อ้างฟังไม่ขึ้น! สตง.ยันให้วัดถือเงินสดคืน ผอ.สำนักพุทธสงขลา 3.2 ล.ผิดปกติ
สตง. ชี้ปม ผอ.สำนักพระพุทธฯสงขลา เรียกรับเงิน 3.2 ล้าน ผิดปกติ ยันคำให้การ รอง ผอ.สำนักพระพุทธฯอ้าง โอนเงินผิด 3.2 ล้าน ไม่น่าจะเป็นไปได้ ทำไมไม่โอนคืน หรือทำเป็นเช็ค ลั่นคำให้การฟังไม่ขึ้น รอดู ป.ป.ช. รับเรื่องมาไต่สวนต่อ
จากกรณีสำนักงานอัยการ จ.สงขลา ลงนามโดยนายสมยศ เสรีอภินันท์ อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการภาค 9 รักษาการในตำแหน่งอัยการ จ.สงขลา มีคำสั่งไม่ฟ้องนายเสถียร ดำรงคดีราษฎร์ ผอ.สำนักพระพุทธศาสนา จ.สงขลา ที่ถูกกล่าวหาทำความผิดฐานเรียกรับเงินจากวัด จำนวน 3.2 ล้านบาท โดยให้เหตุผลว่า พยานหลักฐานไม่พอฟ้อง หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จ.สงขลา สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ภาค 15 และ สภ.เมืองสงขลา ดำเนินการบุกจับกุมพร้อมของกลาง เมื่อช่วง ส.ค. 2558
โดยในกรณีดังกล่าวนางประนอม คงพิกุล รอง ผอ.สำนักพระพุทธฯ ให้การว่า โอนเงินเข้าบัญชีวัดผิดจาก 8 แสนบาท เป็น 4 ล้านบาท รวมถึงประเด็นให้นายเสถียรเป็นผู้รับมอบเงินดังกล่าวคืนเป็นเงินสดแทนที่จะให้วัดโอนคืนกลับมาด้วยนั้น
(อ่านประกอบ : หลักฐานไม่พอ! อัยการไม่ฟ้อง ผอ.สำนักพุทธฯสงขลาเรียกรับเงินวัด 3.2 ล., ไขปริศนา? ทำไมอัยการไม่ฟ้อง ผอ.สำนักพุทธฯสงขลาเรียกรับเงิน 3.2 ล.)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับการยืนยันจากนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่า สตง. ถึงกรณีนี้ว่า การตรวจสอบในชั้น สตง. จบไปแล้ว เพราะได้เข้าร่วมดำเนินการจับกุมกับ ป.ป.ช. ป.ป.ท. และพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา และพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา ได้รับมอบจาก ป.ป.ช. ให้ดำเนินการสอบสวน กระทั่งมีส่งเรื่องให้อัยการ จ.สงขลา และอัยการฯมีคำสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว
อย่างไรก็ดีในประเด็นเรื่องการเรียกรับเงินคืนให้กับสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตามคำให้การของนางประนอม ที่ระบุว่า โอนเงินเข้าบัญชีวัดผิดจาก 8 แสนบาท เป็น 4 ล้านบาทนั้น นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตามข้อเท็จจริงไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะมีการโอนเงินผิดขนาดนั้น รวมถึงหากมีการโอนเงินผิดจริง ทำไมถึงไม่ให้วัดดำเนินการโอนเงินคืนมา หรือโอนคืนเป็นเช็ค ซึ่งตามระเบียบราชการต้องเป็นเช่นนั้น ไม่ใช่ให้ทางวัดถือเงินสดมามอบคืน รวมถึงเป็นการคืนที่ลานจอดรถ ทำไมถึงไม่คืนในสถานที่ราชการ ดังนั้นการที่รอง ผอ.สำนักพระพุทธฯ กล่าวอ้างจึงฟังไม่ขึ้น
“เรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะมีการโอนเงินผิดไปถึง 3.2 ล้านบาท เพราะการโอนปกติต้องโอนตามที่ได้รับการจัดสรรจากสำนักงบประมาณ ซึ่งมีการระบุไว้ชัดเจนอยู่แล้ว นอกจากนี้หากจะคืน ตามระเบียบราชการต้องโอนเงินคืน ดังนั้นคำให้การดังกล่าวของนางประนอมจึงไม่อาจรับฟังได้ อย่างไรก็ตามประเด็นนี้ทาง สตง. ดำเนินการเสร็จแล้ว เป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ว่า จะเรียกเรื่องดังกล่าวมาไต่สวนต่อ หรือทำอย่างไรต่อไป” นายพิศิษฐ์ กล่าว
อนึ่งก่อนหน้านี้ นายสมยศ เสรีอภินันท์ อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการภาค 9 รักษาการในตำแหน่งอัยการ จ.สงขลา ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีนี้สั้น ๆ ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่สื่อเสนอ และตามหนังสือที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง โดยปัจจุบันได้ทำหนังสือส่งไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อเรียนให้ทราบแล้ว และยืนยันว่าอัยการพิจารณาสำนวนตามที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา เป็นผู้สอบสวนเท่านั้น ไม่ได้พิจารณาเรื่องอื่นนอกเหนือสำนวนแต่อย่างใด
อ่านประกอบ :
เพิ่งรับตำแหน่งไม่รู้เรื่อง! อัยการยันเห็นพ้อง ตร.ปมไม่ฟ้อง ผอ.สำนักพุทธฯสงขลา
ป.ป.ช.ยันดึงคดี ผอ.สำนักพุทธฯสงขลาเรียกรับเงิน 3.2 ล.มาไต่สวนเอง