- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- กรมอุทยานแห่งชาติฯ แจงจับซีอีโออิตาเลียนไทย ล่าสัตว์เขตป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เจอ 6 ฐานความผิด
กรมอุทยานแห่งชาติฯ แจงจับซีอีโออิตาเลียนไทย ล่าสัตว์เขตป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เจอ 6 ฐานความผิด
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าฯ แจง ประธานบริหารบริษัทอิตาเลียนไทยฯ ล่าสัตว์ในเขตป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ผิด 6 ฐานความผิด "ศศิน เฉลิมลาภ" ฝากสื่อตามเรื่องเพื่อช่วยกันสร้างบรรทัดฐานที่ดี และเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่กรมอุทยาน และตำรวจ
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ชี้แจงผ่านเฟชบุคhttps://www.facebook.com/DNP1362/ กรณี กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ ก่อสร้าง ขนาดใหญ่ ลักลอบเข้าตั้งแคมป์และล่าสัตว์ป่าในเขตป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ก่อนเจ้าหน้าที่ฯเข้ายึดซากสัตว์ป่าคุ้มครองหลายรายการนั้น สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่ามหาราช เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก รายงานว่า คณะของนายเปรมชัย กรรณสูต ลักลอบตั้งแคมป์พักแรมในจุดบริเวณห้วยปะชิ อยู่ระหว่างหน่วยฯ ทิคอง กับหน่วยฯ มหาราช ซึ่งเป็นจุดที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกไม่อนุญาตให้ตั้งแคมป์ จึงส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปพิสูจน์ทราบ ตรวจพบ
1. อาวุธปืนยาวขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก
2. อาวุธปืนไรเฟิลติดลำกล้องจำนวน 1 กระบอก
3. อาวุธปืนลูกซองแฝด จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนพร้อมใช้งานและพบซากไก่ฟ้าหลังเทากับเนื้อเก้ง จึงได้ควบคุมตัวนายเปรมชัย กรรณสูตรและคณะมาที่สำนักงานเขตฯ ถึงในเวลา 02.40 น.
กระทั่งเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพื้นเพิ่มเติมพบ ซากเสือดำถูกชำแหละเนื้อและหนังแล้วกับเครื่องกระสุนปืนอีกจำนวนมากที่ถูกซุกซ่อนไว้บริเวณที่แค้มป์พัก กำลังส่งดำเนินคดี สภ.ทองผาภูมิ ต่อไป
ทั้งนี้คณะนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัทอิตาเลียนไทยดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 4 คน เข้าไปท่องเที่ยวในเส้นทางสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก -หน่วยพิทักษ์ป่าทิคอง -หน่วยพิทักษ์ป่ามหาราช โปรแกรม 2 วัน 1 คืน (เส้นทางที่เปิดให้ท่องเที่ยวชื่อ ทินวย-ทิคอง-มหาราช ระยะทาง 30 km) เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้ต้องหามีความผิด ดังนี้
1. ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 36 และมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
2. ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 16 และมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
3. ฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 19 และมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
4. ฐานนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามข้อ 1 (1) ของกฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2538) ออกตามความตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
5. ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507
และ 6. สำหรับความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินการแจ้งความกล่าวโทษตามฐานความผิดต่อไป
ขณะที่นายศศิน เฉลิมลาภประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ฝากถึงสื่อมวลชนตามเรื่องกรณีการล่าเสือดำทุ่งใหญ่ เพื่อช่วยกันสร้างบรรทัดฐานที่ดี และเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่กรมอุทยาน และตำรวจ
ทั้งนี้ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้ออกแถลงการณ์กรณีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 ดังนี้
1. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันด้านตกเป็นหนึ่งในพื้นที่ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 และได้รับการดูแลเป็นอย่างดีเสมอมา สาธารณะชนรู้ว่าพื้นที่แห่งนี้จะได้รับการปกป้องและอนุรักษ์ให้ทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่าให้คงไว้ ดังนั้นการที่ผู้ต้องหาเข้าไปในพื้นที่โดยอ้างว่าไม่ทราบจึงเป็นไปไม่ได้
2. 30 ปีที่ผ่าน ประชาชนชาวไทย เจ้าหน้าที่ และองค์กรต่างๆ ให้ความร่วมมือช่วยกันอนุรักษ์เรื่อยมาจนสัตว์ป่าเพิ่มมากขึ้น แต่การที่คนที่มีสถานภาพทางสังคมเข้าไปล่าสัตว์ป่าในพื้นที่อนุรักษ์จึงแสดงให้เห็นถึงการไม่เคารพต่อกฎหมายและผลงานการอนุรักษ์ของสังคมไทย
3. จากการติดตามข่าว นายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 63 ปี ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) อ้างรู้จักต่อข้าราชการในระดับบริหารขอเข้าไปยังพื้นที่โดยให้เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในการท่องเที่ยวพักผ่อน แต่กลับเข้าไปล่าสัตว์ป่าซึ่งเจ้าหน้าที่พบสัตว์ป่าคุ้มครอง ได้แก่ ไก่ฟ้าหลังเทา ซากเนื้อเก้ง ซากเสือดำ ถูกชำแหละและถลกหนัง รวมถึงพบอาวุธปืน 3 กระบอก นับเป็นการกระทำที่ปราศจากความละอายใจและย่ามใจว่าเจ้าหน้าที่คงไม่กล้าดำเนินการตรวจสอบ
4. ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกในความกล้าหาญสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้
5. ขอให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรัฐบาล อย่างได้เกรงกลัวต่ออิทธิพลและสถานะทางธุรกิจอันใหญ่โตของผู้ต้องหา ขอให้สืบสวนและดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดเพื่อเป็นบรรทัดฐานที่ดีต่อไป