หลักฐานไม่พอ! อัยการไม่ฟ้อง ผอ.สำนักพุทธฯสงขลาเรียกรับเงินวัด 3.2 ล.
อัยการไม่ฟ้อง ผอ.สำนักพุทธฯสงขลา คดีเรียกรับเงินจากวัด 3.2 ล้าน หลัง ป.ป.ท.-ป.ป.ช.-สตง.ตร. บุกจับกุมช่วงปี’58 อ้างพยานหลักฐานไม่พอ รอง ผอ.สำนักพุทธฯ การันตีเอาเงินไปแบ่งจ่ายวัดอื่นจริง
จากกรณีเมื่อช่วง ส.ค. 2558 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จ.สงขลา สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ภาค 15 และตำรวจสถานีตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เข้าจับกุมนายเสถียร ดำรงคดีราษฎร์ ผอ.สำนักงานพุทธศาสนา จ.สงขลา พร้อมของกลางเป็นเงินสด 3.2 ล้านบาท ในคดีเรียกรับเงินตอบแทนเพื่อผลประโยชน์จากวัดต่าง ๆ ใน จ.สงขลา
โดยนายเสถียร ถูกกล่าวหาว่า เรียกรับเงินที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โอนเงินค่าสนับสนุนสำหรับจัดทำโครงการอบรมพระธรรมทูตเผยแพร่พุทธศาสนา ประจำปี 2558 โดยได้โอนเงินเข้าวัดชลธาราวาส 4 ล้านบาท และได้เรียกรับเงินและทำความตกลงกับวัดให้มอบเงินจำนวน 3.2 ล้านบาทให้แก่นายเสถียร เพื่อนำไปแบ่งจ่ายให้วัดอื่น ๆ ต่อ
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อช่วงเดือน เม.ย. 2559 มีหนังสือจากสำนักงานอัยการสงขลา ลงนามโดยนายสมยศ เสรีอภินันท์ อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการภาค 9 รักษาการตำแหน่งอัยการจังหวัดสงขลา ถึงผู้กำกับ สภ.เมืองสงขลา ระบุคำสั่งไม่ฟ้องนายเสถียร ผู้ต้องหาคดีดังกล่าว เนื่องจากพิจารณาจากพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานวัตถุ ที่ได้ทำการสอบสวน ข้อเท็จจริงไม่พอรับฟังได้ว่า ผู้ต้องหากระทำความผิดตามข้อกล่าวหา คดีจึงมีพยานหลักฐานไม่พอฟ้อง
สำหรับกรณีนี้ นางประนอม คงพิกุล รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นายมานะ ลือสวัสดิ์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.นราธิวาส และนายถมยา ศรีประสมสวัสดิ์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ปัตตานี ได้ให้การยืนยันเช่นเดียวกันว่า นายเสถียร นำเงินดังกล่าวไปแบ่งจ่ายให้วัดอื่น ๆ ต่อจริง (ดูเอกสารประกอบ)