เลขาธิการศูนย์นมแม่ฯ ลุ้นร่างพ.ร.บ.การตลาดอาหารสำหรับทารก เข้าสนช.
เลขาธิการศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย หวังกฎหมายคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารทารกฯ คลอดทันรัฐบาลชุดนี้ หวังปกป้องสิทธิเด็กไทยได้ดื่มนมแม่ คุมธุรกิจนมผงละเมิดแอบโฆษณาและทำการตลาดในรูปแบบต่างๆ
จากกรณีที่เมื่อเดือนธันวาคม 2558 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก พ.ศ..... เพื่อควบคุมผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่าย ทำการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็กอย่างเหมาะสม ไม่มีการโฆษณา ไม่มีการส่งเสริม การขาย นั้น
พญ.ยุพยง แห่งเชาวนิช เลขาธิการศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา ถึงความคืบหน้าร่างพ.ร.บ.ฯ ดังกล่าวว่า อยู่ในชั้นการพิจารณาของกฤษฎีกา ซึ่งกำลังขัดเกลาสำนวนอยู่ เชื่อว่าจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และทันรัฐบาลชุดนี้
"เชื่อว่า สนช.จะเข้าใจกฎหมายตัวนี้ไม่ได้ปิดกั้นใดๆ เลย เพียงต้องการส่งเสริมให้บริษัททำการตลาดอย่างมีจริยธรรม กฎหมายตัวนี้ทำให้ให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของบริษัทได้ ซึ่งไม่มีคำใดในกฎหมายห้ามใช้นมผง เพราะนมผงคืออาหาร แต่นมแม่ไม่ใช่แค่อาหารอย่างเดียว นมแม่ คือยา ภูมิคุ้มกัน วัคซีน และมีสารช่วยการเจริญเติบโตของร่างกาย ดังนั้นผู้หญิงควรได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริง ดังนั้นจึงระบุ ให้เป็นหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องให้คำแนะนำ เรื่องนมแม่ นมผง กับคุณแม่และครอบครัวให้เข้าใจ จากนั้นไปพิจารณาตัดสินใจเอง สิ่งเหล่านี้จำเป็นสำหรับสังคมยุคใหม่ที่ต้องมีข้อมูลรอบด้าน ไม่ใช่ได้ข้อมูลเพียงด้านเดียว"
พญ.ยุพยง กล่าวอีกว่า ร่างพ.ร.บ.ควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็กฯ ผลักดันกันมาตั้งแต่ปี 2553 โดยก่อนหน้านี้กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขมีความพยายามเชิญบริษัทต่างๆ มาทำข้อตกลงให้ปฏิบัติตาม ‘Code’ หรือข้อตกลงหลักการตลาดอาหารสำหรับเด็กเล็ก ซึ่งเมื่อไม่มีบทลงโทษ จึงไม่ศักดิ์สิทธิ์ กระทั่ง ปี 2553 ทั่วโลกเห็นควรทำเป็นมาตรการทางด้านกฎหมาย มีกฎระเบียบที่เข้มข้นสามารถใช้บังคับได้ ประเทศไทยจึงมีการผลักดันร่างกฎหมายตัวนี้เรื่อยมา
"กฎหมายตัวนี้จะเป็นหนึ่งในมาตรการปกป้องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในประเทศไทย โดยต้องขับเคลื่อนควบคู่กับการการส่งเสริม และสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ นมผงเป็นอาหาร ไม่ใช่บุหรี่ และเหล้า คนในสังคมอาจสงสัยทำไมอยู่ดีๆ ต้องคุมเข้มผลิตภัณฑ์นี้ด้วยเหตุผลอะไร ขณะที่ระดับโลกเขามีมาตรการนี้ออกมาก่อนบ้านเรา เรื่องแบบนี้จำเป็นต้องอธิบายให้ สนช.เข้าใจ ไม่ใช่อยู่ดีๆ ประเทศไทยคิดขึ้นมาเอง หรืออยากทำ เราเป็นหนึ่งในสมาชิกที่ไปทำความตกลงว่าจะรับรอง ‘Code’ ข้อตกลงหลักการตลาดอาหารสำหรับเด็กเล็ก"
เมื่อถามว่า หากต้องการเพิ่มอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ควรไปยกร่างพ.ร.บ.สนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จะตรงประเด็นกว่าหรือไม่ เลขาธิการศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.สนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ไม่ใช่กฎหมาย แต่เป็นเรื่องของมาตรการ นโยบาย หรือแนวปฏิบัติที่ไม่สามารถทำเป็นกฎหมายได้ เพราะไม่มีบทลงโทษ ตอนที่ร่าง Code เป็นกฎหมายควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก ก็รวมร่างพ.ร.บ.สนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เข้าไปด้วยแล้ว
ที่มาภาพ:http://www.thaihealth.or.th