logo isranews

logo small 2

เปิดบทสัมภาษณ์ 'ประวิทย์' เจ้าของบัญชีเงินฝากคดี รพช. "ผมไม่ได้รวยพันล้าน"

เขียนวันที่
วันจันทร์ ที่ 05 ธันวาคม 2559 เวลา 20:30 น.
เขียนโดย
isranews

"ปัญหามีอยู่ว่า เขาจะมาเอาเงินทีเดียว 3 ล้านบาทไป มันอันตราย เขาเลยบอกว่า ขอเป็นเช็คได้มั้ย เพราะปลอดภัยกว่าหอบเงิน 3 กิโลฯ ไป ก็แค่นี้ เรื่องอะไรผมจะต้องโจ๋งครึ่มขนาดนั้น ผมก็ให้การกับ ป.ป.ช. อย่างนี้ เพราะความจริงเป็นอย่างนี้ ตอนหลังมานี่ ผมไม่ต้องไปแบงก์เลย จะเบิกเงินหรือฝาก เขาจะมีพนักงานมาที่บ้าน"

031259 chonbot 0

หมายเหตุสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : บทสัมภาษณ์ นายประวิทย์ อริยกานนท์ เจ้าของบัญชีคดี รพช. และเจ้าของร้านเอี่ยมแสงยนต์ เมื่อ 2 ธ.ค. 2559

ในคดีการซื้อขายตำแหน่งในสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท (รพช.) นายประวิทย์ อริยกานนท์ เจ้าของร้านขายเครื่องจักรกล เอี่ยมแสงยนต์ ย่านมหาจักร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ ปรากฏชื่อเข้ามาเกี่ยวข้องเพราะถูกนายประสิทธิ วิไลลักษณ์ อดีตผู้อำนวยการ ศูนย์ปฏิบัติการ รพช. ขอนแก่น กล่าวหาว่าร่วมกับนายทวี ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ รพช. โดยนายประวิทย์ หรือ นายกิมหงวน แซ่ลิ้ม  เป็นเจ้าของบัญชีเงินฝาก ที่ข้าราชการ รพช.หลายราย ใช้โอนเงินเข้ามา  (รวมถึงนายประสิทธิ์)  หลังจากนั้นนายประวิทย์ก็นำเงินดังกล่าวที่ได้รับโอนมาให้บุตรชายนำไปมอบให้ข้าราชการผู้ใหญ่ใน รพช.อีกทอด  นายประสิทธิ์อ้างว่าเฉพาะนายประสิทธิ์รายเดียวได้โอนเงินผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนมหาไชย ของนายประวิทย์ในช่วงปี 2538-2540 ประมาณ 5 ครั้งรวมประมาณ 18  ล้านบาท ไม่รวมบุคคลอื่นหลายคน  เช่น เจ้าหน้าที่ รพช.หนองคาย 500,000 บาท  เป็นต้น 

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2559  ที่ร้านเอี่ยมแสงยนต์ เวลาประมาณ 13.15 น. นายประวิทย์ หรือ นายกิมหงวน เปิดร้านเอี่ยมแสงยนต์ เปิดใจกับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org  

นายประวิทย์เล่าว่า เข้าไปรู้จักกับข้าราชการ รพช. เนื่องจาก ตนเปิดร้านเอี่ยมแสงยนต์ตั้งแต่ปี 2512 ค้าขายกันมานานก็รู้จักกันหมด สมัยก่อนส่วนกลางไม่มี ขึ้นกับผู้ว่าราชการจังหวัด ขึ้นกับปลัดจังหวัด เลยต้องไปพบก็มีหลาย ๆ ผู้ว่าฯ ที่รู้จักกัน และค้าขายกันมาตลอด แล้วตอนหลังค่อยมาข้างใน

"ผมโชคดี ที่รู้จักส่วนมากเป็น ผอ.กองการเจ้าหน้าที่ โดยคนที่รู้จักคนแรกเป็นคนบ้านเดียวกัน เป็นคนนครปฐม ผอ.ศูนย์ทั้ง 10 แห่งก็รู้จักหมด เพราะว่าเวลาไปกินข้าวไปอะไรมันก็ต้องไปด้วยกันหมด ผมรู้จักกับข้าราชการตั้งแต่สมัยที่ยังไม่เรียกว่า ซี ตั้งแต่ที่เรียกข้าราชการชั้นตรี ชั้นโท พวกนี้ส่วนมากจะไหว้วานกัน สมมติว่า คนในส่วนกลางพ่อแม่เขาเสีย เขาจะโทรมาให้จัดการให้ ทั้งที่ บางคนก็ไม่ได้รู้จักกันนะ แต่ว่าก็ต้องบริการเขา คุณก็รู้เวลาราชการทอดผ้าป่า เขาก็จะขอกันมา ผมก็รวบรวมทำบุญให้ไป"

@พวกข้าราชการ รพช. มาขอใช้บัญชีได้อย่างไร

ก็รู้จักกัน พวกนี้เขามาขอใช้บัญชี ผมก็ต้องให้ เขารู้กันหมด พออบรม หรือ เขาจะไปเที่ยวต่างประเทศก็จะให้ไปแลกเงิน ตนก็ไปแลก และก็บอกกับ ป.ป.ช. ตามตรงว่าไปแลกที่ไหน

"เวลากลับมา เขาชอบซื้อกางเกงยีนส์มาฝาก ผมนี่ได้เยอะกว่าคนไปอีก เพราะเขาซื้อมาฝากกันคนละตัว ๆ คือ ผมใช้ความซื่อสัตย์สุจริตกับทุกคน ผมไม่ซี้ซั้วพูด อะไรไม่พูดก็ไม่พูด เพราะฉะนั้น พรรคพวกก็เลยเยอะ"

@ผู้ร้องอ้างว่า โอนเงินเข้าบัญชีนายประวิทย์ ประมาณ 5 ครั้ง เป็นเงิน 10 กว่าล้านบาท

เกิน 5 ครั้ง แต่ไม่รู้กี่ครั้ง ผมจำไม่ได้ เขาบอกกับผมว่า บอกกับใครอีกไม่รู้ว่า เขาฝากเงินสดไว้กับผม 5 ล้านบาท ให้เอาไปให้ แล้วเข้าไปห้อง ผอ.ทวี แล้วทำไมเขาเอาเงินมาฝากผม ทำไมไม่เอาไปให้กันเองโดยตรง มันต้องมีสาเหตุว่าทำเพื่ออะไร เช็คของ ผอ.ประสิทธิ์ (ผู้ร้อง) ที่เขาโอนมา ป.ป.ช. เขาก็เอามาให้ผมดู ผมก็เห็น 

@ยืนยันว่า เขาโอนเงินมาให้แล้วก็มารับไป?

ใช่ สมัยโนู้นระยะหนึ่ง เวลาที่เขาจะมานัดเจอกันที่นี่ เขาเรียกสโมสร รพช. จะรู้กันหมด เขาก็จะมาเจอกันที่นี่ คือจะรู้กันอยู่ว่าที่นี่จะมาชุมนุมกันเยอะ พวกนายช่าง รพช. พวกอะไรต่ออะไร ผู้ใหญ่เขาก็มาคุยกันอะไรกัน ตอนนั้นมาคุยกันที่นี่มากที่สุด เสร็จแล้วก็นัดไปกินข้าวกัน

@มีการอ้างว่า  เงินจำนวน 5 แสนบาทถูกโอนเข้ามาของคุณประวิทย์  เป็นของนายจงรักษ์ สกุลคู  อดีต รพช.หนองคาย ได้มาจากการซื้อขายพระเครื่องใช่หรือไม่

"พระเครื่อง คือ ผมเป็นคนพาเขาไปร้านทองที่อยู่ริมคลองหลอด เพราะว่าผมสนิทกับเขา เขาก็โทร.มาบอกว่า มีสมเด็จกับหลวงปู่ทวดอยู่ 2 องค์ สวย ไม่ได้ใช้เลย ผมก็ถามเอามาจากไหน เขาว่าจากสุพรรณฯ เลยโทรบอกเขา ก็มีนายช่างอีกคนที่ตามไปดูด้วย เป็นนักเล่นพระเหมือนกัน นายจงลักษณ์เลยซื้อไปทั้ง 2 องค์ ครอบครัวเขามีเงิน เป็นเจ้าของที่ดินใน จ.หนองคาย เยอะ ทีนี้เขาก็ต้องโอนเงินมา เพราะผมพาเขาไป ผมก็เอาตังไปให้ที่ร้านเขา ที่เหลือก็เอาไปให้ลูกสะใภ้ผม ซึ่งก็คือลูกสาวเขา"

@กรณีผู้ร้องฟ้องคดีล่าสุด ว่า ได้โอนเงินเข้าในบัญชีจำนวน 3 ล้านบาท เมื่อ ต.ค. 2539 แล้วก็มารับไป มีข้อเท็จจริงอย่างไร

 ทุกครั้งที่นายประสิทธิ์ วิไลลักษณ์ โอนเงินมา ก็จะมารับเงินสดไปเองทั้งหมด มีอยู่ครั้งหนึ่งโอนมา 7 ล้านบาท จำไม่ได้ว่าตอนไหน ก็มารับไปเอง แล้วตนจะไปอ้างได้อย่างไร เวลาเขามารับไป ถ้าจะอ้างพยาน ก็ต้องบอกลูกชาย แต่ก็ไม่ได้อ้าง ถ้าเอาไปก็คือเอาไป พร้อมยืนยันว่า นายประสิทธิ์ ยืมใช้บัญชีในการโอนเงินมากกว่า 5 ครั้ง

"ผมไม่เข้าใจ คือ เขาคิดว่าผมมีเงิน แล้วทำจดหมายมาถึงผม ภรรยา ลูกผมอีก 4 คน บอกภายใน 5-7 วันให้รีบมาเคลียร์ สภาพผมแบบนี้ บ้านก็เช่า ที่ดินก็ไม่มีสักตารางวา จะมีเงินอะไรมากมายตั้งเป็นพันล้าน คุณดูเศรษฐีพันล้านเขาใส่เสื้อตัวละ 120 บาทอย่างนี้หรอ"

@ผู้ร้องอ้างช่วงปี 2538-2540 มีเงินเข้าบัญชีเกือบพันล้านบาท มีข้อเท็จจริงอย่างไร

ป.ป.ช. สอบไปแล้ว เลยบอกให้ลองเช็คดูสิว่า ตัวเลขที่เขาฝากมากับที่เบิกออกมาตรงกันไหม และมันตรงกัน ไม่ใช่ว่าไม่ตรง ที่เป็นเศษสตางค์แสดงว่าเป็นเช็คค้าขาย ส่วนที่เขาโอนมาเป็นตัวเลขกลม ๆ แล้วผมจะมีเงินพันล้านได้อย่างไร

"ผมก็ให้ลูกไปบ้าง เขาก็เอาไปปลูกบ้านปลูกอะไร ลูกคนโตก็ให้ไปเยอะหน่อยหลายล้าน ไปปลูกบ้านอยู่. แต่ตอนนี้ไม่ใช่ของลูกผมแล้ว เอาไปกู้แบงค์แล้วโดนแบงก์ยึด มีหลักฐาน และถ้าผมมีเงินเป็นพันล้าน ผมจะปล่อยให้แบงก์มายึดที่ดินลูกชายหรอ บ้านพร้อมที่ดิน เพราะมันไม่ใช่ที่ดินผมอย่างเดียว ของพ่อตาที่ให้ไว้ 100 กว่าตารางวาก็โดนไปด้วย ก็โดนไปเยอะพอสมควร"

@ผู้ร้องอ้างมีเช็ค 2 ใบ 2 ล้านบาท โดยเป็นเงินจากการโอนเข้ามา แล้วนายประวิทย์เป็นคนสั่งจ่ายเช็คให้นายทวี ทวีวงศ์ เงินจำนวนนี้เป็นค่าอะไร

ตอนนั้น มีเจ้าหน้าที่แบงก์รายหนึ่ง สามีเขาเป็นเพื่อนกับลูกชาย ต้องการหาเงิน 10 ล้านบาท เพื่อเพิ่มยอดฝาก แล้วจะได้เป็นผู้จัดการ ทีนี้เขาเสนอดอกเบี้ยมาให้สูง แต่ตนก็ปัดไป พอดีได้คุยนายทวีจึงชวน เพราะเห็นว่า คุณแมว ภรรยาเขาเป็นคนตระหนี่ เขาจะเก็บเงินเยอะ เลยบอกเรื่องดอกเบี้ยสูง ถามจะเอามั้ย ถ้าจะเอาก็เอาไป

"ปัญหามีอยู่ว่า เขาเป็นผู้หญิง เขาจะมาเอาเงินทีเดียว 3 ล้านบาทไป มันอันตราย เขาเลยบอกว่า ขอเป็นเช็คได้ไหม เพราะปลอดภัยกว่าหอบเงิน 3 กิโลฯ ไป ก็แค่นี้ เรื่องอะไรผมจะต้องโจ๋งครึ่มขนาดนั้น ผมก็ให้การกับ ป.ป.ช. อย่างนี้ เพราะความจริงเป็นอย่างนี้ ตอนหลังมานี่ ผมไม่ต้องไปแบงก์เลย จะเบิกเงินหรือฝาก เขาจะมีพนักงานมาที่บ้าน"

ทั้งหมดคือข้อมูลจากนายประวิทย์ ขณะที่เจ้าตัวต้องตกเป็นจำเลยในคดีล่าสุดกรณีถูกนายประสิทธิ์ ฟ้องต่อศาลจังหวัดขอนแก่น เมื่อเดือน ก.ย. 2559 ที่ผ่านมา ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงกันต่อไป 

031259 chonbot 01

031259 chonbot 02

031259 chonbot 03

อ่านประกอบ :

เปิดคำให้การ อดีต ผอ. รพช. รับเช็ค 2 ล. ‘ช่วยเมียลูกชายเพื่อนทำยอดเงินฝาก’

ขมวด 5 ขรก. โอนเงินเข้าบัญชี 'เจ้าของร้านเครื่องจักรกล' 27.4 ล. คดี รพช.

คำให้การ'เฉลิม-ชัยสิทธิ์'คดีซื้อขายเก้าอี้ รพช.-ปัดเปิด ร.ร.สั่งลูกน้องส่งหัวคิว 2%

ไทม์ไลน์ชัดๆ คดีเรียกรับ 3 ล. บิ๊ก รพช. 13 ปีในมือ ป.ป.ช.-ขาดอายุความ 1 ข้อหา

อดีตซี 9 ฟ้อง ผอ.รพช. อีกคดี!เรียกรับ 3 ล.- นักธุรกิจแจงแค่ยืมบัญชีโอนเงิน

เบื้องหลังจ่าย 3 ล.! คำให้การ ซี 8 “นายให้นโยบายต้องจัดส่งค่าบริหารงาน 1%”

พบอีก 2 ขรก. โผล่โอนเงินเข้าบัญชี'เสี่ย ป.'ใกล้ชิดบิ๊ก รพช. 3 ล. 'ไม่รู้ค่าอะไร'

เปิดใบโอนเงิน 3 ล้าน คดีสินบน รพช.

คำให้การลึก! คดีซื้อขายเก้าอี้ รพช. คนเดียวจ่ายยิบให้ ‘บิ๊ก’ 8 ครั้ง 28 ล้าน

เปิดพฤติการณ์คดีสินบน 3 ล. ซี 9 รพช. เบิกเงินสดจากแบงก์ไปจ่ายถึงห้องทำงาน

ศาลสั่งจำคุก 6 ปี ซี 9 รพช.รับเงินสด 3 ล.ค่าซื้อเก้าอี้ ผอ.ศูนย์ขอนแก่น ไม่ให้ถูกย้าย