ผู้ต้องหารับสารภาพฟ้องด้วยวาจาได้! สนง.ศาลแจงปมคำสั่ง คสช.ย้ายอัยการนาทวี
โฆษกศาลยุติธรรมแจงปมคำสั่ง หน.คสช. ย้าย 2 อัยการจังหวัดนาทวี ยันผู้ต้องหาถูกจับคดีเล่นพนัน ผู้ต้องหารับสารภาพ อัยการฟ้องด้วยวาจาได้ ส่วนคดีค้ามนุษย์อยู่ระหว่างไต่สวน
จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 33/2559 ให้ข้าราชการที่ถูกร้องเรียนหรือกล่าวหาว่าปล่อยปละละเยให้มีการกระทำผิดในพื้นที่หรือมีการทุจริตประพฤติมิชอบย้ายไปปฏิบัติราชการใหม่ ซึ่งปรากฏชื่อของนายวาทิต สุวรรณยิ่ง อัยการจังหวัดนาทวี ไปปฏิบัติราชการในสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) และนายมาโนช รัมมะสินธุ์ รองอัยการจังหวัดนาทวี ไปปฏิบัติราชการในสำนักงาน อสส. ด้วยนั้น
ขณะที่แหล่งข่าวจากกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีนี้ว่า ภายหลังที่ พล.อ.ประยุทธ์ มีคำสั่งดังกล่าว สำนักงาน อสส. ได้ดำเนินการตรวจสอบถึงสาเหตุว่าทำไมนายวาทิต และนายมาโนช จึงปรากฏชื่อในข้าราชการที่ถูกโยกย้ายด้วย พบข้อเท็จจริงว่า เป็นการเข้าใจผิดของทหารภายในพื้นที่ซึ่งได้รายงานให้หัวหน้า คสช. รับทราบแล้วนั้น
(อ่านประกอบ : ม.44 ย้ายผู้ว่าฯ-ตร.-อัยการฯถูกกล่าวหาทุจริต-สั่งสอบ 30 วันต้องเสร็จ, อสส.สอบแล้ว! ยันคำสั่ง คสช.ย้ายอัยการนาทวีผิดพลาด-ชง‘บิ๊กตู่’แก้)
ล่าสุด นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า ตามที่มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 33/2559 เรื่อง ให้ข้าราชการไปปฏิบัติราชการในหน่วยงานอื่น ซึ่งสื่อมวลชนได้มีการนำเสนอข่าวที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งดังกล่าวและปรากฏถึงการฟ้องคดีอาญาด้วยวาจาในคดีความผิดต่อพระราชบัญญัติการพนันฯ และคดีความผิดต่อพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในศาลยุติธรรมนั้น
สำนักงานศาลยุติธรรมขอชี้แจงว่า เกี่ยวกับการฟ้องคดีอาญาด้วยวาจานั้น มีบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 19 – 21ซึ่งอธิบายโดยสรุปได้ว่า ในคดีความผิดซึ่งกฎหมายกำหนดอัตราโทษอย่างสูงไว้ให้จำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อหาต่อพนักงานสอบสวน ให้พนักงานสอบสวนนำหรือสั่งผู้ต้องหามายังหรือไปพบพนักงานอัยการ เพื่อฟ้องศาลโดยมิต้องทำการสอบสวน และให้ฟ้องด้วยวาจา โดยให้ศาลถามผู้ต้องหาว่าจะให้การประการใด และถ้าผู้ต้องหายังให้การรับสารภาพ ให้ศาลบันทึกคำฟ้อง คำรับสารภาพ และทำคำพิพากษาในบันทึกฉบับเดียวกัน แล้วให้โจทก์ จำเลยลงชื่อไว้ในบันทึกนั้น ถ้าผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ให้ศาลสั่งให้พนักงานอัยการรับตัวผู้ต้องหาคืนเพื่อดำเนินการต่อไป
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีนี้มีการฟ้องคดีอาญาด้วยวาจาจำเลยรวม 225 คน ที่ศาลจังหวัดนาทวีตามคดีอาญาหมายเลขดำที่ 2059/2559 เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2559 ในข้อหาร่วมกันเล่นการพนันและเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ทุกข้อหาที่ฟ้องล้วนแต่มีอัตราโทษตามกฎหมายให้จำคุกอย่างสูงไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาททั้งสิ้น
“เมื่อข้อเท็จจริงในคดีดังกล่าวปรากฏว่าผู้ต้องหาทั้งหมดที่ถูกจับกุมให้การรับสารภาพ จึงชอบที่พนักงานอัยการโจทก์จะฟ้องคดีด้วยวาจาได้และศาลจังหวัดนาทวีมีอำนาจพิจารณาพิพากษาได้ทันทีตามบทบัญญัติของกฎหมาย” นายสุรพงษ์ กล่าว
ส่วนคดีความผิดต่อพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์นั้น นายสุรพงษ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบ พบว่า มีการฟ้องคดีในความผิดดังกล่าวต่อศาลจังหวัดนาทวี รวม 5 คดี โดยมีการกำหนดวันนัดสืบพยาน 4 คดี และนัดพร้อมเพื่อตรวจพยานหลักฐาน 1 คดี ส่วนที่ศาลจังหวัดสมุทรสาครมีการฟ้องคดีในความผิดดังกล่าว 5 คดีเช่นกัน โดยการมีการนัดสืบพยานและสืบพยานโจทก์ล่วงหน้า รวม 2 คดีสืบพยานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพ 2 คดี และนัดพร้อม 1 คดี ซึ่งในทุกคดีของศาลจังหวัดนาทวีและศาลจังหวัดสมุทรสาครจะมีการดำเนินกระบวนพิจารณาแบบครบองค์คณะและต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถพิจารณาพิพากษาคดีได้อย่างรวดเร็ว