นพ.ประเวศ วะสี:ปลดบอร์ดสสส.คือความผิดพลาดเชิงยุทธศาสตร์ของคสช.
“อยากแนะนำรัฐบาลว่าต้องศึกษาเรียนรู้การบริหารประเทศในเชิงยุทธศาสตร์ให้ดีกว่านี้ รับผิดชอบบ้านเมืองต้องรู้หมดทุกเรื่อง และอย่าทำผิดพลาดบ่อยๆ สังคมมีความหลากหลาย ต้องอาศัยความเข้าใจ และอาศัยการส่งเสริมเรื่องดีๆ”
เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2559 ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวกับสื่อมวลชนถึงกรณีการปลดบอร์ดสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่โรงแรมเดอะสุโกศล ว่า ไม่ว่ารัฐบาลใดก็ตามควรจะดีใจที่มีองค์กรอย่างตระกูล ส.มาทำงานช่วย เนื่องจากงานลักษณะที่สสส.ทำไม่มีราชการที่ไหนทำได้ เนื่องจากไม่มีความคล่องตัว ประการสำคัญคือสสส.เป็นเครื่องมือที่เปิดพื้นที่ให้กับสังคม ผลิตภัณฑ์มวลชน เมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เข้ามายึดอำนาจบริหารประเทศก็มีองค์กรเหล่านี้ทำงานให้และมีเครือข่ายมวลชนทั่วประเทศ
“แต่วันนี้คสช.กลับบริหารผิดพลาดในเรื่องยุทธศาสตร์การบริหาร เมื่อมีคนไปฟ้องคสช.ว่า องค์การที่ทำงานของสสส.มีการทุจริต เพราะที่ผ่านมางานขององค์กรเหล่านี้มีคนไม่ชอบ และเป็นของแปลก คือ มีการยึดอำนาจทุกครั้งก็จะมีคนไปฟ้อง องค์กรตระกูลส.ทุกครั้ง คนที่มีอำนาจก็รับเรื่องที่ฟ้อง
ความจริงแล้วต้องดูก่อนว่ามีมูลหรือไม่ เขาทำงานอะไรเพื่ออะไร แล้วผู้มาฟ้องเป็นใคร ไม่ใช่ว่ายังไม่ได้ตรวจสอบและไม่มีหลักฐานไม่มีข้อมูลแล้วก็มาประกาศว่าจะไปตรวจสอบ ซึ่งการทำเช่นนี้ถือเป็นการทำลายองค์กร”
นพ.ประเวศ กล่าวอีกว่า เมื่อเข้ามาตรวจสอบแล้วไม่ว่าจะเป็น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) หรือสสส. ก็ไม่เจอความทุจริต เจอแต่เรื่องการตีความเรื่องของสุขภาวะที่ต่างกัน เช่น สวดมนต์ข้ามปีไม่เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ เป็นต้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นรายวันกลับเป็นการโฆษณาว่าสสส.ใช้เงินผิดประเภท กรรมการมีผลประโยชน์ทับซ้อน ทั้งๆที่คนเหล่านั้นเขาทำงานเพื่อสังคมเรื่องมูลนิธิ แล้วสสส.เองเป็นคนเชิญเขามาเป็นกรรมการ ซึ่งการเข้ามาก็ไม่ได้มาค้าขายหากำไร แต่มาทำประโยชน์เพื่อสังคม แต่ก็ไปโฆษณาว่า เขานั้นมีผลประโยชน์ทับซ้อน และใช้มาตรา 44 ปลดกรรมการเหล่านั้น
“การทำงานเชิงยุทธศาสตร์ผู้บริหารจะต้องคิดว่าทำอะไรไปแล้วมีประโยชน์หรือโทษอย่างไร หากทำผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ก็ถือว่าไปทำร้ายองค์กรและกระทบกับคนจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาสาธารณชนต่างรับรู้ว่าคนทำงานภาคประชาสังคมที่ร่วมกับสสส.นั้นมีเจตนาดี สุจริต แต่รัฐบาลกลับมาทำร้ายองค์กรเหล่านี้คนจำนวนหนึ่งจึงเกิดความไม่พอใจ ดังนั้นรัฐบาลต้องรับผิดชอบ เรื่องบ้านเมืองต้องศึกษาให้ดี เพราะต้องทำงานเชิงยุทธศาสตร์”
ราษฎรอาวุโส กล่าวด้วยว่า การบริหารประเทศนั้นยากและมีความสลับซับซ้อน ผู้บริหารต้องรู้ว่าใครดีไม่ดี ใครตั้งใจทำงาน และต้องรักษามวลชน เรื่องสังคมเป็นเรื่องยากกว่าการรบในสนาม หากบริหารไปแล้วเกิดความเสียหายก็ต้องแก้ไข และการทำงานของตระกูลส.นั้นทำงานกันเป็นเครือข่าย ทำงานเชื่อมโยงกันต่างจากราชการที่เป็นโครงสร้างอำนาจ การทุจริตจะมาก ระบบส.ไม่ใช่ระบบอำนาจ ใครทำอะไรรู้เห็นกันหมด ถึงตรวจอย่างไรก็ไม่เจอว่ามีการทุจริต ดังนั้นพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ควรออกมาประกาศว่าตรวจสอบไม่เจอการทุจริต แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยพูดกับสาธารณะว่าจริงหรือไม่จริง มีแต่ข้อมูลรายวันที่บอกว่าใช้เงินผิดประเภท มีผลประโยชน์ทับซ้อน
“ฉะนั้นจึงอยากแนะนำรัฐบาลว่าต้องศึกษาเรียนรู้การบริหารประเทศในเชิงยุทธศาสตร์ให้ดีกว่านี้ รับผิดชอบบ้านเมืองต้องรู้หมดทุกเรื่อง และอย่าทำผิดพลาดบ่อยๆ สังคมมีความหลากหลาย ต้องอาศัยความเข้าใจ และอาศัยการส่งเสริมเรื่องดีๆ”
อ่านประกอบ