แพร่ประกาศตั้ง"มูลนิธิราชภักดิ์” ประเดิมทุนเริ่มแรก 2แสน 'อุดมเดช' นั่งปธ.
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่เป็นทางการแล้ว ประกาศตั้ง “มูลนิธิราชภักดิ์”หลังจดทะเบียนตั้งแต่ 16 ก.ย.58 ระบุทุนเริ่มแรก เงินสด 2 แสน 'พลเอก อุดมเดช สีตบุตร' นั่งตำแหน่งปธ.
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ย.2558 ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนจัดตั้ง “มูลนิธิราชภักดิ์”
ระบุว่า ด้วย พันเอก ศักดิ์ศิริ เกาะสูงเนิน ผู้รับมอบอำนาจ ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิราชภักดิ์ต่อนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร มีใจความสำคัญตามข้อบังคับของมูลนิธิ ดังนี้
๑. มูลนิธิชื่อ “มูลนิธิราชภักดิ์”
๒. วัตถุประสงค์ของมูลนิธิ คือ
๒.๑ เพื่อเป็นการเทิดทูนและประกาศเกียรติคุณองค์พระมหากษัตริย์ไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ที่ทรงสร้างคุณูปการที่ยิ่งใหญ่ต่อประเทศชาติ อันนำมาสู่ความเจริญรุ่งเรืองและความเป็นปึกแผ่นของชาติไทยตราบจนทุกวันนี้
๒.๒ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์ เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนการเทิดทูนและประกาศเกียรติคุณองค์พระมหากษัตริย์ไทย ตลอดจนสร้างความเข้าใจและปลูกจิตสำนึกแก่เยาวชน และประชาชนทั่วไป
๒.๓ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการร่วมสมทบทุนในการก่อสร้างถาวรวัตถุ อาคาร สิ่งปลูกสร้างรวมถึงการดูแลและบำรุงรักษาอุทยานราชภักดิ์
๒.๔ เพื่อดำเนินการหรือร่วมมือกับองค์การการกุศลอื่น ๆ เพื่อสาธารณประโยชน์
๒.๕ ไม่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่ประการใด
๓. สำนักงานใหญ่ของมูลนิธิตั้งอยู่ที่ เลขที่ ๓๒๖/๒ ถนนอำนวยสงคราม แขวงถนนนครไชยศรีเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
๔. ทรัพย์สินของมูลนิธิมีทุนเริ่มแรก คือ เงินสด จำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท (สองแสนบาทถ้วน)
๕. การจัดการของมูลนิธิในวาระเริ่มแรก มีคณะกรรมการดำเนินงานดังรายนามต่อไปนี้
๕.๑ พลเอก อุดมเดช สีตบุตร ประธานกรรมการ (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม)
๕.๒ พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รองประธานกรรมการ (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ)
๕.๓ พลเอก พิสิทธิ์ สิทธิสาร กรรมการ
๕.๔ พลโท สุทัศน์ จารุมณี กรรมการ
๕.๕ พันเอก ชูชาติ สุกใส กรรมการและเหรัญญิก
๕.๖ พันเอก สุชาติ พรมใหม่ กรรมการและเลขานุการ
นายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร ได้มีคำสั่งรับจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิรายนี้แล้ว เลขทะเบียนลำดับที่ กท ๒๕๘๕ ตั้งแต่วันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๘ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๑๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
ประกาศ ณ วันที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๘
อภินันท์ ซื่อธานุวงศ์
รองปลดั กระทรวงมหาดไทย ปฎิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงมหาดไทย
นายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้อบังคับของมูลนิธิฯ มีจำนวนทั้งหมด 45 ข้อ แบ่งเป็นหมวดสำคัญต่างๆ อาทิ อำนาจหน้าที่คณะกรรมการมูลนิธิ การเงิน การเลิกมูลนิธิ
ทั้งนี้ ในส่วนการเงิน ระบุว่า ประธานมูลนิธิฯ หรือรองมูลนิธิฯ มีอำนาจสั่งจ่ายเงินได้ครั้งละไม่เกิน 1 แสนบาท เงินสดหรือเอกสารสิทธิต้องนำฝากไว้กับ ธนาคารหรือสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน ถ้ามูลนิธิฯ ต้องล้มเลิกไปทรัพย์สินทั้งหมดตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่กองทัพบก
(ดูประกาศและกฎข้อบังคับฉบับเต็มได้ที่นี่ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2558/D/121/20.PDF)