- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- 6 องค์กรด้านสิทธิฯ-สวล.เรียกร้องปล่อยตัว 3 แกนนำค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน
6 องค์กรด้านสิทธิฯ-สวล.เรียกร้องปล่อยตัว 3 แกนนำค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน
จับ "ประสิทธิชัย หนูนวล -อัครเดช ฉากจินดา -ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร" 3 แกนนำคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน บ่ายคุมตัวเพิ่มเติม อีก 2 ออกจากพื้นที่ชุมนุม ด้าน6 องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม แถลงเรียกร้องรัฐบาลปล่อยตัว
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 6 องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน และศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น ออกแถลงการณ์ ขอให้เจ้าหน้าที่รัฐเคารพเสรีภาพในการชุมนุมสาธารณะ และปล่อยตัวแกนนำค้านโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่โดยไม่มีเงื่อนไข
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมแกนนำค้านโรงไฟฟ้ากระบี่สามคน คือ นายประสิทธิชัย หนูนวล นายอัครเดช ฉากจินดา และ ม.ล.รุ่งคุณ กิตติยากร และได้ควบคุมตัวไว้ที่มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) นั้น
สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน(สสส.) และองค์กรที่มีชื่อท้ายแถลงการณ์ เห็นว่าการใช้เสรีภาพในการชุมนุมเพื่อคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ เป็นการใช้เสรีภาพชุมนุมตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 ที่กำหนดว่า “การชุมนุมในที่สาธารณะ เพื่อเรียกร้อง สนับสนุน คัดค้าน หรือแสดงความคิดเห็นในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง โดยแสดงออกต่อประชาชนทั่วไป..”อีกทั้งผู้จัดการชุมนุมได้แจ้งการชุมนุมต่อเจ้าหน้าที่แล้ว แต่เจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นการชุมนุมผิดเงื่อนไข จึงไปร้องต่อศาลแพ่ง ให้วินิจฉัยว่าให้เลิกการชุมนุมและศาลแพ่งได้มีหมายนัดให้มีการไต่สวน ผู้จัดการชุมนุม ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 09.00 น.
ในระหว่างที่รอการไต่สวนของศาลแพ่งนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการห้ามผู้ชุมนุมไม่ให้ใช้ห้องน้ำ และไม่ให้ส่งอาหารให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมรับประทาน อันเป็นการละเมิดสิทธิความเป็นมนุษย์ขั้นพื้นฐานอย่างรุนแรง อีกทั้งเจ้าหน้าที่ได้จับกุมแกนนำสามคนโดยไม่แจ้งสถานที่ควบคุมตัว ไม่แจ้งญาติ หรือทนายความให้ทราบในระหว่างการสอบสวน อันเป็นการขัดกับหลักสิทธิเสรีภาพตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ทั้งนี้โดย ไม่รอการไต่สวนของศาลแพ่ง ที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 ถือเป็นการใช้อำนาจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและอยู่เหนืออำนาจของตุลาการ อันขัดต่อหลักนิติธรรมอย่างรุนแรง
สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน และองค์กรที่มีชื่อท้ายแถลงการณ์ ขอเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำค้านโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ทั้งสามคนโดยไม่มีเงื่อนไข ทันที และอำนวยความสะดวกแก่ผู้ชุมนุมและคุ้มครองการชุมนุมสาธารณะ เพื่อให้สถาบันตุลาการได้ดำเนินการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ผู้ชุมนุมต่อไป
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ (กพช.) มีมติสร้าง โรงไฟฟ้าถ่านหินที่ อ.คลองเหนือ จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน ได้ปักหลักคัดค้านมติดังกล่าวหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยตลอดทั้งคืนตำรวจได้นำแผงเหล็กมาปิดกั้นทางเข้าออกทำเนียบฯ ไม่อนุญาตให้คน-รถเข้า พร้อมปิดห้องน้ำ จนกระทั่งช่วงเช้าวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวแกนนำ 3 คน ได้แก่ 1.นายประสิทธิชัย หนูนวล 2.นายอัครเดช ฉากจินดา 3.ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร ขึ้นรถตู้นำตัวออกจากพื้นที่ชุมนุม ไปยังมณฑลทหารบกที่ 11
จากนั้นเวลาประมาณ 11.00 น.เครือข่ายฯ มีการแถลงข่าวขอให้เจ้าหน้าที่แจ้งสถานที่การควบคุม 3 แกนนำ และอย่าได้ปิดกั้นสิทธิเสรีภาพในการมาเรียกร้องปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงอย่าปิดกั้นการเข้าพื้นที่ สิทธิการให้รับอาหารและน้ำดื่ม
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายบรรจง นะแส และนายธัชพงศ์ แกดำ 2 แกนนำคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ เพิ่มเติมไปยังมณฑลทหารบกที่ 11
ที่มาภาพ:https://www.facebook.com/profile.php?id=100000935361196
อ่านประกอบ:
ประชุมกพช. ไฟเขียวโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่-ภาคปชช.ปักหลักค้างทำเนียบ
บทเรียนความขัดแย้งจากบ้านกรูด-บ่อนอกถึง “โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่”
กพช.มีมติเห็นชอบให้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทคโนโลยีสะอาดกระบี่ ตามแผน PDP 2015
จากกระบี่ถึงเทพา...กระแสต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินลามทั่วใต้!
ฟังเหตุผล ปมขัดแย้ง คณะกรรมการไตรภาคี โรงไฟฟ้าถ่านหิน กระบี่
เครือข่ายปกป้องอันดามันฯ ขอ 3 ปี พิสูจน์กระบี่ผลิตไฟฟ้าใช้เอง 100% ไม่พึ่งถ่านหิน
"เราควรสงวนทรัพยากรให้รุ่นต่อไปทำมาหากิน" คุยกับปธ.หอการค้า กระบี่ ในหลากมุมมอง