมต่อกันยาก เรื่องนี้สอบราคาแข่งขันนานแล้ว” นายฉันทพัทธ์ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อครั้งติดตั้งกล้อง CCTV มีกี่บริษัทเสนอราคา นายฉันทพัทธ์กล่าวว่า ไม่แน่ใจ ตอนนั้น ผมยังไม่ได้ดูส่วนนี้และไม่ใช่คนสอบราคา
“ยอมรับว่าปัญหาป้อมยามคาราคาซังมาก เมื่อทำแล้ว เราก็อยากให้ดูดี ในเชิงนโยบายก็อยากให้ขยายทางด้วย แต่ผมเข้าใจว่าป้อมตัวนี้อาจจะยังไม่ได้ทำเรื่องเบิกจ่ายให้กับจัสมิน เนื่องจากบริษัทจัสมินเองก็มีปัญหาภายใน แต่ผมก็เร่งให้เขามาติดตั้งสายให้” นายฉันทพัทธ์ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่าราคาป้อมยามสี่แสนกว่าบาท เป็นราคาที่สูงเกินไปไหม จะพิจารณาหรือทบทวนหรือไม่ นายฉันทพัทธ์กล่าวว่าเมื่อดูจากราคาที่เขาเสนอ ค่าบริหารจัดการก็เป็นไปตามกลไก
“ถามว่าจะทบทวนหรือเปล่า คือเรื่องนี้ออกใบจัดจ้างแล้ว กลับตัวไม่ได้แล้ว ต้องจ่ายเท่านั้น เรื่องการทบทวนก็ไม่สามารถทบทวนอะไรได้ การทบทวนลำบากแล้ว คนดูราคาเขาคงดูมาดีแล้ว ส่วนสภาพป้อมตอนนี้ยังไม่เรียบร้อยนัก เพราะยังไม่ติดตั้งกล้องข้างหน้าป้อมเลย ยังเหลือไวร์สาย (Wire-การติดตั้งสายไฟในท่อ ) ยังเหลือทำทาง ยังมีรายละเอียดอื่นๆ อีก ซึ่งราคาป้อมทั่วไปก็ 2-3 แสนบาท เมื่อรวมรายละเอียดอื่นๆ ด้วยก็ราคาประมาณนี้นะ รวมไม้กระดกอีกก็โอเค” นายฉันทพัทธ์ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า บริษัทจัสมินเทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) (JASMINE TELECOM SYSTEMS PUBLIC COMPANY LIMITED) จดทะเบียนเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2547 ทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 706,457,300 บาท ที่ตั้งบริษัท อาคารจัสมินอินเตอร์เนชั่นแนลทาวเวอร์ ชั้น 9, 200 หมู่ 4 ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด นนทบุรี ประเภทธุรกิจ ขายและติดตั้งอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม - นำเข้า,ค้าปลีก,ค้าส่ง
ข้อมูลการประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557 ราคาหุ้นละ 1.00 บาท ปรากฏรายชื่อผู้ถือหุ้นดังนี้
1.บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) จำนวนหุ้น 231,714,400
2.บริษัทเอเซียส รีเยนแนล เซอร์วิส จำกัด จำนวนหุ้น 64,027,700
3.บริษัทที.เจ.พี. เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด จำนวนหุ้น63,918,000
4.นาย วิชัย บุญสถิรพงศ์ จำนวนหุ้น20,000,000
5.นาย เกียรติ ศรีจอมขวัญ จำนวนหุ้น18,000,000
6.นาย วีรยุทธ เอี่ยมสุทธิวัฒน์ จำนวนหุ้น7,700,000
7.บริษัทไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวนหุ้น6,058,000
8.นาย สิทธิชาติ จงวัฒนธรรม จำนวนหุ้น6,000,000
9.นาย สนอง สวยพริ้ง จำนวนหุ้น 4,850,000
10. นาย เกริกไกร ไตรบัญญัติกุล จำนวนหุ้น 4,407,800
11. นาง มาลัย เทาศรีดี จำนวนหุ้น 4,165,000
ข้อมูลรายชื่อกรรมการ ประกอบด้วย นายปลื้มใจ สินอากร,ว่าที่ ร.ต. อรรณพ สูทกวาทิน,นาย เกรียงศักดิ์ เฉลิมติระกูล,นางนงลักษณ์ พงษ์ศรีหดุลชัย,นางนิตย์ วิเสสพันธุ์,นายรักษ์ อุณหโภคา,พล.ต.หญิงสุนันทา สิริสัมพันธ์
กรรมการผู้มีอำนาจลงนามคือ นายปลื้มใจ สินอากร, นายเกรียงศักดิ์ เฉลิมติระกูล, นางนงลักษณ์ พงษ์ศรีหดุลชัย, นางนิตย์ วิเสสพันธุ์ โดย 2 ใน 4 คนนี้มีอำนาจลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของบริษัท
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บริษัท จัสมิน เทเลคอมซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) ยังเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการ 1 คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียน ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปีการศึกษา 2556 ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และครูในพื้นที่โซน 4 คือ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวน 402,889 เครื่อง มูลค่า 873,866,241 บาท แต่บ.จัสมินฯ ไม่สามารถจัดส่งเครื่องแท็บเล็ตได้ตามกำหนดสัญญาเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2556 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่มีนายอภิชาติ จีระวุฒิ เป็นเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานขณะนั้น จึงยกเลิกสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง แท็บเล็ตโซน 4 กับบริษัท จัสมิน เทเลคอมซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน)