- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- คพช.ยกอุทธรณ์ ม.เกษตรต้องคืนเงินกู้4พันล้านสหกรณ์ออมทรัพย์ มก.
คพช.ยกอุทธรณ์ ม.เกษตรต้องคืนเงินกู้4พันล้านสหกรณ์ออมทรัพย์ มก.
ปม ม.เกษตรฯ กู้สหกรณ์ 4 พันล้าน คณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ มีมติยกอุทธรณ์ เนื่องจากคำอุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น ยันคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ชอบแล้ว ด้านสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อนุมัติงบฯ ปี 2561 ให้ชำระคืนเงินสนับสนุนสหกรณ์ฯ เป็นรายงวดแล้ว
เมื่อปี 2556 สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เคยนำเสนอข่าว กรณีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กู้เงินจาก “สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จำกัด” (สอ.มก.) ตั้งแต่ปี 2544 – 2554 เป็นเงินกว่า 4,428 ล้านบาท ซึ่งอาจจะเข้าข่ายผิด พ.ร.บ. สหกรณ์ พ.ศ. 2542 และเป็นการทำผิดตามคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ ที่ 789/2552 ซึ่งนอกจาก สอ.มก.ไม่ได้มีการเพิกถอน ม.เกษตรฯ ซึ่งเป็นนิติบุคคล ออกจากการเป็นสมาชิกสมทบแล้ว ยังคงปล่อยกู้เงินให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้เรื่อยมานั้น (อ่านประกอบ:ส่อผิดกม. 3 ฉบับ! ม.เกษตรฯ กู้สหกรณ์ออมทรัพย์กว่า 4 พันล้าน/อธิการบดี มก. ปัดตอบกู้เงินผิดระเบียบนับพันล. โบ้ยให้รอสหกรณ์ฯ ชี้แจง/อธิการ-สหกรณ์ออมทรัพย์ฯ ร่อนจม.ชี้แจงงบ 4 พันล. ก่อสร้าง ม.เกษตรฯ /คพช. นิ่ง! ยังไม่วินิจฉัย สอ.มก.ปล่อยกู้ ม.เกษตรฯ ผิดคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์)
สำหรับความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด นายคัมภีร์ นับแสง ผู้อำนวยการกลุ่มกฎหมาย กรมส่งเสริมสหกรณ์ เลขานุการคณะอนุกรรมการพิจารณาเรื่องขออุทธรณ์ ทำหนังสือแจ้งผลการพิจารณายกอุทธรณ์ กรณีสหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จำกัด
ใจความในหนังสือระบุว่า...
ตามหนังสือที่อ้างถึง ท่านขออุทธรณ์คำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ที่ สสพ.2 10/2559 สั่งวันที่ 19 ธันวาคม 2559 เรื่องสั่งให้เพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่วิสามัญ เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2553 และเพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่วิสามัญเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2542 ที่ฝ่าฝืนมาตรา 46 แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ 2542 และคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ที่ 789/2552 ณ วันที่ 16 ธันวาคม 2552
คณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ (คพช.) ได้ประชุมครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2561 ตามระเบียบวาระที่ 4.1.16 พิจารณาเรื่องอุทธรณ์ของสหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จำกัด โดยพิจารณาจากข้อเท็จจริงประกอบข้อกฎหมายแล้วเห็นว่า
การที่นายทะเบียนสหกรณ์อาศัยอำนาจตามมาตรา 16 (8) แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2542 ประกอบมาตรา 49 และ 50 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ชอบที่จะเพิกถอนคำสั่งทางปกครองที่รับจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับสหกรณ์ฯ ที่กำหนดคุณสมบัติสมาชิกสมทบที่เป็นนิติบุคคล มีผลวันที่ 16 ธันวาคม 2552 เป็นต้นไป ต่อมาเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2553 และ 28 กันยายน 2554 ที่ประชุมใหญ่วิสามัญสหกรณ์ฯ มีมติอนุมัติสนับสนุนเงินกู้ยืมให้แก่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งพ้นสมาชิกภาพของสหกรณ์ฯ เป็นการที่ที่ประชุมใหญ่วิสามัญฯ อนุมัติให้บุคคล ซึ่งมิได้เป็นสมาชิกกู้ยืมเงิน
การที่นายทะเบียนสหกรณ์มีคำสั่งเพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่วิสามัญที่ฝ่าฝืนมาตรา 46 แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ 2542 จึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว
และคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์เป็นคำสั่งทางปกครอง มีผลเป็นการเพิกถอนมติที่ประชุมอันมิใช่มาตรการบังคับทางปกครองมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 คณะกรรมการพัฒนาสหกรณ์แห่งชาติจึงไม่มีอำนาจสั่งให้ทุเลาคำสั่งเพิกถอนมติที่ประชุมดังกล่าวได้
จึงมีมติยกอุทธรณ์ของสหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จำกัด กรุงเทพมหานคร เนื่องจากคำอุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น คำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ชอบแล้ว
สำหรับคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ที่ 798/2552 เรื่องการจดทะเบียนข้อบังคับสหกรณ์ ได้กำหนดคุณสมบัติสมาชิกสมทบตามมาตรา 41 แห่งพ.ร.บ.สหกรณ์ 2542 หนึ่งในคุณสมบัติสมาชิกสมทบ คือ ต้องไม่เป็นคณะนิติบุคคล ยังผลให้ ม.เกษตรฯ ไม่สามารถกู้เงินสหกรณ์ฯ ได้อีกต่อไปนับตั้งแต่ 16 ธันวาคม 2552
แต่พบว่า ช่วงหลังปี 2552 – 2554 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ และมีสถานะเป็นนิติบุคคล มีการใช้เงินสนับสนุนจาก "สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จำกัด" เป็นเงินกว่า 4,428 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการต่างๆ รวม 57 โครงการ ตลอด 10 ปีที่ผ่าน (2544-2554)
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังคพช.ทำหนังสือแจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ ได้มีบันทึกข้อความสหกรณ์ออมทรัพย์มก. เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 ระบุว่า สภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พิจารณาได้ข้อสรุป ในปีงบประมาณ 2561 สภามหาวิทยาลัยฯ ได้อนุมัติงบฯ ในการชำระคืนเงินสนับสนุนสหกรณ์ฯ สำหรับโครงการที่มีมติอนุมัติจากที่ประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี 2553 และ 2554 แล้ว บัดนี้อยู่ระหว่างดำเนินการชำระคืน โดยมหาวิทยาลัยฯ จะชำระคืนเป็นรายงวด เพื่อมิให้มีผลกระทบต่อเงินของมหาวิทยาลัยและสหกรณ์